ฉะเชิงเทรา – หึ่งเก้าอี้โยก คนใกล้ชิดวัดเชื่อปลดเจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา ในวงการสงฆ์เมืองแปดริ้ว มีการวางหมากเพื่อสลับตำแหน่งผ้าเหลือง เปิดทางให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหญ่มีเก้าอี้สำคัญนั่งแทนตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรที่เตรียมจ่อไว้ ส่วนอดีตเจ้าคณะรูปเก่าที่เพิ่งถูกปลดออกไปมีอาวุโสมากกว่า และเคยถูกหมายมั่นปั้นไว้จากอดีตเจ้าอาวาสยุคก่อน มีกระแสอาจจะได้ขึ้นนั่งในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแทนรูปเก่าที่เพิ่งมรณะภาพ ทำกระแสการเคลื่อนไหวถูกสะกดหยุดนิ่ง
วันที่ 8 ต.ค.64 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่ายังคงมีแต่ความเงียบสงัดมาตลอดกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมหาเถรสมาคม (มส.) ได้มีคำสั่งปลดพระราชปริยัติสุนทร (อมรภิรักษ์ ปสนฺโน) วัย 65 ปี พรรษา 44 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกับได้มีคำสั่งแต่งตั้ง พระราชภาวนาภิธาน (ศิริวัฒน์ สิริวฑฺฒโน) วัย 60 ปี พรรษา 32 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา แทนในคราวเดียวกัน เมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 ที่ผ่านมานั้น
ข่าวน่าสนใจ:
แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นภายในวัดโสธรฯ แม้แต่น้อย ทั้งที่พระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่ถูกปลดออก และได้รับการแต่งตั้งใหม่เกิดขึ้นภายในรั้วของวัดเดียวกัน โดยที่ทางฝ่ายของอดีตเจ้าคณะจังหวัดรูปเดิมนั้น ยังได้มีการขึ้นป้ายไว้โดยรอบกุฏิว่า “ขออภัย งดให้ข่าว” ทั้งที่ผู้สื่อข่าวได้พยายามวนเวียนที่จะเข้าไปสอบถามและค้นหาคำตอบ ถึงสาเหตุของการมีคำสั่งปลดออกจากตำแหน่งมาเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน
ส่วนที่กุฏิของเจ้าคณะรูปใหม่นั้น ต่างมีสภาพของความนิ่งเงียบและปิดบานประตูรั้วทางเข้าเอาไว้ ไม่ต่างไปจากกัน ท่ามกลางความกังขาของบรรดาพุทธศาสนิกชนที่เฝ้าคอยติดตามดูความเคลื่อนไหวว่าเหตุใด ทำไมกลุ่มศิษย์พร้อมด้วยพระสงฆ์และสามเณรภายในวัด ที่ทางฝ่ายของอดีตเจ้าคณะจังหวัดผู้มีหน้าที่ดูแลโรงเรียนพระปริยัติธรรมอยู่นั้น มีภิกษุสามเณรจำนวนมากมายหลายร้อยรูปที่อยู่ในความดูแล หากถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างไม่สมเหตุ น่าจะส่งผลกระทบและต้องมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นบ้าง
ทั้งยังผิดไปจากครั้งเมื่อปลายปี 2552 ที่ภายในวัดโสธรได้มีการเดินขบวนของพระภิกษุสงฆ์สามเณร ทั้งภายในวัดต่อเนื่องไปจนถึงการออกไปชุมนุมคัดค้านการแต่งตั้งพระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ (ประยงค์ ปิยวณฺโณ) ที่เข้ามาดำรงเจ้าอาวาสวัดโสธร ยังที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม จนทำให้ พระราชมงคลรังษี หรือประยงค์ ปิยวณฺโณ (สมณศักดิ์ หลังรับตำแหน่งเจ้าอาวาส) ได้มีคำสั่งพักงานในตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ต่ออดีตเจ้าคณะจังหวัดที่เพิ่งถูกปลดในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.53
และยังมีการเสนอให้พักตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ของอดีตเจ้าคณะจังหวัด พร้อมด้วยผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรรูปอื่นๆ รวม 7 รูป โดยเสนอผ่านทางเจ้าคณะภาค 12 ในยุคนั้น จนมีมติคำสั่งจาก มส. ตามลิขิตของประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชที่ จญ.อ.27/2553 ลงวันที่ 9 เม.ย.53 ให้พักตำแหน่งจากผู้ช่วยเจ้าอาวาส ในข้อหา “คัดค้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาส” จนมีการนำเสนอข่าวผ่านทางสื่อมวลชนอย่างกว้างขวางไปทั่วทั้งประเทศในครั้งนั้น แต่ในครั้งนี้กลับมีความแตกต่างที่ผิดไปอย่างสิ้นเชิง
และในส่วนทางฝ่ายของเจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา รูปใหม่ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นดำรงตำแหน่งล่าสุดนั้น กลับไม่ได้มีการแสดงความยินดีจนเห็นได้ชัด หรือมีญาติโยมเข้ามาถวายกำลังใจต่อตำแหน่งใหม่ที่ได้รับด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งที่เป็นตำแหน่งพระสังฆาธิการในลำดับสูงสุดของ จ.ฉะเชิงเทรา
จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลถึงความผิดปกติออกมาจากเสียงวิพากษ์ที่เกิดขึ้นในสังคมเข้ามาบ้าง นับแต่เมื่อวันที่ 1 ต.ค.64 แต่ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก จึงทำให้ขาดน้ำหนักในความน่าเชื่อถือ ต่อมาในวันที่ 6 ต.ค.64 อดีตผู้ที่เคยใกล้ชิดและคลุกคลีอยู่ในวัดโสธรฯ ได้ส่งสัญญาณออกมาในทำนองที่ว่าอาจจะมีข่าวดีหลังจากนี้ไป ท่ามกลางข่าวร้ายที่เกิดขึ้นว่าอดีตเจ้าคณะจังหวัดที่เพิ่งถูกปลดออกไปนั้น อาจจะได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ
แทนพระธรรมมังคลาจารย์ (ประยงค์ ปิยวณฺโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ที่เพิ่งมรณภาพลงเมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่าการปลดออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ จึงน่าจะเป็นเพียงการสับหลีกเส้นทางให้แก่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปที่กำลังมีกระแสในการเตรียมที่จะขึ้นไปนั่งในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรแทนตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งไม่เป็นไปตามลำดับชั้นที่เหมาะสมตามที่เคยถูกวางเอาไว้ตั้งแต่ต้น ให้ได้มีตำแหน่งทางสงฆ์ที่สำคัญได้นั่งแทน
“ผู้ใหญ่” ตามที่มีการอ้างถึง ยังต้องการให้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรเป็นไปตามความเหมาะสม และสมควรที่ได้เคยวางเอาไว้ตั้งแต่ต้น จึงได้ให้มีการปลดออกจากตำแหน่งและแต่งตั้งใหม่ขึ้นแทน ตามที่ปรากฏออกมา นอกจากแหล่งข่าวรายนี้จะให้ข้อมูลมาเป็นกระแส ที่ชวนให้คิดเกี่ยวกับการสลับสับเปลี่ยนเพื่อโยกเก้าอี้ให้เหมาะสมแล้ว ล่าสุดยังได้มีอดีตเด็กวัดโสธร ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในวัดเมื่อกว่า 30 ปีก่อน และมีความคุ้นเคยกันกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้ง 2 รูป ยังได้ให้ข้อมูลมาในทำนองเดียวกัน ถึงความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ ข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมาตามกระแสคำล่ำลือของชาวบ้าน ยังคงเป็นเพียงแค่ข้อมูลวิพากษ์ข่าวทางสังคม โดยที่ยังหามูลเหตุและข้อเท็จจริงไม่ได้ ท่ามกลางการรอคอยคำชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความกระจ่างทางสังคมและวงการสงฆ์ ในพระพุทธศาสนาให้ได้คลายความหม่นหมองเคลือบแคลง ได้เป็นที่รับทราบโดยทั่วกัน
–เลือกทางสายสงบ อดีตเจ้าคณะ จ.ฉะเชิงเทรา ยังนิ่งเงียบอยู่แต่ในกุฏิ
–วัดโสธรเงียบสงัด หลังมส.ปลดฟ้าผ่าเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: