ฉะเชิงเทรา – บังเอิญพลิกโลก คดีทำร้ายผู้กองปูเค็ม กลายเป็นเหตุขับรถปาดหน้าเฉี่ยวชนกันกับกลุ่มแก๊งค์วัยรุ่น จนถูกไล่ติดตามไปในซอยตันและถูกรุมทำร้าย ก่อนแก๊งค์บาทาทมิฬที่มากันนับสิบจะอุ้มนำไปทิ้งลงคูน้ำในซอยเปลี่ยวริมทาง เบื้องต้นติดต่อเข้ามามอบตัวแล้ว 5 ราย รับสารภาพบอกไม่รู้เป็นนักเคลื่อนไหวคนดัง พร้อมฝากขอโทษ ด้านตำรวจเตรียมดำเนินคดีข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย พร้อมเตรียมขยายผลติดตามตัวมาดำเนินคดีทั้งก๊วน
วันที่ 17 ก.ย.63 เวลา 09.30 น. พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รอง ผบก. พ.ต.อ.นเรวิช สุคนธวิท รอง ผบก. ภ. จว.ฉะเชิงเทรา และ พ.ต.อ.ประสาน แก้วมหาสุริวงษ์ ผกก. สภ.พนมสารคาม ได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณวิชญ์ อนันต์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่170 ถ.หลักเมือง ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด นายนิรันดร์ บุญชัยยะ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 ม.11 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
นายชาตรี ชมชื่น อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211 ถ.เทศบาลพัฒนา 1 ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี นายพีรวัส โรจนฤทัยพงศ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/50 ม.6 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี และนายพีระเดช วิริยะประเสริฐ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/3 ม.2 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี
โดยระบุว่าทั้ง 5 คนนี้เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้าย รอ.ทรงกลด ชื่นชูผล อายุ 55 ปี ที่อยู่ปัจจุบัน 227/1 ม.2 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง มาแถลงข่าวยังภายในห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากผู้กองคนดังได้เดินทางมาทำการไลฟ์สดเกี่ยวกับขบวนการวางตู้สล็อต ในพื้นที่ตลาดศูนย์การค้าศิริพนม ภายในตัว อ.พนมสารคาม
ก่อนที่จะหายตัวไปหลังทางเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจยึดตู้สล็อตเสร็จเรียบร้อยแล้ว จนมีชาวบ้านพบตัวว่าถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนขวาหัก หน้าตาปูดบวม ถูกนำตัวส่งไปยัง รพ.พนมสารคาม และส่งต่อมารักษาตัวยังที่ รพ.พุทธโสธร ในตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตามที่มีการแชร์เหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ย.63 ) ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.ชาคริต ได้แถลงข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้สำนึกผิดจากการที่ได้ทำร้ายผู้กองปูเค็มลงไป เนื่องจากไม่รู้ว่าเป็นนักเคลื่อนไหวคนดัง จึงได้ติดต่อขอเข้ามามอบตัวตั้งแต่เมื่อเวลา 23.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ก่อนถูกรุมทำร้ายนั้น กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนงานทำงานในโรงงาน ย่านนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ที่เดินทางมาด้วยกันประมาณ 10 คน ด้วยรถยนต์ 5 คัน เพื่อที่จะพากันไปท่องเที่ยวยังที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
แต่ระหว่างทางเมื่อมาถึงตัว อ.พนมสารคาม ได้พากันแวะเข้าไปหาซื้ออาหารกินเป็นมื้อกลางวัน จึงได้แวะเข้าไปยังภายในตลาดศูนย์การค้าดังกล่าว แต่ระหว่างที่จะขับรถเข้าไปจอด ได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้าสีเทาของผู้กองปูเค็มขับถอยสวนออกมาปาดหน้าพอดี จึงเกิดการเฉี่ยวชนกัน แต่ผู้กองปูเค็มได้พยายามรีบขับรถออกไปโดยที่ไม่ได้หยุดพูดคุยกันก่อน จึงทำให้กลุ่มวัยรุ่น คือ นายโสภณวิชญ์ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะคันที่ถูกเฉี่ยว ได้ขับรถไล่ติดตามไป
ขณะที่ผู้กองปูเค็มได้พยายามขับรถหลบหนีและเข้าไปยังในซอยตัน จนถูกกลุ่มวัยรุ่นที่ไล่ติดตามรุมทำร้ายทุบตีด้วยท่อนไม้ยูคาลิปตัสในที่พักคนงานก่อสร้างบริเวณนั้น จนแขนขวาหักและหมดสติไป แต่หลังจากก่อเหตุแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุได้รู้สึกสำนึกผิด จึงได้นำร่างของผู้กองปูเค็มขึ้นรถเพื่อที่จะนำไปส่งยังที่ รพ. แต่ระหว่างทางได้เกิดเกรงกลัวความผิด จึงได้นำร่างของผู้กองปูเค็มลงไปทิ้งไว้ยังป่าข้างทาง ริมเส้นทางหัวกระพี้-เกาะไม้แดง ดังกล่าว พล.ต.ต.ชาคริต กล่าว
และกล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้เตรียมตั้งข้อกล่าวหาต่อกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดว่า “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลายทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่น” เนื่องจากตั้งใจขับรถให้เบียดชนกันกับรถของผู้กองปูเค็ม และจะได้ทำการขยายผลไปติดตามตัวเพื่อนร่วมแก๊งค์ อีกจำนวน 5 คน มาดำเนินคดีด้วย
ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหาได้รู้สึกสำนึกผิดแล้ว และให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และไม่ได้มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี เนื่องจากเข้ามามอบตัวด้วยตนเอง จึงไม่ได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว พล.ต.ต.ชาคริต กล่าว
ด้าน นายโสภณวิชญ์ กล่าวว่า พวกตนต้องขอกราบขอโทษผู้กองปูเค็มที่ได้พากันลงมือรุมทำร้ายร่างกายลงไป เพราะความโมโหบันดาลโทสะในขณะเกิดเหตุ เนื่องจากไม่รู้จักว่าเป็นคนดัง และผู้กองปูเค็มไม่ยอมลงจากรถมาคุยด้วยทั้งที่ตนเองก็อยากจะเจรจา และขอโทษคนในสังคมผ่านทางพี่ๆ สื่อมวลชนด้วย และหลังจากนี้จึงอยากที่จะเข้าไปเยี่ยมและขอโทษทางฝ่ายของผู้กองปูเค็มด้วย นายโสภณวิชญ์ กล่าว
