ฉะเชิงเทรา – อบต.ท้องที่แจง สองเด็กหญิงสมัครใจออกมาอยู่ที่ป้อมตำรวจหน้ากองบังคับการ ภ.จว.ฉะเชิงเทรา หวั่นแพร่เชื้อสู่คนในบ้านอีกนับสิบราย ยันเป็นการช่วยเหลือประชาชน เป็นสถานที่เหมาะแก่การใช้พักคอยผู้ป่วยโควิด 19 ประจำตำบล ทั้งยังเป็นสถานที่ปลอดภัยไม่แพร่กระจายเชื้อ เผยยังมียอดผู้มีความเสี่ยงสูงในตำบลอีกเฉียดร้อยราย
วันที่ 15 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับคำชี้แจงจาก นายสมบัติ พิธิยานุวัฒน์ ปลัด อบต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา เกี่ยวกระแสดราม่า 2 เด็กหญิงถูกขับออกจากชุมชนหลังติดเชื้อโควิด 19 จนต้องมานอนพักอยู่ภายในป้อมตู้ยามสายตรวจประจำตำบลบางแก้วว่า เริ่มแรกครอบครัวนี้ทางฝ่ายของสามีวัย 39 ปี เป็นผู้ติดเชื้อก่อนเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และได้ถูกนำตัวเข้าไปทำการรักษายังภายในสถานพยาบาลแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
และหลังการตรวจหาเชื้อจากคนในครอบครัวได้พบว่า มีเด็กหญิงวัย 11 ขวบซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้ป่วยรายแรก และภรรยาใหม่วัย 14 ปี ติดเชื้อเพิ่มอีกจำนวน 2 ราย จังได้ติดต่อไปยัง รพ.สนาม แต่ได้รับคำตอบว่าเต็ม จึงยังไม่สามารถที่จะไปเข้าสู่ขบวนการรักษายังที่ รพ.ได้ โดยที่ทางฝ่ายของสาธารณสุขจึงได้แนะนำให้กลับไปอยู่ที่บ้านก่อนเนื่องจากยังไม่แสดงอาการ
แต่ทางผู้ติดเชื้อนั้นเห็นว่าหากกลับไปอยู่ที่บ้านอีก จะทำให้คนในบ้านติดเชื้อเพิ่มไปด้วย โดยมีคนอาศัยร่วมกันในบ้านมากถึงเกือบ 10 คน จึงเกรงว่าจะนำเชื้อไปแพร่สู่คนอื่นๆ ในครอบครัว และยังได้สมัครใจที่จะพากันมาพักอาศัยอยู่ยังที่ป้อมตำรวจสายตรวจประจำตำบลด้วยตนเอง ซึ่งไม่ใช่ป้อมตำรวจร้างตามที่ตกเป็นข่าว แต่เป็นป้อมที่ยังมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดีและสะอาด เนื่องจากป้อมแห่งนี้เป็นป้อมประจำตำบล
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีกำลังไม่เพียงพอ จึงได้ให้ตำรวจประจำตำบลเดิมที่เคยดูแลแต่เฉพาะในพื้นที่ตำบลบางแก้ว ไปดูแลในตำบลอื่นๆ ด้วยรวม 3 ตำบล โดยจะแวะเข้ามาพักยังที่ป้อมสายตรวจแห่งนี้ต่อเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญหรือเข้ามาตรวจในพื้นที่ และหากไปตรวจยังท้องที่ตำบลอื่นๆ ก็จะไปพักยังที่ป้อมยามสายตรวจในตำบลนั้นๆ ชั่วคราวแบบเดียวกัน
อีกทั้งจุดที่ป้อมยามสายตรวจตั้งอยู่ยังเป็นสถานที่ปลอดภัย เนื่องจากตั้งอยู่ติดกันกับรั้วของ อบต.บางแก้ว ซึ่งมี รปภ.เฝ้าดูแลพื้นที่อยู่ตลอด ทั้งยังตั้งอยู่ด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา และใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง สำนักงาน อบจ. สำนักงาน ตม. และวัดสมานรัตนาราม ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน ประกอบกับในพื้นที่ ต.บางแก้ว ยังไม่มีสถานที่พักคอยหรือสถานที่กักตัวผู้ป่วยโควิด 19
ทาง อบต.บางแก้ว และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลจึงเห็นว่าป้อมตำรวจแห่งนี้ ซึ่งมีการใช้งานน้อยเหมาะสมที่สุด และปลอดภัยที่สุดในตำบล โดยสามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 2-3 คน เพื่อรอส่งต่อไปทำการรักษายังใน รพ.สนามต่อไป
สำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ในพื้นที่ ต.บางแก้ว นั้นมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 47 ราย โดยมีบางส่วนทำการรักษาจนหายแล้ว และยังมีผู้มีประวัติเสี่ยงสูงอีกกว่า 90 ราย ซึ่งหากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีกและยังไม่มีสถานพยาบาลรองรับ ทาง อบต.ก็ยังมีความต้องการที่จะใช้ป้อมตำรวจแห่งนี้เป็นสถานที่พักคอยให้แก่ผู้ป่วยไปก่อน จนกว่าจะมีเตียงใน รพ.สนามว่างลง และรับตัวไปทำการรักษาต่อ นายสมบัติ กล่าว
และกล่าวต่ออีกว่า สำหรับเด็กหญิงวัย 11 ขวบและ 14 ปี 2 รายที่ตกเป็นข่าวนั้น ยังไม่ทันจะได้นอนพักค้างคืนที่ป้อมตำรวจเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยได้มีหน่วยกู้ภัยฯ เข้ามารับตัวผู้ป่วยไปส่งยังที่ รพ.สนาม มรภ.ราชนครินทร์ สาขาบางคล้าก่อนแล้ว โดยที่ยังมีผู้ป่วยหญิงวัย 51 ปีชาวบ้าน ม.5 ต.บางแก้ว อีก 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ถูกตรวจพบเชื้อในวันเดียวกันเดินทางมาพักคอยอยู่ก่อนหน้าแล้ว จึงได้ถูกรับตัวไปพร้อมกัน ส่วนกระแสข่าวว่าถูกขับออกจากบ้านนั้นไม่มี เนื่องจากเป็นการสมัครใจที่จะออกมาพักยังที่ป้อมตำรวจเอง เนื่องจากเกรงว่าจะนำเชื้อไปแพร่สู่คนในครอบครัว นายสมบัติ กล่าว
–เร่งสุดกำลังแล้ว แต่มีอุปสรรคมากผุด รพ.สนามล่าช้าทำเกิดดราม่า 2 ดญ.นอนป้อม
–ตอกกลับกระแสสื่อดราม่า ผู้เป็นย่าเด็กหญิงติดโควิดยันเลี้ยงมากับมือไม่คิดผลักไส
–ฉะเชิงเทราเตรียมผุดรพ.สนามทุกอำเภอ หลังอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งสูง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: