ฉะเชิงเทรา – ยืมเพื่อนมา ลงทะเบียนได้สิทธิ์แล้วลุงทองวันปีนเสา แต่ต้องยกเลิกไปหลังจาก อบต.พร้อมพัฒนาสังคมฯ ได้พาไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ใหม่ ผ่านทางบัตรประชาชนจนถึงยังที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม ฝากขอบคุณรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ได้ให้การช่วยเหลือติดตามยื่นมือจนได้รับสิทธิ์เยียวยา และมีชีวิตรอดอยู่ต่อมาได้ เสมือนกับ ปชช.คนอื่นทั่วไป
วันที่ 16 ก.พ.64 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทองวัน แสงแก้ว อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/7 ม.11 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ที่เคยคิดสั้นปีนป่ายเสาเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือสูงกว่า 30-40 เมตร เพื่อหวังที่จะกระโดดลงมาฆ่าตัวตายประชดรัฐบาล หลังจากไม่เคยได้รับสิทธิ์การเยียวยาใดๆ มาก่อนจากโครงการต่างๆ ของรัฐบาล เหตุจากไม่มีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนใช้เพื่อแข่งขันในการลงทะเบียนขอรับสิทธิ์และยืนยันตัวตน
ข่าวน่าสนใจ:
แต่ได้มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งตำรวจ สภ.เขาหินซ้อน หน่วยกู้ภัยพนมสารคาม ที่ได้พยายามเข้ามาห้ามปรามและนำญาติมาช่วยเกลี้ยกล่อมจนยอมปีนลงมาแต่โดยดี ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ.64 ที่ผ่านมาเวลา 13.00 น. ที่บริเวณเสารับส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือริมถนนซอย วัดเขาหินซ้อน-บ้านห้วยสำโรง พื้นที่ ม.11 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น
ล่าสุดในวันนี้ทาง อบต.เขาหินซ้อน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมารับตัว นายทองวัน เพื่อพาไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ยังภายในหอประชุม ที่ว่าการ อ.พนมสารคาม ด้วยการขอรับสิทธิ์ผ่านทางบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ท่ามกลางประชาชนที่มาเข้าคิวรอคอยลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์เป็นจำนวนมาก
ซึ่งนายทองวัน ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาล พร้อมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนด้วย ที่ได้คอยติดตามยื่นมือให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด จนได้รับสิทธิ์และสามารถใช้บัตรประชาชนร่วมลงทะเบียนได้จนสำเร็จในที่สุด พร้อมกับกล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมาได้ยืมโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ของ นางปราณี เลิศล้ำ อายุ 56 ปี เพื่อนร่วมงานนำมาทดลองใช้ในการตรวจสอบสิทธิ์การลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เยียวยา
ปรากฏว่าผลการลงทะเบียน ที่เพื่อนร่วมงานรายนี้ช่วยลงทะเบียนไว้ให้ ตั้งแต่เมื่อช่วงหลังจากวันที่ตนก่อเหตุปีนเสานั้น สามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้แล้ว แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ อบต. และ พม. พาไปจนถึงยังจุดลงทะเบียนภายในที่ว่าการ อ.พนมสารคาม จึงได้ขอยกเลิกสิทธิ์ที่ได้ลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนไป เหตุจากเกรงว่า จะเป็นการลงทะเบียนซ้ำซ้อน
หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสิทธิ์ และพบว่าได้มีการลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์มือถือไว้ก่อนหน้าแล้ว แต่อาจจะไม่สะดวกในการใช้สิทธิ์ เนื่องจากขณะนี้ตนเองไม่มีแม้แต่โทรศัพท์แบบกดปุ่มธรรมดาทั่วไป เหตุจากโทรศัพท์แบบปุ่มกดเครื่องเก่าที่เคยใช้อยู่ก่อนหน้านั้น ได้พังเสียหายไปแล้ว หลังจากกดปลดล็อกปุ่มไม่ได้ จึงทำให้ไม่สามารถกดโทรออกได้ แต่ใช้รับสายได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น นายทองวัน กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: