X
สิ้นหวังทั้งครอบครัว

แอสตร้าคร่าชีวิต หนุ่ม 38 ฉีดกระตุ้นซ้ำดับฝัน 2 ผู้เฒ่าหวังพึ่งพาบั้นปลาย

ฉะเชิงเทรา – แอสตร้าคร่าชีวิต สิ้นหวังกันทั้งครอบครัวหนุ่ม 38 ฉีดเข็ม 2 ดับ ทำฝันของสองผู้เฒ่าหมดสิ้นพังทลายลง จากที่เคยวาดไว้ในบั้นปลายจะได้พึ่งพา เตือนคนในสังคมก่อนฉีดซ้ำให้ระวังให้มาก ญาติเผยก่อนเดินทางเข้าไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เข็มกระตุ้นได้โทรศัพท์ไปสอบถามถึงข้อจำกัด ในกรณีที่ผู้ตายเพิ่งไปทำบอลลูนขยายเส้นเลือดหัวใจกลับมา แต่ จนท. ไม่ยืนยันโยนให้ไปสอบถามที่หน้าหน่วยบริการ สุดท้ายถูกฉีดดับ

วันที่ 16 ต.ค.64 เวลา 19.30 น. ที่ศาลาสวดพระอภิธรรมศพด้านข้างเมรุ วัดประตูน้ำท่าไข่ พื้นที่ ม.1 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้มีการจัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ นายวัชรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194/3 ถ.ริมคลองท่าไข่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เสียชีวิตหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น แอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 มาได้เพียง 3 วัน จนเกิดอาการข้างเคียง และถูกนำตัวส่งไปยัง รพ.พุทธโสธร ในช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 4 หลังการรับวัคซีน ก่อนที่จะสิ้นใจลงในที่สุด

ฝากความหวังไม่ได้แล้ว

โดยนางเสาวคนธ์ อู่วิเชียร อายุ 60 ปี พร้อมด้วย นายมาโนช ปิ่นสุวรรณ์ อายุ 63 ปี สองสามีภรรยาและญาติเล่าว่า บุตรชายของตนเอง ได้เดินทางเข้าไปรับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 11 ต.ค.64 จากนั้นได้มีอาการแน่นหน้าอก เวียนศีรษะ จุกแน่นท้องจนรับประทานอาหารไม่ได้ และมีอาการอาเจียนเล็กน้อย แต่ผู้ตายยังเชื่อว่าน่าจะเป็นอาการข้างเคียง ที่เคยเกิดขึ้นคล้ายกับการฉีดเข็มแรก ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามาเมื่อวันที่ 19 ก.ค.64

ฉีดกระตุ้นเข็ม 2

ซึ่งมีอาการแน่นหน้าอก เวียนศีรษะ และมีอาการอาเจียนเล็กน้อยคล้ายคลึงกัน จึงไม่ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ จนกระทั่งในช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 15 ต.ค.64 นายวัชรพงษ์ ทนต่ออาการปวดศีรษะข้างเดียว และแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก รวมถึงอาการเวียนศีรษะและจะอาเจียนไม่ไหว จึงได้บอกให้ นายมาโนช ผู้เป็นบิดาพาไปส่งยังที่ รพ.พุทธโสธร เมื่อเวลา 06.00 น.ของวันที่ 15 ต.ค.64 (วานนี้) เมื่อมาถึงยังโรงพยาบาล ทางแพทย์ในห้องฉุกเฉินได้ทำการปั้มหัวใจจนถึงกระทั่งเวลาประมาณ 07.00 น.เศษ

เชื่อแพ้วัคซีน

ก่อนที่จะรีบนำขึ้นไปส่งยังที่ห้องไอซียู เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นแล้ว แต่หลังจากนำเข้าสู่ห้องไอซียูแล้ว ในเวลา 08.17 น. เจ้าหน้าที่จึงได้ออกมาบอกว่าหัวใจของบุตรชายตนไม่ทำงานแล้ว และเสียชีวิตลงในที่สุด ซึ่งปกตินั้น นายวัชรพงษ์ มีโรคประจำตัว คือ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และมีประวัติเคยเป็นโรคน้ำท่วมปอดมาก่อน แต่ไม่เคยมีอาการปวดศีรษะข้างเดียวและวิงเวียนลักษณะนี้มาก่อนเลย

จัดพิธีสวดที่วัดประตูน้ำท่าไข่

สำหรับการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบนั้น ได้มีการไปทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจยังที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี มาเมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเข้าไปรับการฉีดวัคซีนเพื่อเป็นการกระตุ้นเข็มที่ 2 เพียง 3 วัน ซึ่งในช่วงรุ่งเช้าวันก่อนที่จะใปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 นั้น นางเสาวคนธ์ กล่าวว่า ตนเองยังมีความเป็นห่วงบุตรชาย ด้วยการโทรศัพท์เข้าไปสอบถามต่อทางเจ้าหน้าที่ยังที่ รพ.พุทธโสธร ก่อนแล้วเมื่อเวลา 07.00 น. ว่า

ความหวังของครอบครัว

บุตรชายของตนนั้น เพิ่งไปทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจมาได้เพียง 3 วันจะสามารถเข้าไปรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามกำหนดการนัดหมายไว้ได้หรือไม่ โดยทางเจ้าหน้าที่ผู้รับสายได้ตอบกลับมาว่า ให้เดินทางไปสอบถามต่อทางเจ้าหน้าที่ยังในหน่วยบริการฉีดวัคซีน ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหน่วยบริการของทางโรงพยาบาลพุทธโสธรได้เลย

ความหวังหนึ่งเดียวของครอบครัว

จากนั้นบุตรชายของตน จึงได้เดินทางไปเข้าคิวเพื่อรอรับการฉีดวัคซีนยังที่ ม.ราชภัฏ ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนั้น และได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 ในที่สุดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. หลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้าน จึงได้เกิดอาการแน่นหน้าอก เวียนศีรษะคลื่นไส้อาเจียน แต่ผู้ตายยังเข้าใจว่า น่าจะเกิดจากอาการแพ้ เช่นเดียวกันกับเข็มแรกที่เคยได้รับมา จึงคิดว่ายังพอทนไหว จึงยอมอดทนรับอาการไปก่อนโดยที่ยังไม่ยอมกลับมาพบแพทย์

สองผู้เฒ่าสิ้นหวัง

ซึ่งก่อนหน้าหลังจากการทำบอนลูนกลับมา เมื่อวันที่ 9 ต.ค.64 บุตรชายของตนยังบอกด้วยว่า อาการของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบดีขึ้นมาก จนรู้สึกหายใจสะดวกและสบายตัวมากขึ้น หลังจากการที่ได้ไปทำบอลลูนกลับมาในทันที แต่ต้องมาเสียชีวิตลงหลังจากการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเป็นเข็มที่ 2 ทั้งที่เพิ่งผ่านเลยวันเกิดอายุครบ 38 ปีมาได้เพียง 2 วันเท่านั้น คือ เกิดในวันที่ 13 ต.ค.2526

สิ้นหวัง

ซึ่งแพทย์ได้มีการลงความเห็นไว้ในใบมรณบัตรว่า “กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด” โดยที่ตนเองเชื่อว่าสภาพร่างกายของบุตรชายนั้น ยังมีสภาพที่ยังไม่พร้อมที่จะเข้าไปรับการฉีดวัคซีน เนื่องจากเพิ่งจะไปทำบอนลูนขยายเส้นเลือดหัวใจมาได้เพียง 3 วัน จึงได้โทรศัพท์ไปถามทางโรงพยาบาลแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบว่า ให้ไปแจ้งยังที่หน่วยบริการฉีดวัคซีนได้เลย ก่อนที่จะได้รับการฉีดวัคซีนกลับมาในที่สุด

หวังพึ่งพาเมื่อบั้นปลาย

สำหรับบุตรชายตนนั้น เป็นบุตรชายคนเดียวจากบุตรจำนวน 2 คน โดยที่ผู้เป็นน้องสาววัย 30 ปีนั้น เป็นคนที่มีสติไม่สมประกอบช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผู้ตายจึงเป็นบุตรคนเดียวที่คนทั้งครอบครัวฝากความหวังเอาไว้ เพื่อจะได้ให้ช่วยคอยดูแลผู้เป็นน้องสาวต่อจากพ่อและแม่ รวมถึงยังได้ตั้งความหวังไว้ว่าจะให้ช่วยดูแลในยามที่พ่อและแม่แก่ชราภาพลงในปั้นปลายของชีวิต ขณะนี้จึงไม่เหลือใครที่จะมาคอยดูแลคนในครอบครัวของตนอีกต่อไปแล้ว หลังจากนี้ไป

สองผู้เฒ่าน้ำตาคลอ

ความสูญเสีย ความหวังซึ่งเป็นเพียงหนึ่งเดียวทั้งชีวิตของคนในครอบครัวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากตนเองได้พยายามที่จะโทรศัพท์ไปสอบถามต่อทางเจ้าหน้าที่ก่อนแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบที่ไม่กระจ่างชัด หรือ ทางเจ้าหน้าที่ควรที่มีคำแนะนำที่ชัดเจนแน่นอนกลับมาตั้งแต่แรก จึงเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียที่ไม่อาจจะโหยหาให้หวนคืนกลับมาได้ จึงอยากจะทวงถามถึงความรับผิดชอบ ความเป็นธรรม จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาล ว่าจะเยียวยาและรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร นายมาโนชพร้อมภรรยากล่าวทั้งน้ำตาคลอเบ้า

สิ้นหวังกันทั้งครอบครัว

ฉีดแล้วตาย ไขว้วัคซีนเข็ม 2 หนุ่มวัยฉกรรจ์ไม่เคยป่วยไข้ดับคา รพ.ญาติเศร้ารับศพ

รพ.ต้นสังกัด วัคซีนเข็มไขว้มรณะเรียกญาติหนุ่ม 35 ฉีดดับเจรจาแล้ว

ฉีดแล้วตาย ชาวบ้านขยาดไม่ขอฉีดซ้ำเข็ม 2 หนุ่ม 35 เข็มไขว้ฉีดดับเผาแล้ววันนี้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน