ฉะเชิงเทรา – หยุดเชื้อได้แล้ว แปดริ้วเข้าสู่ภาวะปลอดการระบาดของโรคโควิด 19 หลังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องมานานครบ 14 วันเต็มแล้ว ขณะในพื้นที่ยังมีผู้ป่วยจากโรคยังอยู่ระหว่างการรักษาอีกจำนวน 4 ราย หายกลับบ้านได้แล้วจำนวน 23 ราย จากทั้งหมดมีผู้ติดเชื้อจากการระบาดรอบ 2 รวม 27 ราย ด้านผู้ว่าประกาศปลดล็อกพื้นที่แล้ว แต่ยังให้คงมาตรการระวังป้องกันการระบาดอย่างเข้มงวด
วันที่ 29 ม.ค.64 เวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ระลอก 2 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดเริ่มเข้าสู่ภาวะปลอดจากการระบาดของโรคแล้ว หลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมมายาวนานถึงกว่า 14 วันเต็มแล้ว โดยมีการตรวจพบเชื้อรายสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 และประกาศยืนยันผลในวันที่ 15 ม.ค.64 ที่ผ่านมา แต่ยังคงมีผู้ป่วยด้วยโรคโควิด 19 นอนพักรักษาตัวอยู่ภายในสถานพยาบาลอีกจำนวน 4 ราย จากทั้งหมด 27 ราย มีผู้ได้รับการรักษาจนหายแล้วจำนวน 23 ราย
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ภายในห้องประชุมมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อทั้ง 11 อำเภอ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามผลการดำเนินงานด้านต่างๆ จากนั้นได้ร่วมกันพิจารณาและติดตามผลการดำเนินงาน ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
โดย นายไมตรี ได้กล่าวเปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ใน จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดว่า ยังคงมีผู้ป่วยสะสมคงที่จำนวน 27 ราย ได้ทำการรักษาจนหายแล้วจำนวน 23 ราย ยังอยู่ระหว่างการรักษาอีกจำนวน 4 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตและไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมมาเป็นเวลา 14 วันแล้ว นับจากวันที่ 15 ม.ค.64 ในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้มีมติในการผ่อนคลาย หรือปลดล็อกให้สถานศึกษาเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.64 เป็นต้นไป แต่ยังคงให้ใช้มาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มงวด
ส่วนกิจกรรมต่างๆ เช่น การประชุม การสัมมนา การจัดเลี้ยง การแจกจ่ายอาหารและสิ่งของให้จำกัดจำนวนคนเข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน 300 คน และในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดบริการได้ตามปกติ ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่กำหนด ขณะเดียวกันสถานบริการ อาบน้ำ อาบอบนวด ให้เปิดบริการได้โดยต้องจำกัดผู้เข้าใช้บริการ สถานที่ออกกำลังกายในอาคารโรงยิม ฟิตเนส สนามมวย ให้ทำการแข่งขันได้ แต่ให้มีผู้ชมได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
ส่วนบ่อนการพนัน สนามชนไก่ สนามชนวัว ยังคงให้ปิดไปก่อนในทุกพื้นที่ สำหรับสถานบันเทิง ผับบาร์และคาราโอเกะ ให้นั่งรับประทานอาหารได้ในร้าน แต่ให้เว้นระยะห่างทางสังคม และเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. โดยห้ามจําหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามดื่มในร้าน ให้มีดนตรีแสดงได้ไม่เกิน 2 ชิ้น และยังคงให้งดการเต้นรำ ส่วนร้านค้าอาหารทั่วไปจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม ให้นั่งรับประทานอาหารได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนคนต่อโต๊ะ และเว้นระยะห่าง ซึ่งมาตรการผ่อนปรนดังกล่าวนี้ ให้มีผลในวันพรุ่งนี้ 30 ม.ค.64 เป็นต้นไป
