ฉะเชิงเทรา – นาทีระทึกซ้ำ ฝูงชนหวิดถูกย่างสดรอบ 2 หลังเปลวเพลิงลุกที่ปากท่ออีกรอบเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทำทั้ง จนท. คนมาคอยเฝ้ามุงดูสังเกตการณ์และหน่วยกู้ภัยฯ พากันวิ่งกระเจิงออกมาจากที่เกิดเหตุ อย่างอลหม่าน แต่โชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์ประทุกลับขึ้นมาใหม่อย่างรุนแรง ด้านชาวบ้านในรัศมี 500 ม.โอด หลังต้นกล้วยเหี่ยวเฉา ระบุรับงานทำกระทงไว้ ต้องบอกคืนในทันทีหลังต้นกล้วยใบแห้งสลดเปลวเพลิง
วันที่ 22 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ได้เกิดเปลวเพลิงประทุขึ้นซ้ำอีก ที่บริเวณปากปล่อง ของท่อส่งก๊าซ ที่เพิ่งจะระเบิดขึ้นมาจากพื้นดินเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา จนทำให้มีเปลวเพลิงประทุกลายเป็นลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และแผ่ความร้อนเผาผลาญบ้านเรือนพังเสียหายนับสิบหลัง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ถูกเพลิงไหม้ไปเกือบ 100 คัน และมีผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ 26 คนนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ค่ายรถยนต์ ผุดบูธเพิ่มช่องทางปั๊มยอดช่วงปลายปี หลังตลาดยังซบยาวต่อเนื่อง
- ปราจีนบุรี ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพ ปั่นปันน้ำใจ ฉะเชิงเทรา-หนองคาย
- จนมุมเพราะไก่ชน!! ตำรวจบางละมุงวางแผนเหนือเมฆ หลอกแก๊งค์ค้ายานรกมาซื้อไก่ชน ก่อนตามรวบยกแก๊งค์ ยึดยาบ้าแสนเม็ด - ไอซ์ 1 กก. พร้อมรถ 2 คัน…
- สจ.ธรรมชาติ ไม่มาศาลฉะเชิงทรา ส่งสองทนายคู่หูยื่นฟ้องอัจฉริยะแทน
ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้ประชาชนที่มาเฝ้าคอยสังเกตการณ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และหน่วยกู้ภัย ต่างพากันวิ่งกระเจิงออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมส่งสัญญาณเตือนภัยให้แก่ผู้คนร่นถอยกันออกมาจากที่เกิดเหตุกันอย่างอลหม่านอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่ได้มีเหตุการณ์เปลวเพลิงกลับมาลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรงอะไรมากนัก หลังผ่านไปประมาณ 5 นาที ทาง จนท.จากบริษัทฯ ผู้ดูแลท่อก๊าซ ได้ทำการควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้อีกครั้ง
ขณะที่ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ได้บ่นบอกต่อทางผู้สื่อข่าวว่า ได้รับงานทำกระทงในวันลอยกระทงไว้ ในช่วงปลายเดือนนี้ แต่ต้นกล้วยที่ปลูกไว้ถูกเปลวเพลิงจากท่อก๊าซระเบิดเผาผลาญใบตองไปจนหมดเกลี้ยง จึงไม่สามารถที่จะผลิตกระทงให้แก่ผู้ว่าจ้างได้แล้ว ถึงตอนนี้จึงทำให้ต้องบอกคืนงานต่อผู้ว่าจ้างไป
สำหรับผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านนั้น รายแรกคือ นางละมัย กลมอ่อน อายุ 85 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังแรกด้านหน้าสุดบริเวณชุมชนติดรั้วโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี ม.4 ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งถูกแรงระเบิดจนร่างกระเด็นออกมานอกบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ระหว่างถูกนำตัวส่งไปรักษายัง รพ.
ส่วนรายที่ 2 คือ นางมะลิ บุญมั่น อายุ 76 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ในบ้านหลังที่ 2 ถัดจากหลังแรกเข้าไปยังด้านใน ปกติพักอาศัยอยู่ในบ้านแค่เพียง 2 คนกับหลานชาย แต่หลานได้ออกไปทำงานไม่อยู่บ้านนางมะลิ จึงอยู่แต่เพียงลำพังขณะเกิดเหตุ ส่วนอีกรายเป็นคนงานทำถนนพักอาศัยอยู่ในแคมป์คนงานไม่ทราบชื่อ ชาวบ้านต่างพากันบอกต่อผู้สื่อข่าว
ส่วนด้าน นายมานะ ยิ้มเจริญ อายุ 48 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังที่ 4 เลขที่ 38/1 ม.4 ต.เปร็ง เล่าเหตุการณ์ในระหว่างประสบเหตุว่า ตนเองเป็นช่างซ่อมรถ เพิ่งจะรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ และกำลังจะก้มนั่งลงแช่ชามข้าวอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.05 น. จึงลุกยืนหันหน้าไปดูและพบว่ากำลังมีเปลวเพลิงลุกไหม้เป็นลูกไฟขึ้นมา
และเริ่มมีไอความร้อนตามมาจากเปลวเพลิง ที่ร้อนจัดมากมากระทบผิวหนังจนรู้สึกได้ จึงได้พากันวิ่งหลบหนีตาย ออกไปจากบ้านพร้อมด้วยน้องสาวของภรรยา ก่อนที่จะไปหลบซ่อนตัวกันที่ด้านหลังของโรงยิมฯ ในโรงเรียน จึงไม่ได้รับอันตรายจากเหตุที่เกิดขึ้น แต่บ้านเสียหายเกือบหมดทั้งหลัง นายมานะ กล่าว
–ท่อก๊าซระเบิด กระทบถึงแปดริ้ว ทำชาวบ้านรอยต่อผวาหนัก ขณะโรงเรียนปล่อย นร.กลับทันที
–ชาวแปดริ้ว บอกเห็นเปลวเพลิงจากท่อก๊าซลุกท่วมสูงเสียดฟ้า
–ท่อก๊าซระเบิดกระทบถึงแปดริ้วทำชาวบ้านรอยต่อผวาหนัก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: