ฉะเชิงเทรา – ดับเบิ้ลพี เดินหน้าลุยโครงการก่อสร้างนิคมฯ “บลูเทค ซิตี้” หลังจัดเวทีรับฟังความเห็น ปชช.ในพื้นที่ ไม่สนเสียงค้านจากทนายคนดังที่นำชาวบ้านยื่นร้องต่อศาลปกครองกลาง แจงเยียวยาชาวบ้านผู้ที่เคยทำกินในพื้นที่อย่างครบถ้วนแล้ว เผยมีผู้ได้รับผลกระทบตัวจริงเพียง 14 ครัวเรือน ขณะส่วนที่เหลือตรวจสอบแล้วพบเป็นบุคคลภายนอกพื้นที่
วันที่ 30 ต.ค.61 เวลา 08.30-12.30 น. ที่อาคารเอนกประสงค์ อบต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา บริษัทดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด ได้มีการเดินหน้าจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสียตามกระบวนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการดำเนินโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม “บลูเทคซิตี้” โดยมีประชาชนในพื้นที่โดยรอบรัศมี 5 กม.ฝั่งตะวันออกแม่น้ำบางปะกงรวม 9 ตำบล ประกอบด้วย
ต.เขาดิน ต.บางผึ้ง ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง ต.คลองบ้านโพธิ์ ต.บางซ่อน อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา และ ต.บางนาง ต.เกาะลอย ต.บางหัก อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยมีผู้มาเข้าร่วมรับฟังและเสนอข้อคิดเห็นจำนวนกว่า 480 คน ซึ่งภายในเวทีการรับฟังความคิดเห็น ส่วนใหญ่ไม่มีชาวบ้านรายใดนำเสนอข้อมูลคัดค้านการก่อตั้งนิคมฯ ดังกล่าว
เนื่องจากทางฝ่ายของบริษัทดับเบิ้ลพีนั้น ได้มีการแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนที่จะดำเนินการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวในพื้นที่ โดยที่จะไม่เปิดรับอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลภาวะ หรือโรงงานอุตสาหกรรมมีพิษเข้ามาสู่ในพื้นที่อย่างชัดเจน อีกทั้งมีข้อเสนอที่จะเกิดประโยชน์ต่อคนในชุมชนดั้งเดิมและคนใน จ.ฉะเชิงเทรา
ที่จะให้สิทธิต่างๆ ก่อนเป็นลำดับแรก เช่น การเปิดรับคนในพื้นที่เข้าทำงาน การร่วมมือกับสถานศึกษาในพื้นที่พัฒนาศักยภาพให้มีการศึกษาเรียนรู้ทางด้านเทคโนโลยีอันทันสมัยตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาก่อตั้ง ซึ่งจะเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้นวัตกรรมชั้นสูงในการผลิต และการทำให้นิคมเป็นแลนด์มาร์คที่ดูสวยงาม และการสร้างพื้นที่สีเขียวโดยรอบในเขตนิคมอุตสาหกรรม
ขณะที่ผู้เข้าร่วมเสนอข้อคิดเห็นบางราย มีความกังวลในบางประการที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในพื้น ซึ่งเดิมพื้นที่เคยเป็นทุ่งรับน้ำ และการระบายน้ำลงสู่ลำน้ำบางปะกง การเตรียมการจัดการเกี่ยวกับปัญหาด้านการจราจรที่อาจหนาแน่นเพิ่มขึ้นและส่งผลกระทบต่อประชาชนดั้งเดิม ซึ่งทางบริษัทผู้ดำเนินโครงการได้รับปากว่าจะนำไปศึกษาและจะนำกลับมาเสนอในเวทีรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งในช่วงกลางปีหน้า
หลังการประชุม น.ส.กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารโครงการบริษัทดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด และนายวิวัฒน์ โฆษิตสกุล ที่ปรึกษาผู้พัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จนมีการเข้าร้องเรียนต่อทางหน่วยงานต่างๆ เช่น ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา และต่อมาได้มีทนายความนักเคลื่อนไหวชื่อดัง ได้นำไปยื่นร้องต่อศาลปกครองกลางถึงเรื่องดังกล่าวว่า
ในเรื่องการเยียวยาประชาชนที่เคยทำกินอยู่ในพื้นที่นั้น ได้ทำการเยียวยาจนเป็นที่พึงพอใจทุกรายแล้ว และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดจากหลายหน่วยงาน ทั้งทาง อำเภอบางปะกง อบต.เขาดิน สำนักงานเกษตรอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรม ตลอดจนผู้นำชุมชน ปรากฏว่ามีประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ เพียง 14 ครัวเรือนเท่านั้น
ส่วนผู้ที่เคยลงชื่อร้องเรียนไว้ รวมทั้งหมดกว่า 30 รายนั้น เป็นบุคคลนอกพื้นที่ ที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่เคยเข้ามาทำกินในพื้นที่แห่งนี้มาก่อน ซึ่งทางเราได้เข้าไปพูดคุยเจรจา จนมีการยินยอมถอนชื่อแจ้งความร้องเรียนออกไปหมดแล้ว จึงได้เดินหน้าทำโครงการก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรม บลูเทคซิตี้ ต่อไป
ส่วนชาวบ้านผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ จากโครงการ ทางบริษัทได้เสนอแนวทางในการเยียวยาด้านที่อยู่อาศัย ในการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ให้ และให้สิทธิในการเช่าอยู่อาศัยบนเนื้อที่ครอบครัวละ 50 ตารางวา ในอัตราค่าเช่าที่ถูกมาก เพียงวันละ 10 บาทต่อครอบครัวหรือเดือนละ 300 บาทเท่านั้น โดยเงินค่าเช่าที่เก็บได้มาจะนำไปใช้จ่ายทางด้านสาธารณูปโภคภายในโครงการหมู่บ้านของชาวบ้านเอง
โดยที่ทางบริษัทไม่ได้เก็บนำเงินคืนกลับมา เป็นระยะเวลารวม 10 ปี หรือหากประชาชนรายใดต้องการที่จะได้สิทธิ์ในการครอบครองที่ดินที่อยู่อาศัยแปลงดังกล่าวนั้น สามารถทำสัญญาเช่าซื้อจากทางบริษัทและผ่อนชำระแบบปลอดดอกเบี้ยได้ ในราคาวันละ 100 บาทเศษ หรือเดือนละกว่า 3-4 พันบาทเท่านั้น รวมระยะเวลาสัญญา 10 ปี ก็จะได้สิทธิ์ในการครอบครองที่ดินปลูกบ้านเป็นของตนเองจำนวน 50 ตรว.ดังกล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทางบริษัทดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด เป็นเพียงบริษัทนายหน้ารับเหมาช่วงต่อมาดำเนินโครงการนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยทางบริษัทดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด ได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นผู้ดำเนินโครงการตัวจริงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเพียงบริษัทนายหน้าหรือผู้รับเหมาช่วงต่อมาดำเนินการแทนแต่อย่างใด น.ส.กุลพรภัสร์ กล่าว
