ฉะเชิงเทรา – Audax ไทยแลนด์เข้ามอบกระเช้าขอบคุณ ตร.แสนภูดาษ ที่ทำงานอย่างรวดเร็วจนสามารถติดตามจับกุมโชเฟอร์รถตู้ตีนผีมาดำเนินคดีได้ ขณะ ผกก.แสนภูดาษ ขอความร่วมมือกลุ่มจัดปั่นจักรยานระยะไกลให้ช่วยแจ้งข้อมูลการจัดแข่งขันให้ทราบก่อนเข้าพื้นที่เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุเกิดขึ้นซ้ำรอย เผยทั่วประเทศมีการจัดปั่นทำนองเดียวกันมากถึงกว่า 200 รายการตลอดทั้งปี
วันที่ 26 ต.ค.61 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มนักจัดการแข่งขันปั่นจักรยานระยะไกล หรือ Audax Randonneurs Thailand ซึ่งนำโดย นายวิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ ประธานออแดกซ์ประเทศไทย ที่เดินทางมาร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วยในวันนี้ ได้เข้ามอบกระเช้าขอบคุณต่อ พ.ต.อ.นิพนธ์ คล้ายสิงห์ ผกก. สภ.แสนภูดาษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยา ยืนยง รอง ผกก.สืบสวน สภ.แสนภูดาษ เป็นตัวแทนรับมอบภายในห้องประชุม ศปก.สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
หลังการรับมอบกระเช้า พ.ต.อ.นิพนธ์ ได้กล่าวต่อประธานกลุ่มออแดกซ์ไทยแลนด์ด้วยว่า อยากจะขอความร่วมมือต่อทางออแดกซ์ด้วยว่า หากจะมีการจัดการแข่งขันหรือทดสอบนักปั่นระยะไกลในลักษณะนี้อีก ขอให้ทางออแดกซ์ช่วยประสานแจ้งให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทราบก่อนล่วงหน้าด้วย เพื่อเป็นการป้องกันอันตราย จากเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก
ข่าวน่าสนใจ:
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในด้านการท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นมา ซึ่งประธานออแดกซ์ไทยแลนด์ได้รับปากว่าจะทำการประสานต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องในครั้งต่อไป หากจะมีการจัดรายการปั่นจักรยานระยะไกลผ่านพื้นที่ สภ.ต่างๆ อีก
ขณะที่ นายศุภเดช เวชวงษ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/61 ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้ประสานงานและจัดการแข่งขันรายการนี้ กล่าวว่า การจัดปั่นรายการออแดกซ์ 1,000 BRM เส้นทางสุวรรณภูมิ-ตราด ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมปั่นในรายการจำนวน 229 คนและกลับเข้ามาถึงยังจุดหมายปลายทางที่ สภ.สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ จำนวน 161 คน มีทั้งชาวไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และนักปั่นจากยุโรป
โดยเริ่มออกจากจุดสตาร์ทเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 20 ต.ค.61 ที่ผ่านมา และมีกำหนดการให้นักปั่นกลับเข้าถึงจุดหมายปลายทางภายในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมาเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน 3 ชม. รวม 75 ชม. ซึ่งระหว่างเส้นทางนั้นมีการเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นบ้าง เช่น จักรยานตกหลุมแล้วล้ม จนนักปั่นบางรายต้องออกจากการแข่งขันไปบ้าง
ขณะที่ Mr.Russel Agaton ได้เดินทางมาเข้าร่วมปั่นในรายการนี้พร้อมเพื่อนนักปั่นชาวฟิลิปปินส์อีก 2 คน โดยมีภรรยาและบุตรอีก 2 คนเดินทางมาด้วย แต่ไม่ได้ร่วมลงสนามปั่นในรายการนี้ สำหรับการวางเส้นทางปั่น 1,000 BRM สุวรรณภูมิ-ตราด ในครั้งนี้ได้มีการสำรวจเส้นทางและกำหนดจุดเตือนจุดระวังอันตรายเอาไว้เกือบตลอดเส้นทางทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เส้นทางปั่นจะเป็นถนนสายรอง เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางสายหลักให้นักปั่นมีความปลอดภัย
ส่วนจุดที่บริเวณทางสามแยกหัวเนิน ซึ่งเป็นเส้นทางตัดผ่านเชื่อมต่อกับถนนสายหลัก 314 ที่ไม่ได้มีการกำหนดจุดเตือนอันตรายเอาไว้นั้น เนื่องจากเป็นจุดที่มีสัญญาณไฟจราจรบังคับผู้ใช้เส้นทางเอาไว้อยู่แล้วจึงน่าจะเป็นจุดที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานทั่วไป โดยไม่คาดว่าจะมีผู้ใช้เส้นทางบนถนนสายหลักฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรมาก่อน
โดยผู้เสียชีวิตนั้นมีการจับกลุ่มปั่นมาด้วยกันจำนวน 5 คัน โดยมีเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ที่เดินทางมาด้วยกันปั่นมาด้วยจำนวน 2 คัน และมีนักปั่นคนไทยร่วมมาในกลุ่มอีก 2 คัน ขณะปั่นข้ามทางแยกหัวเนินนั้นผู้ตายปั่นมาเป็นคันที่ 3 โดยนักปั่นสองคันแรกนั้นปั่นผ่านข้ามมาได้ด้วยดี แต่คันที่ 3 ปั่นออกมากำลังจะข้ามพ้นอยู่แล้ว แต่ก็มาถูกรถตู้ฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนจนเสียชีวิต
สำหรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ได้มีการทำประกันภัยอุบัติเหตุเอาไว้ด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่มีนักปั่นเสียชีวิตในระหว่างเส้นทางการแข่งขันในครั้งนี้ น่าจะได้รับเงินชดเชยจากการทำประกันภัยนักปั่นเอาไว้เป็นจำนวนเงินประมาณ 2 แสนบาทเป็นอย่างต่ำ ส่วนศพของผู้เสียชีวิตนั้นญาติได้นำบินกลับประเทศไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา นายศุภเดช กล่าว
และกล่าวต่ออีกว่า ในประเทศไทยการจัดรายการปั่นระยะไกล 1,000 BRM เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการซื้อเหรียญ Audax จากประเทศฝรั่งเศสนั้น ยังคงมีอีกจำนวนมากหลายรายการในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศรวมกว่า 200 รายการ หรือมีการจัดการปั่นระยะไกลลักษณะนี้ขึ้นตลอดทั้งปี โดยการปั่น Audax หรือปั่นระยะไกลลักษณะนี้สิ่งที่นักปั่นจะได้รับคือความภาคภูมิใจที่เขาสอบผ่านเส้นทาง 1,000 กม.ภายในเวลา 75 ชม. นายศุภเดช กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: