X
ได้รับเครื่องช่วยหายใจพระราชทาน

ปลื้ม รพ.พุทธโสธร ได้รับพระราชทานเครื่องช่วยหายใจ รักษาผู้ป่วยโควิดเพิ่ม

ฉะเชิงเทรา-ปลื้ม รพ.พุทธโสธร ได้รับพระราชทานเครื่องช่วยหายใจ เข้าเสริมความต้องการช่วยรักษาผู้ป่วยโควิด 19 เพิ่มเติมในพื้นที่ หลังยังคงมีตัวเลขจำนวนของผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ จากการผ่องถ่ายผู้ป่วยจากภายนอกเข้ามาทำการรักษายังภายใน จ.ฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำใน กทม. จนทำให้ยอดจำนวนของผู้ติดเชื้อยังไม่มีแนวโน้มลดลงมากนัก ล่าสุดถูกปรับให้เป็นพื้นที่สีแดง และมีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย

วันที่ 18 พ.ค.64 เวลา 16.14 น. ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจาก หม่อมหลวงจิรพันธุ์ ทวีวงศ์ กรรมการและรองเลขาธิการ ทำการแทนกรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ผ่านทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ในวันที่ 19 พ.ค.64 เวลา 09.00 น. ทาง รพ.พุทธโสธร ตั้งอยู่ริมถนนมรุพงษ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จะได้รับพระราชทานเครื่องช่วยหายใจ ออกซิเจนไฮโฟลว์ จำนวน 3 เครื่อง

ตัวเลขยังสูง

จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา ที่ได้พระราชทานงบประมาณจาก “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่างๆ)” ในการจัดซื้อเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ จำนวน 530 เครื่อง พระราชทานให้แก่ รพ.ต่างๆ ในการนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 19

พื้นที่สีแดง

ซึ่งเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ จะเดินทางนำส่งมาถึงยังที่ รพ.พุทธโสธร ในวันพรุ่งนี้ โดยมีตัวแทนของทางโรงพยาบาลเป็นผู้รับมอบภายในห้องประชุมชั้น 8 อาคารสนับสนุนบริการ เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ต่อไป

กลายเป็น รพ.สนาม ผู้ต้องขัง กทม.

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดนั้น ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบรายวันมาตลอดกว่า 40 วันที่ผ่านมา จนทำให้ในขณะนี้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมในพื้นที่มากถึง 624 ราย จากการระบาดรอบแรกเมื่อวันที่ 15 มี.ค.63 จำนวน 21 ราย ผู้ป่วยจากการระบาดระลอก 2 จำนวน 28 ราย และจากการระบาดระลอกล่าสุด 575 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 7 ราย จากรอบแรก 1 ราย จากระลอกล่าสุด 6 ราย

ส่งมาจาก กทม.

ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั้นเป็นกลุ่มของผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่ไม่เข้าสู่กระบวนการรักษาในระบบมาตั้งแต่ต้น โดยรายล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเป็นชายวัย 54 ปี ชาว ม.8 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แถบย่านวัดเซนต์ปอนด์ ใน ต.บางตีนเป็ด โดยเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนหน้าที่จะติดเชื้อโควิด 19 แล้ว และหลังจากการเสียชีวิตลง ได้มีการเร่งรีบนำศพไปทำการฌาปนกิจในทันที ยังที่เมรุของวัดสุวรรณาราม (วัดดอนทอง) ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

เรือนจำกลางแปดริ้ว

ส่วนการระบาดของโรคในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา นั้น ล่าสุดได้เริ่มลดลงมาจากในช่วงเดือน เม.ย.64 จนถึงต้นเดือน พ.ค.64 เป็นอย่างมาก แต่ยังคงมียอดตัวเลขสะสมสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุมาจากการรับผู้ป่วยจากภายนอกพื้นที่เข้ามาทำการรักษายังภายใน จ.ฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะผู้ประกอบการสถานพยาบาล รพ.เอกชน และการผ่องถ่ายย้ายผู้ต้องขังมาจากเรือนจำในกรุงเทพ เพื่อเข้ามาทำการรักษายังที่ รพ.สนาม ภายในเรือนจำกลาง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นจำนวนมากเกือบทุกวัน วันละนับสิบราย

ขนมาเกือบทุกวัน

จึงทำให้นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ 24/2564 ออกมาในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 16 พ.ค.64 และให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 พ.ค.64 วานนี้ โดยให้ยังคงมาตรการต่างๆ ในการควบคุมโรค ตามที่ได้เคยประกาศออกไปก่อนหน้าแล้วต่อไปอีก 14 วัน เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ตามข้อกำหนดของ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ฉบับที่ 23 ลงวันที่ 15 พ.ค.64 ซี่งได้มีการปรับยกระดับให้ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)

แจกไม่ถอย นายก อบจ.แปดริ้วเดินสายช่วยชาวบ้านดันโครงการฝ่าวิกฤตโควิด 19

ใหญ่แค่ไหน ก็ละลายเป็นผงธุลีได้ใน 2 ชม. สัปเหร่อผู้เผาศพโควิด 19 เตือนสติ

แจกไม่ถอย!! นายก อบจ.แปดริ้ว เดินสายช่วยชาวบ้านดันโครงการฝ่าวิกฤติโควิด 19

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน