X
นายทองวัน แสงแก้ว

ไร้สมาร์ทโฟน ไม่มีโอกาสได้สิทธิ์คนละครึ่ง ลุง 58 เครียดปีนเสาสูงจ่อดิ่งพื้นประชด

ฉะเชิงเทรา – ไร้สมาร์ทโฟน ไม่มีโอกาสได้สิทธิ์ “คนละครึ่ง” ทุกข์หนักของคนจนที่แท้จริง ผู้ขาดโอกาสได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือจากรัฐบาล ทำลุง 58 เครียดปีนป่ายเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือจ่อดิ่งลงสู่พื้นประชด ขณะ จนท.เร่งติดตามฝ่ายภรรยาให้มาช่วยเกลี้ยกล่อม ขอร้องให้ปีนลงกลับมาได้สำเร็จ ก่อนตัดพ้อถึงรัฐบาลช่วยเหลือแต่คนรวยที่มีเงินซื้อสมาร์ทโฟน แต่คนจนจริงๆ ไม่มีเงินซื้อไม่เคยได้รับสิทธิ์อะไรจากทุกมาตรการของรัฐ

วันที่ 4 ก.พ.64 เวลา 11.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีชายวัยกลางคน ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนเสาส่งสัญญาณเครือขายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการรายหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมถนนซอยเชื่อมระหว่างหมู่บ้านเส้นทางจาก วัดเขาหินซ้อน-บ้านห้วยสำโรง พื้นที่ ม.11 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะส่งเสียงเอะอะโวยวาย ตัดพ้อต่อทางรัฐบาล

ปีนเสาสูง

เกี่ยวกับเรื่องของการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากสถานการณ์โควิด 19 ระบาด ว่ารัฐบาลนั้นช่วยเหลือแต่คนที่รวยแล้ว ส่วนคนจนจริงๆ ไม่มีเงินซื้อโทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของรัฐ กลับไม่เคยได้รับสิทธิ์ใดๆ มาก่อน พร้อมกับพูดขู่อยู่เป็นระยะว่าจะกระโดดลงมาจากความสูงประมาณ 30-40 เมตร

จ่อดิ่งพื้นประชด

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งนำโดย พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ เพ็ชรศักดิ์ ผกก. เขาหินซ้อน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เกือบ 10 นาย และอาสาสมัครจากหน่วยกู้ภัยพนมฯ เดินทางมาถึงยังในที่เกิดเหตุ ได้พยายามที่จะชวนพูดคุยและเกลี้ยกล่อมให้ชายคนดังกล่าว ลงมาจากยอดเสารับส่งสัญญาณของเครือข่ายโทรศัพท์มือ แต่ไม่สำเร็จ ก่อนที่จะให้ชาวบ้านไปช่วยกันติดตามทางฝ่ายของผู้เป็นภรรยา ซึ่งมีบุตรด้วยกัน 2 คน ให้มาช่วยเกลี้ยกล่อม

พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ เพ็ชรศักดิ์

สุดท้ายหนุ่มใหญ่ผู้ที่กำลังจะคิดสั้น จากความน้อยใจต่อรัฐบาลที่ไม่ให้ความสำคัญ หรือสนใจต่อเสียงเรียกร้อง ขอความช่วยเหลือเยียวยาจากคนจนจริงๆ จึงได้ยอมที่จะปีนป่ายลงมาเอง เหตุจากยังเป็นห่วงลูกเมียที่ยังอยู่ข้างหลัง จึงทำให้ความพยายามให้การช่วยเหลือชายรายนี้ ได้ลงมาจากที่สูงสู่พื้นดินจนสำเร็จลงด้วยดี ทราบชื่อต่อมา คือ นายทองวัน แสงแก้ว อายุ 58 ปี ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาว จ.สุรินทร์

จนท.พยายามให้การช่วยเหลือ

แต่ได้มาประกอบอาชีพเป็นคนงานอยู่ภายในสวนรุกขชาติแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี บริเวณใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้านดังกล่าว โดยที่ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ เพ็ชรศักดิ์ ได้ควักเงินสดส่วนตัวมอบให้แก่นายทองวัน ไปจำนวน 1,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือแก่นายทองวัน ที่ไม่ได้รับเงินเยียวยาจากโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล เหตุจากไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในการร่วมลงทะเบียน

ลงมาได้ อย่างปลอดภัย

และได้ขอร้องต่อนายทองวัน ว่า อย่าได้คิดสั้นหรือตัดสินใจที่จะก่อเหตุในทำนองนี้อีก โดยที่นายทองวัน ได้รับปากต่อ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ เพ็ชรศักดิ์ ว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว ท่ามกลางความโล่งอกของประชาชนที่มามุงดู และเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ที่ได้เดินทางมาพยายามหาทางให้การช่วยเหลือ เพื่อไม่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมจากโครงการที่ไม่ทั่วถึงจากรัฐดังกล่าว

ปีนเสามือถือ ประชด

เครือข่ายมือถือเจ้าเดิมยังมีสะดุด ต้องเน้นถี่ OTP จึงโผล่ ขณะสิทธิ์เต็มล้นใน 10 นาที

ฝนตกไม่ทั่วฟ้า คนละครึ่งเฟส 2 รหัส OTP ไม่ขึ้นสุดท้ายระบบบอกเต็มตั้งแต่เช้าตรู่

เยี่ยมบ้านลุงทองวัน ผู้ปีนเสาสูงประชดรัฐ หลังเยียวยาล้ำสมัยจนลืมคนยากไร้ตัวจริง

ผิดหวังซ้ำซาก ลุงทองวันปีนเสาขอลงทะเบียนเราชนะ ถูกแบงก์ปัดให้รอต่อไป

เครือข่ายมือถือเจ้าเดิมยังมีสะดุด ต้องเน้นถี่ OTP จึงโผล่ ขณะสิทธิ์เต็มล้นใน 10

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน