ฉะเชิงเทรา – โหมกระแส ปลายโค้งสุดท้ายยังเดินย่ำเท้าขอคะแนนไม่หยุด “กัปตันโป้ง” ผู้ท้าชิงแย่งเก้าอี้จากแชมป์เก่า 6 สมัยของคนการเมืองตระกูลดัง “ฉายแสง” ในสนามเลือกตั้งชิงนายกฯ เทศบาลเมืองแปดริ้ว เผยเริ่มทำงานตั้งแต่ก่อนเข้าสู่สภา ด้วยการเก็บข้อมูลและรับฟังปัญหาจากชาวบ้านระหว่างเดินเข้าไปขอคะแนนเสียงในทุกตรอกซอย เพื่อหาทางเตรียมนำไปปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนหากได้รับการเลือกตั้ง
วันที่ 26 มี.ค.64 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และสมาชิกสภาเทศบาลในช่วงปลายโค้งสุดท้ายก่อนที่ประชาชนจะถึงเวลาตัดสินใจ กาผู้สมัครรายใดในคูหาเลือกตั้ง วันที่ 28 มี.ค.64 นี้ว่า นายวัชระ ปิ่นเจริญ ผู้สมัครหมายเลข 2 อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำกลุ่มแปดริ้วยุคใหม่
ยังคงเร่งเดินหน้าในการลงพื้นที่เพื่อย้ำเตือน และขอคะแนนเสียงจากประชาชนภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ด้วยการขึ้นบนขบวนรถแห่ไปตามเส้นทางสายต่างๆ จากตลาดสดดอนทองด้านฝั่งท่าข้ามมายังที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร เพื่อนำทีมผู้สมัครจากทั้ง 3 เขต หมายเลข 7-12 เข้ากราบขอพรจากองค์หลวงพ่อโสธรภายในพระอุโบสถหลังใหญ่
จากนั้นได้เดินขอคะแนนเสียงจากประชาชนไปยังภายในตลาดค้าของฝากหน้าวัด และวนขบวนแห่มายังที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา และมุ่งหน้าไปยังที่ตลาดสดบ่อบัวและตลาดทรัพย์สินเก่า ภายในตัวเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งบรรยากาศนั้นยังคงมีประชาชนให้การตอบรับและขอถ่ายภาพร่วมด้วยเป็นระยะ
โดยนายวัชระ กล่าวในระหว่างเดินออกหาเสียงว่า ตนได้ทำงานเพื่อเก็บข้อมูลไปด้วยในระหว่างลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงตลอดช่วงที่ผ่านมา เพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนในทุกชุมชน และทุกหลังคาเรือนที่ได้พบปะพูดคุยด้วย จากนั้นจะเตรียมนำไปประมวลผลและหาทางแก้ไข และเป็นแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ต่อไป หากได้รับการเลือกตั้งเข้าไปเป็นฝ่ายบริหารหรือนายกเทศมนตรีในสภาเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราจะสามารถทำงานได้ในทันที นายวัชระ กล่าว
และกล่าวต่ออีกว่า นอกจากความตั้งใจในการที่จะเข้ามาทำงานพัฒนาพื้นที่ภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราให้ทันยุคทันสมัยแล้ว การเลือกคนมาร่วมทีมในการลงสมัคร สท.นั้น ยังได้มีการคัดสรรเอาคนที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมกันทำงานเป็นผู้สมัคร สท.ในแต่ละเขตเลือกตั้งทั้ง 3 เขตรวม 18 คนด้วย ซึ่งทั้งหมดได้มีการลงพื้นที่เข้าไปศึกษาปัญหาในพื้นที่จริง ก่อนนำมากลั่นกรองเป็นนโยบายที่สามารถทำได้จริงตามข้อกฎหมายทุกประการ
ในวันนี้จึงได้นำเอานโยบาย ออกมาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ว่าเรามีทีมงานที่พร้อมที่จะเข้ามาทำงานอย่างจริงจัง โดยที่ไม่ได้หวังเข้ามาเพื่อที่จะสร้างอำนาจบารมี หรืออิทธิพลทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยากเข้ามาทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาเมืองให้ทันสมัยตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้ นายวัชระ กล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับแชมป์เก่า นายกลยุทธ ฉายแสง ผู้สมัครหมายเลข 1 แกนนำกลุ่มรวมใจพัฒนา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา 6 สมัย ซึ่งเป็นพี่ชายคนรองของตระกูลฉายแสงจากนายจาตุรนต์ ฉายแสง นักการเมืองคนดัง หรือเป็นบุตรคนที่ 2 ของนายอนันต์ ฉายแสง อดีต ส.ส.ในตำนานหลายสมัยนั้น ยังไม่พบว่ามีการลงเดินย่ำเท้าเพื่อขอคะแนนเสียงไปจนทั่วทุกพื้นที่เหมือนกับคู่แข่งหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในสนามการเมืองแห่งนี้แต่อย่างใด
โดยมีเพียงทีมงานที่นำโบรชัวร์หมายเลขผู้สมัคร และภาพถ่ายของผู้สมัคร ไปเสียบไว้ตามบ้านเรือนของประชาชน และมีแผ่นป้ายโปสเตอร์ไวนิล ติดหมายเลขผู้สมัคร 1-6 ทั้ง 3 เขต พร้อมแผ่นป้ายแสดงผลงานที่ผ่านมาในอดีต ไปติดไว้ตามเสาไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีรถเครื่องขยายเสียงขับเปิดสปอร์ตโฆษณาวนไปตามเส้นทางต่างๆ ในแต่ละวันเท่านั้น แต่ยังไม่มีการออกมาปราศรัยหรือหาเสียงเพื่อขอคะแนนจากประชาชนแต่อย่างใด
–สีสันพัฒนาการ หาเสียงโค้งสุดท้ายเลือกตั้งท้องถิ่นเมืองแปดริ้วจากคนรุ่นใหม่
–สีสันโค้งสุดท้ายเลือกตั้งเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ทีม “แปดริ้วยุคใหม่” ใช้จอแอลซีดีเคลื่อนที่หาเสียง
