ฉะเชิงเทรา – กระบะแต่งซิ่ง บินข้ามฝั่งชนวินาศสันตะโรรวม 4 คันรวด ขณะสาวทอมเคราะห์ร้ายถูกพุ่งชนเข้าอย่างจังจนตัวรถหมุนฟาดซ้ำซ้อนกับรถคันอื่นก่อนกระเด็นไปตกกระแทกใส่เสาไฟฟ้าหงายท้องตัวรถบี้แบนแหลกหมดทั้งคันติดภายในดับคาซากเบนซ์ ขณะสามแม่ลูกขับกระบะจะไปส่งเรียนพิเศษวันหยุดในโรงเรียนดังรอดชีวิตปาฏิหาริย์ ส่วนตีนผีเจ็บที่หลังก่อนถูกหามส่ง รพ.พุทธโสธร
วันที่ 10 พ.ย.61 เวลา 07.55 น. ร.ต.อ.สมศักดิ์ ศรีณรงค์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์พุ่งชนกันหลายคันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย บนถนน 314 เส้นทาง บางปะกง-ฉะเชิงเทรา (สิริโสธร) ฝั่งขาเข้าเยื้องฝั่งตรงข้ามกับปั้มแก๊สแอลพีจี ก่อนถึงสามแยกเข้าวัดนาคู พื้นที่ ม.7 ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ประมาณ 800 ม.จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตูสีดำ ทะเบียน กพ-1612 ขอนแก่น นอนหงายท้องล้อชี้ฟ้าด้านท้ายกระบะพาดพิงอยู่กับโคนเสาไฟฟ้าแรงสูงริมทาง ใต้ตัวรถกระบะพบรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ รุ่น 230 E สีเทา ทะเบียน กข-9 ฉะเชิงเทรา สภาพพังแหลกหมดทั้งคันนอนหงายท้องล้อชี้ฟ้าพิงอยู่กับป้ายบอกทางด้านหลังเสาไฟฟ้า
ห่างออกไปตามเส้นทางประมาณ 5 เมตร พบรถยนต์ตู้สีบรอนซ์ ทะเบียน ฮน-1413 กทม. สภาพด้านหน้าทางซ้ายมีรอยถูกพุ่งชนจนได้รับความเสียหาย ตกอยู่ในป่าหญ้าข้างทางเช่นเดียวกัน ย้อนหลังไปตามเส้นทางห่างออกไปประมาณ 35 เมตร ด้านฝั่งตรงข้ามกับปั้มแก๊สขาออก พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ไฮแลนด์เดอร์ สีบรอนซ์แบบแคป ลักษณะแต่งซิ่ง หมายเลขทะเบียน บม-327 ปราจีนบุรี จอดขวางลำหันด้านท้ายเข้าเกาะกลางถนน
สภาพด้านหน้ามีร่องรอยการพุ่งชนจนพังเสียหายยับเยิน ถุงลมนิรภัยภายในห้องโดยสารคู่หน้าพองตัวทั้งคู่ ล้อแม็กซ์ทั้ง 4 ล้อแตกบิ่นจนยางแบน ตามพื้นที่ถนนมีเศษซากของตัวรถทั้ง 4 คันปลิวกระจายเกลื่อนพื้นไปไกลในรัศมีประมาณ 40 เมตร ภายในรถกระบะคันแต่งซิ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 รายได้รับบาดเจ็บที่หลังนั่งอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทราได้ช่วยเหลือนำส่งไปยัง รพ.พุทธโสธร
ภายในรถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตูสีดำพบคนขับเป็นหญิง 1 ราย และเด็กหญิง 2 ราย ทราบ ชื่อคือ นางพรปวีร์ กองโคตร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/6 ม.2 ต.พิมพา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ดญ.ณัฐนิชา โง่นชาลี อายุ 6 ปี และ ดญ.ชานิกาน โง่นชาลี อายุ 2 ปี สามแม่ลูกได้รับบาดเจ็บไม่มากนักถูกช่วยเหลือนำส่งไปยัง รพ.พุทธโสธร
ส่วนภายในซากรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ พบร่างของผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน 1 ราย เป็นหญิงตัดผมรองทรงและแต่งกายในลักษณะสาวทอม ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.ศุภานัน สื่อเจริญ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/1 ม.2 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ถูกอัดก็อปปี้จนกะโหลกศีรษะด้านขวายุบผิดรูปทรงมีเลือดไหลทะลักออกมาทางปากและจมูกอยู่ตลอดเวลา
กระดูกสันหลังหัก กระดูกหน้าแข้งขวาหักจนมีแผลเปิดใหญ่ท่อนกระดูกโผล่พ้นเนื้อยื่นออกมาให้เห็น กระดูกข้อเท้าขวาหักจนหมุนได้ กระดูกหน้าแข้งซ้ายหักและทิ่มทะลุเนื้อออกมาจากบาดแผลเปิดเช่นเดียวกัน
สอบสวน นายชัชชัย หงษ์สกุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ซ.ประชาอุทิศ 61 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. กล่าวว่า ตนเองกำลังขับรถยนต์ตู้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้ามายังที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อที่จะพานายเอก ไม่ทราบนามสกุล อายุ 53 ปี ญาติห่างๆที่เดินทางมาจาก จ.สุพรรณบุรี เดินทางมาทำบุญไหว้พระ
แต่เมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะขับพุ่งข้ามฝั่งถนนมาจากด้านฝั่งขาออกเฉี่ยวชนต้นไม้บนเกาะกลางจนต้นไม้ขาดออกเป็น 2 ท่อน จากนั้นได้พุ่งชนประสานงาเข้ากับรถยนต์เก๋งเบนซ์ ซึ่งกำลังขับมาทางตรงบนเลนที่ 2 จากทางขวาสุดอย่างเต็มแรง จนตัวรถยนต์เบนซ์นั้นหมุนสะบัดเหวี่ยงมากระแทกที่บริเวณด้านหน้ารถตู้คันของตนที่กำลังขับตามมาอยู่บนเลนด้านขวาสุด
ก่อนที่ตัวรถเบนซ์จะกระเด็นพุ่งออกไปตัดหน้าชนเข้ากับรถยนต์กระบะวีโก้สี่ประตูคันสีดำที่ขับตามมาบนเลนด้านซ้ายสุดจากทั้งหมด 4 เลน จนเกิดการพุ่งชนกันซ้ำซ้อนหลายตลบและพากันปลิวไปตกกระแทกเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทางดังกล่าว แต่โชคดีที่ผู้หญิงที่ขับรถยนต์กระบะมากับเด็กๆ นั้นไม่ได้เป็นอะไรมากนักซึ่งทราบว่ากำลังจะพาเด็กไปส่งเรียนพิเศษยังโรงเรียนเซนต์หลุยส์ในตัวเมืองฉะเชิงเทรา
ส่วนรถคันของตนนั้นเสียหายที่บริเวณด้านหน้าทางซ้าย โดยตนและญาติไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด นายชัชชัย กล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์ชนกันซ้ำซ้อนหลายคันบนเส้นทางสาย 314 นั้น ได้ทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยมีรถสะสมในเส้นทางอย่างหนาแน่นตั้งแต่ช่วงบริเวณแยกทางลงจากถนนสาย 7 มอเตอร์เวย์ทอดยาวจนถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการเร่งระบายรถออกจากเส้นทางเป็นเวลานานถึงกว่า 3 ชม. การจราจรจึงเริ่มคลี่คลายลงในเวลาประมาณ 11.00 น.
