ฉะเชิงเทรา – ผู้ผลิตยานยนต์อีวี ขานรับนโยบายคมนาคม เร่งปั้มเรือพลังงานสะอาดออกสู่ตลาดการให้บริการเป็นเรือโดยสารสาธารณะในลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้ทันช่วงปลายปีนี้ ตอบโจทย์ความต้องการของรัฐบาลและคนเมืองกรุงที่ต้องการลดมลภาวะฝุ่นละออง และมลพิษทางอากาศ เดินทางด้วยพลังงานที่สะอาดบริสุทธิ์ และมีความเชื่อมโยงกันในการเดินทางอย่างเป็นระบบรอบด้าน ทั้ง เรือ รถ และราง ให้เสร็จทันปลายปีนี้
วันที่ 21 ส.ค.63 เวลา 13.30 น. นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทพลังงานบริสุทธิ์จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทซึ่งกำลังเดินหน้าพัฒนายานยนต์พลังงานสะอาด ด้วยการเร่งก่อตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และเตรียมที่จะเปิดไลน์ทำการผลิตรถยนต์โดยสารสาธารณะ (รถบัส) ใช้พลังงานไฟฟ้า ยังโรงงานในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วงต้นปีหน้านั้น
ล่าสุดขณะนี้ทางบริษัทไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกำลังเร่งทำการผลิตเรือยนต์ไฟฟ้าหรือ Mine Smart Ferry อีกจำนวน 21 ลำรวมเป็น 22 ลำทั้งเรือต้นแบบ เพื่อให้ทันต่อการนำมาเปิดการเดินเรือเป็นเรือโดยสารสาธารณะในลำน้ำเจ้าพระยาในช่วงปลายปีนี้ หรือไม่เกินช่วงต้นปีหน้า ตามนโยบายของรัฐบาลที่มีแผนระยะยาวในการพัฒนาเรือโดยสารสาธารณะให้หันมาใช้พลังงานไฟฟ้า
หรือพลังงานสะอาด เพื่อลดมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เราจึงได้พยายามที่จะตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลให้ดีที่สุด และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลในการดำเนินการด้วยเช่นเดียวกัน
โดยในวันนี้ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม พร้อมด้วย นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า พร้อมคณะได้เดินทางไปร่วมกันทดสอบการเดินเรือในเส้นทางเดินเรือในลำน้ำเจ้าพระยา จากท่าเรือกรมเจ้าท่า แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ ไปยังท่าเรือท่าช้าง เขตพระนคร ก่อนที่จะเดินทางต่อด้วยรถบัส ซึ่งเป็นยานยนต์ไฟฟ้าอีกชนิดหนึ่งของทางบริษัทไปยังที่สถานีรถไฟ/MRT หัวลำโพง ซึ่งเป็นการเดินทางสาธารณะระบบราง
เพื่อให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันในการเดินทางของประชาชนด้วยระบบยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร และลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนชาวกรุงเทพฯ ซึ่งจะเน้นเส้นทางเดินเรือไปยังท่าเรือที่มีจุดตัดกับรถไฟฟ้า หรือท่าเรือที่ประชาชนสามารถเดินทางไปต่อรถโดยสารได้โดยสะดวก เพื่อย่นระยะเวลาและระยะทาง การเดินทางของประชาชนให้สะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายสมโภชน์ กล่าว
ขณะที่ นายอธิรัฐ กล่าวว่า หลังการลงเรือพลังงานไฟฟ้า Mine Smart Ferry เพื่อทดสอบการเดินทางยังพบปัญหาที่ต้องมีการปรับแก้อีกเล็กน้อย เกี่ยวกับเสียงเครื่องยนต์ที่เริ่มดังขึ้นในขณะที่เรือเร่งความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ จาก 7 นอตไปถึง 12 นอต นั้นเริ่มมีเสียงดังมากขึ้นที่ความเร็วประมาณ 11 นอต ซึ่งคาดว่าหากนำมาใช้ในการเดินเรือเป็นเรือโดยสารสาธารณะในช่วงปลายปีนี้ น่าจะมีการปรับแก้ไขปัญหาดังกล่าวจนสมบูรณ์แบบได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากในวันนี้เป็นเพียงการทดลองเท่านั้น
ส่วนเส้นทางการเดินเรือสายแรกที่จะเปิดให้บริการนั้น ยังต้องรอดูความเหมาะสมก่อน อาจจะเป็นเส้นทางปากเกร็ด ใน จ.นนทบุรี มายังสาทร ซึ่งคาดว่าจะมีเรือไฟฟ้าแบบโดยสารสาธารณะออกมาให้บริการครั้งแรกจำนวนประมาณ 20 ลำ โดยจะคิดอัตราค่าโดยสารเท่ากับเรือโดยสารทั่วไปก่อนในระยะแรก ที่นำออกมาให้บริการ
สำหรับโครงการดังกล่าวนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการลดความแออัดด้านการจราจร และประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้นด้วยระบบขนส่ง รถ ราง เรือ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะสนับสุนนให้ใช้พลังงานบริสุทธิ์ และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือแก่ทางผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง ซึ่งในแต่ละรายนั้นต้องไปพูดคุยปรึกษาหารือกันก่อนอีกครั้ง นายอธิรัฐ กล่าว
