ฉะเชิงเทรา – ตูบสุดดีใจ หลังเจ้านายหายป่วยโควิด 19 คนแรกได้กลับมาบ้านแล้ว หลังถูกทิ้งห่างหายไม่ได้พบหน้ามานานถึงเกือบครึ่งเดือน ก่อนโดดเข้าหาทักทายทั้งยังคลอเคลียอยู่ด้วยตลอดทั้งวัน ขณะบุตรสาวคนเล็กของผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดครั้งนี้ เผยเสียใจที่ไม่ได้มีโอกาสได้ทำหน้าในงานพิธีศพของมารดา แต่ทำใจได้เพราะเป็นเหตุสุดวิสัยจากโรคที่มาในอากาศ ทั้งยังตอบปริศนาไม่ได้ว่าได้ไปสัมผัสรับเชื้อมาจากที่ใด
วันที่ 4 พ.ค.64 เวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าของบ้านซึ่งป่วยด้วยโรคโควิด 19 ทั้งครอบครัวได้กลับมายังที่บ้านเลขที่ 99/61/1 ม.1 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แล้ว 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรกที่มีการตรวจพบเชื้อจากคนในบ้านทั้งหมด 4 คน โดยเป็นหญิงสาววัย 43 ปี ซึ่งเธอบอกว่าหลังจากได้รับอนุญาตจากทางแพทย์ผู้ทำการรักษาให้ออกมาจากโรงพยาบาลกลับมายังที่บ้านพักได้แล้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ (3 พ.ค.64) ได้เดินทางกลับมายังที่บ้านพักในทันที
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งหลังจากกลับเข้ามาถึงยังที่หน้าบ้าน “เจ้าตัวเล็ก” สุนัขเพศผู้สายพันธุ์บางแก้วผสมสุนัขพันธุ์ไทยพื้นเมือง ซึ่งได้ทำหน้าที่เฝ้าบ้านและคอยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลทรัพย์สินแทนเจ้าของบ้านให้เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลากว่า 14 วัน นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 เม.ย.64 ที่ตนต้องเข้าไปรับการรักษาอาการป่วย ได้ตรงเจ้ามาทักทายด้วยการกระโจนเข้ามาหาด้วยความตื่นเต้นดีใจ ทั้งยังพยายามเข้ามาเล่นด้วยคลอเคลียอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังคอยเดินตามติดและพัวพันแทรกอยู่ด้วยตลอดเวลาไม่ว่าจะไปทำอะไร จึงต้องกันให้ออกไปอยู่ห่างๆ ไว้ เนื่องจากทำให้เจ้าของทำอะไรไม่ถนัด แต่ก็ได้รับรู้ว่าเจ้าตัวเล็กคงอยากจะบอกว่าคิดถึง หลังจากที่คนทั้งบ้านหายหน้ากันไปหมด เป็นเวลานานถึงกว่า 10 วันแล้ว สำหรับเจ้าสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขที่มีคนให้มาเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ จึงได้เรียกชื่อว่า “เจ้าตัวเล็ก” เนื่องจากภายในบ้านยังมีสุนัขอีกตัว เพศผู้สายพันธุ์ไทยผสมร็อตไวเลอร์ขนสีน้ำตาลจึงได้เรียกชื่อว่า “เจ้าน้ำตาล”
แต่เป็นสุนัขที่แก่ชรามากแล้ว วัยประมาณ 13-14 ปี ที่มักจะนอนหมกตัวอยู่แต่ภายในบ้าน จึงไม่ได้มีใครได้เห็นบทบาทในการพิทักษ์ทรัพย์สินให้แก่เจ้าของบ้านมากนัก จึงมีแต่คนเห็นเจ้าตัวเล็กเพียงตัวเดียวที่คอยเฝ้าดูแลข้าวของอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน ส่วนชาวบ้านที่ช่วยเหลือนำอาหารมาให้นั้น ทราบว่าเป็นคนที่รู้จักกันกับพี่สาว และยังมี ส.อบต. ที่ได้นำเอาอาหารสุนัขชนิดเม็ดมาช่วยโรยทิ้งไว้ให้ด้วย แต่ปกติแล้วสุนัขทั้ง 2 ตัวถูกเลี้ยงมาด้วยอาหารที่คนกิน ไม่ได้ใช้อาหารชนิดเม็ดในการเลี้ยงดูแต่อย่างใด แต่โชคดีที่ยังกินได้
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไร ที่ไม่ได้มีโอกาสได้จัดพิธีศพให้แก่ผู้เป็นมารดา เธอตอบว่ารู้สึกเสียใจที่เราไม่ได้มีโอกาสได้ทำหน้าที่ โดยได้พบกับผู้เป็นมารดาในวันสุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิตลงที่ รพ.พุทธโสธร ในขณะที่ได้ถูกส่งตัวมาจาก รพ.บางน้ำเปรี้ยว แล้ว โดยทำได้เพียงพูดคุยให้แก่ผู้เป็นมารดาฟังเพื่อเกิดความสบายใจ และไม่เป็นกังวล ในขณะที่ยังมีอาการเหนื่อยหอบ ซึ่งตนเองจึงได้ขอให้แพทย์ให้ยาเพื่อลดอาการเหนื่อยลง
โดยในขณะนั้นผู้เป็นมารดาไม่ได้มีอาการตอบสนอง แต่ก็ได้พยายามที่จะพูดเพื่อให้ได้ยิน โดยเชื่อว่ายังคงมีการรับรู้อยู่ แต่ไม่สามารถที่จะตอบสนองต่อคำพูดของเราได้ จากนั้นจึงได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยการนอนจากไปเฉยๆ ส่วนพิธีการทำบุญนั้นยังคงต้องรอให้พ้นจากช่วงของการกักตัวอีก 14 วันผ่านไปก่อน และยังต้องรอพี่สาวทั้ง 2 คนด้วยให้หายป่วยกลับมาด้วย
สำหรับโรคนี้เป็นโรคติดต่อที่ใครๆ ก็สามารถติดเชื้อได้ โดยที่เราเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเราติดเชื้อมาจากไหน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวนั้นก็รู้สึกเสียใจ ที่เราไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ เมื่อถามว่าการทำงานมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อหรือไม่ เธอบอกว่า ไม่ว่าจะการทำงานหรือจากที่อื่นก็มีโอกาสเสี่ยงทั้งนั้น เพราะหากเราอยู่ข้างนอกเราก็ไม่รู้ว่าเชื้อโรคนั้นมาจากไหน ส่วนการติดต่อกันในครอบครัวนั้นเป็นความใกล้ชิดกันก็ต้องติดต่อกันได้อยู่แล้ว
โดยก่อนถูกตรวจพบเชื้อนั้น มีอาการไข้ขึ้นและเมื่อไปตรวจแล้วจึงพบว่าติดเชื้อ โดยที่ตนทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลใน รพ.รัฐแห่งหนึ่งที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังเข้ารับการรักษาแล้ว ผลการเอ็กซเรย์ปอดในขณะนี้พบว่าปกติดีแล้ว แต่ทางแพทย์ยังต้องให้ทำการกักตัวอยู่ที่บ้านอีกเป็นเวลา 14 วัน หญิงสาววัย 43 ปี กล่าว
–เจ้าตูบผู้เดียวดาย เจ้าของป่วยโควิด 19 หมดทั้งบ้าน เผยอดมื้อกินมื้อ
–ไม่ใช่คนดัง ไม่มีเมรุเผาศพหลังป่วยโควิด 19 ตายญาติวอนสื่อหาทางช่วย
–หาที่เผาได้แล้ว เหยื่อโควิด 19 แปดริ้ว หลังหลายวัดยื่นมือตอบรับช่วยเหลือพิธีศพ
–เผาศพผู้ป่วยโควิด 19 ไม่น่ากลัวอย่างที่เราคิด พระสงฆ์วัดอุตตมะการันตี
–ล้างหมู่บ้าน ไล่โควิด 19 ระดมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั่วทั้งชุมชนกว่า 400 ครัวเรือน
–ไม่มีเมรุเผาศพแม่ป่วยโควิดตาย ลูกวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: