ฉะเชิงเทรา – เรียงแถว ชนกันยับเยินยามเช้า ทำคนงานที่นั่งมาบนรถตู้รับส่งเจ็บ 6 ราย คาทางสามแยกสัญญาณไฟหัวเนินแปดริ้ว เหตุจากกระบะขับเปลี่ยนใจเบี่ยงเข้าออกจากท้ายแถว ช่วงก่อนถึงทางสามแยกที่มีรถต่อคิวรอเลี้ยวจำนวนมาก ทำการจราจรบนถนนสาย 314 ติดขัดยาวไกลตลอดทั้งสาย นานกว่า 2 ชม.
วันที่ 4 พ.ย.64 เวลา 06.15 น. ร.ต.ท.ณัฐพงศ์ ใจกว้าง รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์พุ่งชนท้ายกันจำนวนหลายคันบนถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง (สิริโสธร) ที่บริเวณก่อนถึงทางสามแยกสัญญาณไฟหัวเนิน พื้นที่ ม.1 ต.คลองประเวศ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุก่อนถึงบริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟด้านฝั่งขาเข้าตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ประมาณ 50 เมตร ในช่องทางด้านขวาสุดจากทั้งหมด 4 ช่องจราจร พบรถยนต์บรรทุกก๊าซ LPG ขนาด 10 ล้อ หมายเลขทะเบียน 71-2583 ฉะเชิงเทรา จอดอยู่ด้านหน้าสุด มีร่องรอยถูกรถยนต์เก๋งสีขาวคันหมายเลขทะเบียน 1ขบ-6036 กทม. พุ่งชนที่คานเหล็กด้านท้ายเพียงเล็กน้อย แต่ไม่มีการยุบตัวของแผงคานคันชนโลหะ
ส่วนรถยนต์เก๋งอยู่ในสภาพพังยับเยินทั้งด้านหน้าและด้านท้าย ซึ่งมีรถยนต์กระบะคันสีขาวยี่ห้อฟอร์ด หมายเลขทะเบียน 2ขฐ-7073 กทม. พุ่งอัดติดอยู่ที่ด้านท้าย โดยมีรถยนต์กระบะคันสีดำยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ถส-1566 สมุทรปราการ พุ่งมาชนที่ขอบกระบะด้านซ้ายอีกต่อหนึ่ง สภาพตัวถังบิดงอบูดเบี้ยวทั้งคันจอดขวางลำคาอยู่บนช่องทางที่ 2 ด้านท้ายรถยังมีรถยนต์ตู้คันสีขาว หมายเลขทะเบียน 1นข-8719 กทม. พุ่งชนอัดติดอยู่ที่ด้านท้ายอีก 1 คัน
จากการสอบถาม นายวัฒนา เกียนโคกกรวด อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/2 ม.2 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา คนขับรถบรรทุกก๊าซ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนได้ขับรถไฟรับก๊าซมาจากในพื้นที่ กทม. เพื่อที่จะเดินทางนำไปส่งยังที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้จอดรถรอสัญญาณไฟอยู่ในเลนด้านขวาสุด ได้มีรถยนต์จำนวนหลายคันพุ่งเข้ามาชนต่อเรียงแถวกันที่ด้านท้าย แต่รถคันของตนไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด นายวัฒนา กล่าว
ขณะที่ น.ส.เรณู (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ซึ่งมากับรถยนต์กระบะคันสีขาว และถูกรถยนต์กระบะคันสีดำพุ่งชนท้าย กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุรถคันของตนได้ขับเข้ามาจอดต่อท้ายรถเก๋ง เพื่อที่จะรอเลี้ยวขวากลับเข้าไปยังที่ห้องพักบริเวณทางแยกหัวเนิน แต่ได้มีรถยนต์กระบะคันสีดำที่ขับตามมาภายหลังนั้น ได้ขับเบี่ยงรถออกไปยังเลนที่ 2 และพยายามเบี่ยงกลับเข้ามาในเลนขวาสุดตามเดิม
จึงทำให้รถตู้รับส่งพนักงานบริษัท ที่ขับมาทางตรงบนช่องทางที่ 2 พุ่งชนอย่างแรง และทำให้มีคนงานที่นั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บ ถูกกระจกที่แตกจากตัวรถบาด และมีบาดแผลถลอกปูดบวมตามใบหน้าจำนวน 5-6 คน น.ส.เรณู กล่าว
ส่วนด้าน นายบุญยัง โยธิโน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1 ม.10 ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากออกกะเลิกงานมาจากโรงงานในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้ขับรถเพื่อจะเดินทางกลับบ้านไปยังที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อจะไปร่วมทำบุญกับญาติยังบ้านเกิด เมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุ ได้เห็นว่ามีรถจอดรอติดสัญญาณไฟแดงอยู่บนเลนด้านขวาสุดเป็นจำนวนมากจนเป็นแถวยาวไกล
จึงได้พยายามขับเบี่ยงตัวรถหลบออกไปยังในเลนที่ 2 แต่ได้มองเห็นในกระจกด้านหลังว่า กำลังมีรถตู้ขับมาด้วยความเร็วสูงในเลนที่ 2 จึงได้เบี่ยงตัวรถกลับเข้ามายังในช่องทางเดิม แต่ได้ถูกรถตู้พุ่งเข้าชนที่ด้านหลังในที่สุดอย่างแรงเสียก่อน จึงไม่ทราบว่าคนขับรถตู้นั้นหลับในหรือไม่ นายบุญยัง กล่าว
ร.ต.อ.ณัฐพงศ์ กล่าวว่า สาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากมีการขับรถเปลี่ยนช่องจราจรไปมาก่อนถึงบริเวณทางแยก และมีใช้ความเร็วที่สูงมากกว่ากฎหมายกำหนดไว้ จึงทำให้มีรถยนต์พุ่งชนท้ายกันจำนวน 5 คันในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อีกจำนวน 5-6 ราย ในเบื้องต้น ส่วนรายละเอียดที่แน่ชัดยังต้องรอการสอบสวนโดยละเอียดต่อไป ร.ต.อ.ณัฐพงศ์ กล่าว
