ฉะเชิงเทรา – ตั้งศพเรียงกันสวด เหยื่อครูเกษียณตีนผีขับกระบะขยี้ซาเล้งดับ 3 ถูกนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลพร้อมกันภายในวัดเดียว ขณะญาติเหยื่อเป็นสาววัย 16 อนาคตสับสนวิถีเปลี่ยน หลังขาดเสาหลักคนดูแลและไร้ญาติสนิท ขณะผู้เป็นพี่ชายวอนขอคนเมาอย่าขับรถ เพราะจุดจบจะทำคนอื่นเดือดร้อนลำบาก ระบุไม่มีใครอยากให้คนในครอบครัวจากไปแบบนี้ มันไม่ควรเกิดขึ้นเลย
วันที่ 28 ธ.ค.63 เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดธรรมรัตน์ใน พื้นที่ ม.6 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพเหยื่อของนายเลิศ บาริศรี อายุ 67 ปี อดีตข้าราชการครูวัยเกษียณ ที่ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน ผก-7847 ชลบุรี พุ่งเข้าชนเสยท้ายรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง ยี่ห้อยามาฮ่า สปาร์ค หมายเลขทะเบียน 1 กช-4222 ฉะเชิงเทรา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย
ข่าวน่าสนใจ:
เหตุเกิดบนถนนสายเขาไม้หอม-บ้านธรรมรัตน์นอก พื้นที่ ม.1 ต.เกษตรสุวรรณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี วานนี้ (27 ธ.ค.63) เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ขณะเกิดเหตุทำให้ผู้ที่นั่งมาบนรถ จยย.พ่วงข้างกระเด็นตกจากรถลงมาถูกเหยียบซ้ำ ส่วนคนขับรถยนต์กระบะได้พยายามขับหลบหนีแต่ถูกควบคุมตัวไว้ได้ ล่าสุดในวันนี้ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.กัลยาพร แซ่โซว อายุ 54 ปี และ ด.ช.ฤาฤทธิ์ คงคำ อายุ 9 ปี หลานชาย
รวมถึง น.ส.นิพาภรณ์ ผ่องใส อายุ 47 ปี น้องสาว ได้ถูกญาตินำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรมศพยังที่วัดธรรมรัตน์ใน ดังกล่าว ภายในศาลาเดียวกันแบบเรียงซ้อนกันทั้ง 3 ศพ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติๆ และชาวบ้านที่เดินทางมาร่วมในงานกว่า 120 คน โดยนายนัส ผ่องใส อายุ 75 ปี ผู้เป็นบิดา กล่าวว่า น.ส.กัลยาพร เป็นบุตรสาวคนที่ 3 ส่วน น.ส.นิพาภรณ์ เป็นบุตรสาวคนที่ 5 จากทั้งหมด 6 คน และด.ช.ฤาฤทธิ์ เป็นเหลน ซึ่งเป็นลูกของบุตรชาย น.ส.กัลยาพร
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในระหว่างตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก จากความสูญเสียที่เกิดขึ้น และรู้สึกแน่นไปหมด จึงขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต่อไป ซึ่งในวันนี้ทางภรรยาและบุตรสาว ของคนขับรถได้เดินทางนำเงินจำนวน 5 หมื่นบาทมาช่วยค่าทำศพแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. และพยายามที่จะเสนอเงินเยียวยาให้ทั้ง 3 ศพเป็นเงินจำนวน 4 แสนบาท แต่บรรดาบุตรของผู้ตายทั้ง 2 รายยังทำใจไม่ได้และยังไม่ยอมรับ เนื่องจากต้องสูญเสียคนไปมากถึง 3 ชีวิต แต่จะนำเงินแค่ 4 แสนบาทมาแลกกันนั้นมันเทียบกันไม่ได้เลย นายนัส กล่าว
ขณะที่ นายมานิต ผ่องใส อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/3 หมู่ 16 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา บุตรชายของ น.ส.นิพาภรณ์ กล่าวว่า หลังมารดาต้องมาเสียชีวิตลงเพราะคนเมาขับรถชนแล้วพยายามที่จะหลบหนีนั้น ได้ทำให้ครอบครัวของเราลำบากเนื่องจากปกติมารดา ซึ่งมีอาชีพขายไก่ย่าง ข้าวเหนียวปิ้ง และลูกชิ้นทอด ภายในร้านเดียวกันกับผู้เป็นป้าที่มีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวนั้น
จะเป็นผู้ดูแลน้องสาว คือ น.ส.สุธาทิพย์ ปัญญาสีห์ วัย 16 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 ในโรงเรียนมัธยมประจำ อ.ท่าตะเกียบ จะไม่มีคนคอยดูแลเนื่องจากตนเองนั้นไม่ได้อยู่ในพื้นที่ โดยมีอาชีพเป็นพนักงานในโรงงานใน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ห่างไกลจากบ้านกว่า 100 กม. ส่วนตาซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่นั้น ได้ไปรับจ้างทำงานยังในต่างพื้นที่เช่นเดียวกัน
ขณะที่บรรดาญาติๆ ที่อยู่ในพื้นที่นั้นก็ต่างมีอาชีพที่ต้องต่างคนต่างทำมาหากินแตกต่างกันไป และส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย จึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป และจะให้น้องสาวไปอยู่กับใคร ทั้งที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียนในพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ อยู่ด้วย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงอยากวอนขอว่า คนเมาอย่าขับรถเลย เพราะจุดจบจะต้องทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนลำบาก และไม่มีใครอยากให้คนในครอบครัวจากไปแบบนี้ มันไม่ควรเกิดขึ้นเลย นายมานิต กล่าว
ขณะที่ นายนที คงคำ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/2 ม.16 ต.คลองตะเกรา ผู้ที่ต้องสูญเสียทั้งผู้เป็นมารดาและบุตรชายวัย 9 ขวบ กล่าวว่า มารดาพร้อมน้าสาวและบุตรชาย ได้พากันเดินทางไปตลาดที่ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เพื่อที่จะไปซื้อของมาไว้ทำก๋วยเตี๋ยวขาย รวมถึงอาหารตามสั่ง และไก่ย่าง ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางอะไรบอกมาก่อนว่าจะเกิดความสูญเสียขึ้น ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตที่เกิดขึ้นกับครอบครัวอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
ส่วนกรณีที่คนขับเขาอ้างว่ามารดาของตนขับรถตัดหน้านั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากมีพยานและคนเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก รวมถึงในที่เกิดเหตุยังมีกล้องวงจรปิดด้วย นอกจากนี้หลังเกิดเหตุยังพบว่าผู้ที่ขับขี่รถยนต์กระบะ และพุ่งเข้ามาชนท้ายรถคันของมารดานั้น ยังเป็นคนที่ขับรถมาด้วยความมึนเมาสุราด้วย หลังจากที่ทาง จนท.ตำรวจ ได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และออกสำนวนยืนยันมาให้แล้ว
โดยตนมีบุตรชายเพียงคนเดียว ที่ต้องมาสูญเสียชีวิตจากการที่คนเมาแล้วขับรถ จึงอยากจะบอกไปถึงยังคนที่เมาสุราแล้ว ขอให้คิดสักนิดก่อนที่คุณจะขับรถ แต่ขอบอกว่าอย่าขับเลยครับ ขอให้เมาแล้วนอนดีกว่า เพราะอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอด และไม่มีใครอยากสูญเสีย สำหรับงานสวดศพนั้น จะตั้งบำเพ็ญกุศล 3 คืนในเวลา 20.00 น. และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 31 ธ.ค.63 นี้ นายนที กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: