ฉะเชิงเทรา – พายุ ส่งท้ายฤดูฝนพัดถล่มชานเมืองแปดริ้วซัดเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นล้มระนาว 42 ต้น ทำไฟฟ้าดับยาวคาดตลอดทั้งคืนนี้ แต่ยังโชคดีที่แนวกระแสลมมีเส้นทางพาดผ่านท้องทุ่งนาออกไปยังนอกเขตตัวเมืองเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีบ้านเรือนราษฎรเสียหายไม่มากนัก ด้าน กฟภ.คาดจะทำการแก้ไขระบบส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แล้วเสร็จได้ภายในค่ำคืนนี้แน่นอน
วันที่ 18 ต.ค.61 เวลา 15.48 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุพายุหมุนส่งท้ายฤดูฝนพัดผ่านเข้าถล่มพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาด 22 KV ล้มลงระเนระนาดเป็นจำนวนมากถึง 42 ต้น ในเขตพื้นที่ ม.5 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้กระแสไฟฟ้าดับสนิทเป็นวงกว้างในทันที แถบย่านหมู่บ้าน เคซี และ โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการสุวินทวงศ์ และพื้นที่ตามแนวเขตรอยต่อติดกับกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ยังมีฝนฟ้าคะนองตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ แต่ยังโชคดีที่บริเวณพื้นที่ดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่เป็นท้องทุ่งนา จึงทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านถูกกระแสลมพัดถล่มพังเสียหายไปจำนวนไม่มากนัก แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันรายงานถึงความเสียหายที่ชัดเจนว่ามีจำนวนกี่หลังคาเรือน
ขณะที่นายทศพร ธนะโสภณ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผ่านทางเพจโซเชียลท้องถิ่นว่า ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาบ้านคลองเจ้าซึ่งเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบพื้นที่แนวเสาไฟฟ้าล้ม ได้รายงานว่า ตามเวลาดังกล่าวได้เกิดฝนตกฟ้าคะนองและมีพายุหมุนพัดเสาฟ้าแรงสูงขนาด 12 เมตรในระบบส่งจ่าย 22 kV ของ กฟภ.ล้มลงจริงจำนวน 42 ต้น
หลังการตรวจสอบแล้วพบว่าเสาไฟที่ล้มจำนวน 42 ต้นนั้นแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงแรกมีเสาไฟฟ้าล้มจำนวน 18 ต้น และช่วงที่ 2 มีเสาไฟฟ้าล้มจำนวน 24 ต้นรวมเป็น 42 ต้น ซึ่งจะทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าดับจากกรณีดังกล่าวจริง
ซึ่งขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดฉะเชิงเทราได้ระดมทีมงานจาก กฟภ.ข้างเคียงเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนแล้ว และคาดว่าจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าคืนเข้าระบบได้ทั้งหมดภายในคืนวันนี้ นายทศพร ระบุ
