ฉะเชิงเทรา – พ่วงล้อปลิว หลุดลอยข้ามเลนมาไกลก่อนตกลงมาใส่รถยนต์กระบะที่ขับสวนทางมา ทำเสียหลักตกถนนลงข้างทางมุดเข้าในเตาเผาถ่าน โชคดีชาวบ้านช่วยกันดับไฟไว้ได้ทันก่อนถูกลุกไหม้ย่างสด เบื้องต้นเจ้าของรถคันต้นเหตุเชื่อร้านยางที่เข้าไปเปลี่ยนใส่ยาง ขันน็อตล็อกดุมล้อไม่แน่นก่อนทำให้เกิดการสะบัดจนแกนโบลท์ขาด
วันที่ 23 ส.ค.64 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุล้อรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อปลิวหลุดลอยข้ามฝั่งถนนลงมาตกใส่รถยนต์กระบะ ที่กำลังใช้เส้นทางขับสวนมาบนถนนอีกด้านของเส้นทาง ที่บริเวณด้านหน้าโรงงานบรรจุก๊าซยูนิค แก๊ส ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) สมุทรปราการ-บางปะกง พื้นที่ ม.11 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้ตัวรถยนต์กระบะได้รับความเสียหาย
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาวหมายเลขทะเบียน 2ฒข-171 กรุงเทพฯ ถูกแรงปะทะของล้อรถบรรทุกปลิวตกใส่จนทำให้เสียหลักพุ่งตกลงไปยังที่ขอบชายคลองริมข้างทาง สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน โดยที่ส่วนหัวของตัวรถได้พุ่งปักลงไปยังภายในเตาเผาถ่านของชาวบ้านที่กำลังครุกรุ่นอยู่ข้างทาง ห่างออกไปอีกประมาณ 10 เมตร พบล้อรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ตกอยู่ 1 ล้อ
และพบบ้านเรือนของชาวบ้านที่ปลูกเป็นเพิงพักอาศัยอยู่ภายในชายตลิ่งของลำคลอง มีรอยยุบพังเสียหายเล็กน้อย ขณะที่ด้านบนขอบฟุตบาทข้างทางยังพบซากบังโคลนหน้าของรถยนต์กระบะติดคาอยู่กับโคนเสาไฟฟ้า ส่วนด้านฝั่งตรงข้ามของถนนห่างออกไปประมาณ 40 เมตร พบล้อรถยนต์บรรทุกอีก 1 ล้อปลิวลอยไปตกใส่กำแพงสังกะสีของโรงงานบรรจุก๊าซ บริษัทยูนิคแก๊สแอนด์ปิโตรเคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) จนได้รับความเสียหายอีก 1 จุด
เลยจากจุดเกิดเหตุไปตามเส้นทางมุ่งหน้ายัง จ.สมุทรปราการ อีกประมาณ 200 เมตร พบรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่หัวสีขาว หมายเลขทะเบียน 86-7025 ชลบุรี เลขทะเบียนหางพ่วง 85-5534 ชลบุรี บรรทุกดินลูกรังมาภายในกระบะบรรทุก จอดแอบชิดข้างทางอยู่ในสภาพล้อด้านซ้ายคู่หลังสุด ได้หลุดหายออกไปจากเพลาทั้ง 2 ล้อ และมีรอยของดุมยึดล้อครูดมากับพื้นถนนลาดยางเป็นทางยาวจากจุดเกิดเหตุ
จากการสอบถาม นายบุญรอง มาละลา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 340/231 ม.3 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ คนขับรถยนต์กระบะ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถมาจาก จ.สมุทรปราการ เพื่อจะเดินทางไปรับสินค้าจากโรงงานถุงพลาสติกในพื้นที่ ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุ ได้เห็นล้อรถยนต์ขนาดใหญ่ปลิวลอยมาจากถนนด้านฝั่งตรงข้าม และมีแนวทิศทางที่จะพุ่งเข้ามาปะทะเข้ากับรถของตนที่ขับมาอยู่บนเลนกลางของถนนจากทั้งหมด 3 เลน
แต่เมื่อตนได้พยายามที่จะเบี่ยงตัวรถหนีหลบออกไปยังเลนด้านซ้ายสุดแล้ว แต่ล้อรถที่พุ่งปลิวเข้ามาได้ปะทะกับขอบคอนกรีตของเกาะกลางถนนก่อน จึงได้กระดอนขึ้นสูงและเปลี่ยนทิศทางพุ่งเข้ามายังในตำแหน่งที่ตนเบี่ยงตัวรถหนีออกไปอยู่บนเลนด้านซ้ายสุดพอดี จึงทำให้รถที่ถูกแรงพุ่งชนเสียหลักตกลงไปยังภายในคลองชลประทานข้างทาง และด้านหน้ารถได้มุดเข้าไปอยู่ในเตาเผาถ่านของชาวบ้านที่กำลังมีไฟคุกรุ่นอยู่พอดี
ซึ่งในขณะนั้นตนยังมึนงงอยู่ในรถทำอะไรไม่ถูก และยังนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ แต่ได้มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จำนวน 5-6 คนต่างพากันรีบเข้ามาตักน้ำสาดใส่ลงไปยังที่เตาถ่านเพื่อดับไฟที่กำลังคุอยู่ จึงโชคดีที่ยังไม่เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นที่ตัวรถ เนื่องจากมีชาวบ้านเข้ามาช่วยดับไฟไว้ได้ทัน โดยที่ตนนั้นไม่ทันได้รู้ตัวว่าได้ขับรถพุ่งตกลงมายังภายในเตาเผาถ่านพอดี นายบุญรอง กล่าว
ส่วนด้าน น.ส.พรฤทัย ไกรกระโทก อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 55/4 ม.1 ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เล่าว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนอนเล่นอยู่ภายในบ้าน ที่ปลูกเป็นเพิงพักอยู่ในบริเวณแนวตลิ่งริมคลอง ได้มีล้อรถปลิวลอยลงมาตกใส่ที่ฝาบ้านจนยุบพังเสียหาย และมีรถพุ่งลงมาตกยังในเตาเผาถ่านพอดี จึงได้เข้าไปช่วยกันดับไฟในเตา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำให้ถ่านไม้ที่กำลังเผาอยู่ได้รับความเสียหายทั้งหมด น.ส.พรฤทัย ระบุ
ขณะที่ นายนาวิน ฟอมไธสง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ม.15 ต.โนนรัง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา คนขับรถพ่วงบรรทุกดิน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองกำลังขับรถบรรทุกดินมาจากบ่อลูกรังในพื้นที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เพื่อมุ่งหน้าที่จะนำดินลูกรังไปส่งยังในเขตพื้นที่ ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนเพิ่งจะขับรถออกตัวมาจากบริเวณทางสามแยกไฟแดง ปากทางเข้าสู่ตลาดบางปะกง มาได้ประมาณ 1 กม.เศษ ซึ่งยังใช้ความเร็วไม่มากนัก
โดยขับมาบนเลนขวาสุดแซงรถพ่วงในเส้นทางที่ขับช้ากว่าทางด้านซ้ายมาได้ระยะหนึ่ง ได้มีเพื่อนคนขับรถบรรทุกด้วยกันที่ขับตามกันมาได้บีบแตรและให้สัญญาณไฟกระพริบ เพื่อบอกว่าล้อรถคันที่ตนขับมาหลุด และเมื่อตนมองดูได้เห็นว่าล้อรถกำลังปลิวลอยไปข้างหน้าแล้ว และกำลังพุ่งเข้าไปชนเข้ากับรถยนต์กระบะพอดี ในจังหวะที่เขากำลังหักหลบจากเลนกลางถนนไปยังเลนด้านซ้าย
ซึ่งตนไม่สามารถทำอะไรได้ทันแล้ว จึงได้พยายามเบรกเพื่อหยุดรถแอบเข้าข้างทาง ส่วนล้อรถอีกข้างหนึ่งที่อยู่คู่กัน ได้ปลิวไปตกใส่กำแพงรั้วข้างทางด้านฝั่งซ้ายของถนน แต่โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายนาวิน กล่าว
หลังเกิดเหตุผู้เป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซึ่งเป็นเถ้าแก่ได้เดินทางมายังในจุดเกิดเหตุ และระบุว่า สาเหตุที่ล้อรถหลุดออกมาจากดุมเพลาล้อได้นั้น เกิดจากน็อตล็อคล้อขาดพร้อมกันจำนวน 7 ตัวจากทั้งหมด 8 ตัว โดยเชื่อว่าช่างร้านยางที่คนขับนำรถเข้าไปใช้บริการเปลี่ยนใส่ยาง ขันน็อตให้ไม่แน่น เมื่อมีการใช้งานหนัก หรือบรรทุกดินมา แรงบิดที่เกิดจากการหมุนของเพลารถ ได้สะบัดจนทำให้หัวสกรู (โบลท์) ที่ยึดน็อตขาดออกพร้อมกันเกือบทั้งหมด และทำให้ล้อรถหลุดออกมาดังกล่าว ผู้เป็นเจ้าของรถระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับรถคู่กรณีที่เกิดเหตุทั้ง 2 คันนั้น ได้มีการทำประกันภัยภาคสมัครใจเอาไว้ทั้งสองฝ่าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ปล่อยให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเองก่อน และไม่ได้เดินทางมาสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
–ผู้ว่าแปดริ้ว โวลุยฉีดวัคซีนให้ ปชช.ได้เกือบครึ่งจังหวัดแล้ว
–ของหายาก ไฟเชอร์จัดสรรอย่างไร ใครจะได้ฉีดบ้างที่แปดริ้ว
–พ่วงล้อปลิว ลอยใส่ปิคอัพเซตกเตาถ่านหวิดย่างสดคนขับ ชาวบ้านกรูช่วยดับทัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: