ฉะเชิงเทรา – คลัสเตอร์ใหญ่ แหล่งแพร่กระจายโควิด 19 ภาคตะวันออก ยังทยอยตรวจพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะชาวแปดริ้วพากันติดกลับมาบ้านระนาว ล่าสุดในวันนี้มีเพิ่มอีก 2 ราย ส่วนแหล่งแพร่เชื้อในพื้นที่มีตรวจพบเพิ่ม 1 ราย จากการถ่ายทอดเชื้อต่อเนื่องของผู้ป่วยยืนยันมีประวัติเดินทางมาหลายคน โดยในวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มล่าสุด 7 ราย รับจากภายนอกพื้นที่เข้ามาทำการรักษา 2 รายรวม 9 ราย และมีผู้ป่วยที่น่าสนใจและมีโอกาสแพร่เชื้อออกสู่สังคมได้สูง 1 ราย
วันที่ 12 เม.ย.64 เวลา 22.08 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีการรายงานถึงผลการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มเติมจากข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา อีกจำนวน 7 ราย และมีผู้ป่วยจากภายนอกพื้นที่เข้ามาทำการรักษายัง รพ.ในพื้นที่ 2 ราย รวมเป็น 9 ราย จึงทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมที่ตรวจพบในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จากการระบาดระลอกใหม่เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค.63 เป็นต้นมาจำนวน 53 ราย
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา พยายามที่จะรายงานแต่เฉพาะผู้ติดเชื้อระลอกล่าสุดนับตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย.64 เป็นต้นมานั้นว่ามีผู้ติดเชื้อทั้งหมดเพียง 25 ราย ขณะที่ตัวเลขของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ของ จ.ฉะเชิงเทรา นับตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งแรก และมีการตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 15 มี.ค.63 เป็นต้นมาซึ่งเป็นข้อมูลที่แท้จริงนั้น จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้ป่วยมากถึง 74 ราย เสียชีวิต 1 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ของ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ศูนย์ปฏิบัติการโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่งเริ่มมีการทยอยเผยแพร่ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยออกมาเมื่อเวลา 19.39 น. -22.08 น. ของวันนี้นั้น มีดังนี้ ผู้ป่วยรายที่ 47 จากการระบาดระลอก 2 ของจังหวัด คือ หญิงไทยอายุ 24 ปี ชาว ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.เมือง จ.ชลบุรี
มีประวัติเดินทางเข้าไปยังที่ร้านอาหาร Flintstone ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ในการแพร่กระจายโควิด 19 ในภาคตะวันออก หลังจากมีการทยอยตรวจพบผู้ป่วยที่เคยไปยังที่ร้านแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เริ่มมีอาการไข้ในวันที่ 8 เม.ย. 64 ต่อมาในวันที่ 9 เม.ย.64 มีไข้ขึ้นสูงจึงเดินทางเข้าไปตรวจยัง รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ใน อ.บางปะกง เพื่อเข้ารับการรักษาและมีการตรวจพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในวันที่ 11 เม.ย.64 โดยมีผู้เกี่ยวข้องเสี่ยงสูง 9 ราย
ผู้ป่วยรายที่ 48 เป็นชายไทยอายุ 31 ปี ชาว ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.พานทอง จ.ชลบุรี มีประวัติส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานแล้วกลับมายังบ้านพัก แต่มีเพื่อนร่วมงานเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 จากร้านอาหาร Flintstone ใน ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 9 เม.ย.64 ได้ไปตรวจหาเชื้อ ยังที่ รพ.เอกชนใน อ.บางปะกง และได้รับผลยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อในวันที่ 11 เม.ย.64 โดยมีผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 4 ราย อยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี
ผู้ป่วยรายที่ 49 เป็นชายไทยอายุ 26 ปี ชาว ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา อาชีพรับราชการตำรวจ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ภายในสถานที่ทำงาน ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน กทม. และพักอาศัยในแฟลตตำรวจ แต่ในวันที่ 5 เม.ย.64 ได้มีการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเป็นผู้ป่วยยืนยันวัย 27 ปี อาชีพเดียวกัน ชาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา โดยที่ไม่ได้สวมหน้ากากป้องกัน ซึ่งเพื่อนร่วมงานรายนี้เป็นผู้มีประวัติสัมผัสโรคมาจากการเดินทางไปยังร้านอาหาร November 13
ตั้งอยู่ย่านสถานีรถไฟในตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 3 เม.ย.64 และเป็นร้านอาหารที่เชื่อว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อมาจากใน กทม. เดินทางเข้ามาใช้บริการ โดยที่ผู้ติดเชื้อหลายรายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงภายในจังหวัด ทั้ง ส.ส.หนุ่มรายหนึ่ง (อดีตงูเห่าพรรคอนาคตใหม่) นักธุรกิจและอดีตผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา ตลอดจนผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วทั้งหมด เคยเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ หลังทราบผลยืนยันเมื่อวันที่ 10 เม.ย.64 ทำให้มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง 6 ราย ซึ่งอยู่คนละจังหวัด
ผู้ป่วยรายที่ 50 เป็นชายไทยอายุ 31 ชาว ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา อาชีพรับราชการตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งมีไทม์ไลน์ที่น่าสนใจเนื่องจากมีโอกาสแพร่เชื้อได้อย่างกว้างขวาง และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมากถึง 70 คนดังนี้ ในวันที่ 1 เม.ย.64 อยู่หอพักเจ้าหน้าที่ตำรวจใน ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา 2 เม.ย.64 เวลา 09.00 น. ไปประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เวลา 13.00 น. สัมมนาประชาคมแก้ไขปัญหายาเสพติดที่วัดใหม่พรหมสุวรรณ ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
เวลา 00.00 น. วันใหม่ของวันที่ 3 เม.ย.64 ออกตรวจสถานบริการในเขตท้องที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รุ่งเช้าอยู่ที่หอพัก จนท.ตร. ช่วงบ่ายกลับไปยังที่บ้านใน ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และกลับมาหอพักในช่วงเย็น วันที่ 4 เม.ย.64 ช่วงเช้าเข้าไปปฏิบัติงานที่ สภ.เมืองจะเชิงเทรา เวลา 23.00 น. ออกตรวจร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. (ปั้มสื่อประเสริฐสิทธิ์) ริม ถ.สิริโสธร ฉะเชิงเทรา-บางปะกง
วันที่ 5 เม.ย.64 ช่วงเช้าอยู่ที่หอพัก ตร. ช่วงบ่ายกลับไปบ้านที่ ต.ท่าสะอ้าน และกลับมาที่หอพักในช่วงเย็น วันที่ 6 เม.ย.64 ช่วงเช้าปฏิบัติหน้าที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ช่วงบ่ายกลับไปยังที่บ้าน ต.ท่าสะอ้าน เวลา 23.00 น. ออกไปตรวจตู้ยามใน ต.คลองหลวงแพ่ง วันที่ 7 เม.ย.64 เข้าร่วมอบรมที่กองบังคับการตำรวจภูธรฉะเชิงเทรา วันที่ 8 เม.ย.64 เข้าร่วมอบรมที่เดิม แต่เริ่มมีอาการไอและมีไข้ปวดศีรษะ วันที่ 9 เม.ย.64 ยังเดินทางไปอบรมที่เดิม
วันที่ 10 เม.ย.64 ช่วงเช้าเข้าปฏิบัติงานที่ สก.เมืองฉะเชิงเทรา เวลา 17.00 น. ออกตรวจธนาคารและร้านทองในห้างสรรพสินค้า (Big C2) เวลา 17.50 น. ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.พุทธโสธร เวลา 22.00-23.30 น. ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่บริเวณสามแยก ถ.มหาจักรพรรดิ ตัดกับ ถ.ศรีโสธรตัดใหม่ วันที่ 11 เม.ย.64 ช่วงเช้าอยู่หอพัก ตร. ในช่วงบ่ายเดินทางกลับบ้านที่ ต.ท่าสะอ้าน และกลับมาหอพักในช่วงเย็น เวลา 20.00 น. ได้รับแจ้งผลการตรวจว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19
ซึ่งจากไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายนี้ ยังไม่มีความแน่ชัดว่าได้เข้าไปสัมผัสเชื้อมาจากแหล่งใด ซึ่งอาจมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เข้าไปตรวจสถานบริการ เมื่อเวลา 00.00 น. ของวันที่ 3 เม.ย.64 หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นผู้แพร่กระจายเชื้อไปสู่ประชาชนได้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นผู้ปฏิบัติงานในด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ขณะทำการตั้งด่าน ที่บริเวณสามแยก ถ.ศรีโสธรตัดใหม่ ตัดกับ ถ.มหาจักรพรรดิ ในขณะที่เป็นผู้ติดเชื้อมาแล้วอีกด้วย
ผู้ป่วยรายที่ 51 เป็นหญิงไทย อายุ 37 ปี มีอาชีพค้าขาย อาศัยอยู่ใน ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีประวัติเป็นผู้สัมผัสเชื้อจากเพื่อนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กทม. ซึ่งเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกันยังที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้เดินสายไปไหว้พระยังภายในวัดเก่าแก่หลายแห่ง และอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา เมื่อวันที่ 6 เม.ย.64 ต่อมาในวันที่ 10 เม.ย.64 เพื่อนใน กทม. โทรศัพท์แจ้งว่าตรวจพบเชื้อ จึงเดินทางเข้าไปตรวจหาเชื้อและพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในวันที่ 11 เม.ย.64
ผู้ป่วยรายที่ 52 เป็นหญิงชาวกัมพูชา อายุ 37 ปี มีอาชีพค้าขาย อาศัยอยู่ใน ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้เดินทางร่วมกับผู้ป่วยรายที่ 51 และมีประวัติการสัมผัสโรคเช่นเดียวกันโดยทั้งสองรายอยู่บ้านหลังเดียวกัน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 3 ราย และผู้ป่วยรายที่ 53 เป็นหญิงไทยวัย 31 ปี ชาว ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพรับจ้างทำงานอยู่ในคลับ ภายใน ซ.งามวงศ์วาน 22 จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นผู้สัมผัสเชื้อจากผู้ป่วยยืนยันใน จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 2 เม.ย.64
ส่วนใหญ่มักเดินทางระหว่างบ้านพักใน ต.คลองเปรง ไปยังที่ทำงานด้วยรถยนต์ส่วนตัว เริ่มมีอาการไอเจ็บคอ ปวดศีรษะและมีผื่นแดงปวดกล้ามเนื้อ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.64 เข้าตรวจหาเชื้อในวันที่ 11 เม.ย.64 และผลการตรวจออกมายืนยันเป็นผู้ป่วยโควิด 19 ในวันเดียวกัน ซึ่งรายนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 ราย และสำหรับผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 2 ราย ที่เดินทางเข้ามาทำการรักษาตัวยังในเขตพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรานั้น เป็น 2 สามีภรรยาชาว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ชายวัย 68 ปีหญิงวัย 62 ปี เป็นผู้ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทราทั้ง 2 ราย
–แปดริ้ว บวกเพิ่มไม่หยุดล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย แยกไปรักษานอก พท. 2 ราย
–พุ่งไม่หยุด! ‘ฉะเชิงเทรา’ ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: