ฉะเชิงเทรา – เตรียมศึกษาเปิดช่องรับทัวร์จากต่างชาติ ฟื้นการท่องเที่ยวหลังโควิด ด้าน รมว.เจ้ากระทรวงเผย ต้องผ่านมติชุมชนให้ท่องเที่ยวได้ในวงจำกัดก่อน โดยให้กักตัวนาน 14 วันในสถานที่พักผ่อนได้ หากผลสวอปผ่านพ้นปลอดโรคอีก 7 วันพร้อมไฟเขียวให้ตะลอนทัวร์ได้ทั่วประเทศ เผยเตรียมใช้ภูเก็ตเป็นโมเดลต้นแบบพร้อมขยายให้คลอบคลุมทั่วประเทศทั้ง 6 ภูมิภาค
วันที่ 24 ส.ค.63 เวลา 11.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน หลังการเดินทางมาเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ “ตลาดสามอิ่ม” ยังที่วัดไชยภูมิธาราม (วัดท่าอิฐ) ม.2 ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้ทางรัฐบาลกำลังเตรียมศึกษาความเป็นไปได้ ในการเปิดรับทัวร์จากต่างชาติ หลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ทำให้นักท่องเที่ยวจากต่างชาตินั้นหายไป
ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้น ได้พยายามประชาสัมพันธ์ให้คนไทยเที่ยวในประเทศไทยก่อน เช่น โครงการเที่ยวด้วยกัน โดยขอให้ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วนั้นให้มาใช้ในสิ่งที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วด้วย ขณะเดียวกันในระยะเวลาอันใกล้นี้ทางรัฐบาลจะได้ทำการศึกษาเพื่อเอานักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย
โดยในขณะนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายให้ทำการศึกษาว่า หากมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย เราควรทำอย่างไร เราจะมีวิธีการป้องกันอย่างไร โดยรายละเอียดทั้งหมด จะออกมาในระยะเวลาอันใกล้นี้ ส่วนเป้าหมายเท่าไหร่นั้น ต้องดูศักยภาพของผู้ที่จะเข้ามาร่วมหรือจังหวัดที่เข้าร่วมว่า หากนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยแล้ว เราจะทำอย่างไรได้บ้าง
โดยเฉพาะการที่มีต่างชาติเข้ามานั้น แน่นอนเราจะต้องมีการป้องกันในเรื่องของโรคระบาดโควิด 19 เราจะต้องทำการตรวจหาเชื้อ เราจะต้องทำการจำกัดบริเวณพื้นที่ของนักท่องเที่ยวใน 14 วันแรก หลังจากนั้นเราจะให้เที่ยวได้ภายในจังหวัดนั้นๆ ก่อน แต่ถ้าจะเที่ยวข้ามจังหวัดจะต้องอยู่ต่ออีก 7 วัน เพื่อทำการตรวจหาโควิด 19 หากไม่พบอีกก็จะสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ทั่วทั้งประเทศไทย
ส่วนจะเริ่มจากจังหวัดไหนก่อนนั้น ตามที่ประกาศไปแล้ว ก็จะเริ่มจากภูเก็ตโมเดลก่อน แต่ทาง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายที่จะให้ทำทั้ง 6 ภูมิภาคไปพร้อมๆ กัน จึงคิดว่าจะต้องทำความเข้าใจกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดว่า จังหวัดไหนที่มีความพร้อมจะรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ
หากจังหวัดไหนพร้อม กระทรวงก็จะเข้าไปทำการพูดคุยทำประชาพิจารณ์จากประชาชนในพื้นที่ว่า ชาวบ้านพร้อมหรือไม่พร้อม จะรับหรือไม่รับ ถ้าชาวบ้านรับเราจะเข้าไปดูว่า ตรงไหนสถานที่แห่งไหนสามารถนำเอานักท่องเที่ยวเข้าไปได้ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องอยู่แต่ในห้องที่จำกัด แต่อาจจะอยู่ภายในรีสอร์ทได้ เพราะหากให้อยู่แต่ภายในห้องตลอด 14 วัน ก็คงไม่มีใครเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ดังนั้น เราจึงจะไม่จำกัดพื้นที่ให้อยู่แต่เฉพาะในห้อง แต่จะจำกัดเฉพาะวง และคนที่ต้อนรับก็จะต้องทำการตรวจสวอป (SWAP) ในเรื่องของโรคโควิด 19 ด้วย ไม่ใช่แค่เฉพาะชาวต่างชาติที่ตรวจ แต่ต้องอยู่กับชาวต่างชาติตลอดเวลา หากออกจากสถานที่ไปแล้วจะกลับเข้ามาใหม่ ก็ต้องตรวจโรคครั้งใหม่ด้วย นายพิพัฒน์ กล่าว
