ฉะเชิงเทรา – พขร.รถไฟ เผยเปิดไฟส่งสัญญาณเตือน พร้อมให้สัญญาณแตรแล้วไม่เป็นผลก่อนลุยขยี้รถบัสนักบุญกฐินจนย่อยยับ เชื่อคนขับไม่เห็นสัญญาณเตือนและขบวนรถ หรือระบบเบรกอาจขัดข้อง ด้านบุตรสาวคนขับรถบัสรุดดูศพพ่อในที่เกิดเหตุ พลางวิ่งมองหาน้ำตาปริ่มไหลซึม ขณะผู้เป็นพี่สาวปล่อยโฮเมื่อเห็นร่างของผู้เป็นน้องชายติดอยู่คาซาก
วันที่ 11 ต.ค.63 นายวีรวัฒน์ วรวงษ์ พนักงานขับรถ (พขร.) ขบวนรถไฟเที่ยวบรรทุกสินค้าที่ 852 กล่าวเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวขณะที่ยังอยู่ในที่เกิดเหตุว่า ได้ขับรถไฟขบวนบรรทุกขนส่งตู้สินค้าหมายเลขหัวจักร 5102 มาจากท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อนำตู้สินค้าไปส่งยังที่ศูนย์ ICD ลาดกระบัง รวมความยาวที่ลากมาจำนวน 50 ตู้
เมื่อผ่านเส้นทางมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 08.05 น. ได้เห็นรถบัสคันดังกล่าวจอดหยุดอยู่บนเนินริมขอบทางของรางรถไฟด้านซ้ายของขบวนรถ ซึ่งตนกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ จากนั้นได้เห็นตัวรถบัสเริ่มไหลเข้ามาหารางที่ตนกำลังขับเคลื่อนขบวนรถไฟผ่าน ที่รางสายเก่าด้านขวาสุด จากทั้งหมด 3 ราง ซึ่งตนได้ยินเสียงคนในรถหวีดเสียงร้อง
แต่ตัวรถบัสก็ยังไต่เข้ามาหาขบวนรถไฟเรื่อยๆ ตนจึงเริ่มใส่ห้ามล้อ โดยที่ก่อนหน้านั้นตนได้มีการเปิดหวีด และเปิดเฮดไลน์มาโดยตลอด แต่เข้าใจว่าคนขับรถบัสนั้นอาจมองไม่เห็น จึงยังได้ขับรถไต่เข้ามาหา หรืออาจเป็นเพราะรถไหลเข้ามาแล้วแต่เบรกไม่อยู่จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น นายวีรวัฒน์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.นิสา สวนยิ้ม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 ม.3 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ บุตรสาวของนายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี คนขับรถบัสนำคนงานถุงพลาสติกไปทอดกฐิน คันหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าผู้เป็นบิดาไม่ได้บอกอะไรต่อคนในครอบครัว และไม่รู้ว่าจะออกมายังต่างจังหวัด ซึ่งปกติผู้เป็นบิดาเป็นคนขับรถรับส่งพนักงานตามโรงงานอุตสาหกรรม (บ.เดลต้า) ใน จ.สมุทรปราการ
แต่ในวันนี้ได้มารับงานเหมาพิเศษและออกมายังต่างจังหวัด ซึ่งครั้งแรกหลังเกิดเหตุไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่จำรถคันที่พ่อขับเป็นประจำได้ จากที่เห็นในไลฟ์สดผ่านทางโซเชียล จึงได้รีบชวนผู้เป็นป้า และญาติคนอื่นๆ รีบเดินทางมายังในที่เกิดเหตุจึงพบว่าเป็นรถคันที่พ่อขับมาจริงๆ หลังจากรับศพผู้เป็นบิดาแล้วจะนำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลยังที่วัดบางบ่อ ใน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ น.ส.นิสา กล่าว
