ฉะเชิงเทรา – ตำรวจแปดริ้ว เร่งประกาศแจ้งเตือนประชาชน พร้อมชี้ให้เห็นถึงความผิดทางกฎหมายให้ทราบ หลังมีชายแต่งกายเป็นตำรวจโดยไม่มีสิทธิ์ และอ้างตัวเป็นรอง ผกก. เข้ามาก่อเหตุต้มตุ๋นเหยื่อถึงในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนถูก จนท.ตำรวจ จากกองบังคับการปราบปรามติดตามประกบเข้ามาควบคุมตัวนำไปดำเนินคดีได้เมื่อ 2 วันก่อน
วันที่ 6 พ.ย.64 เวลา 12.01 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา ได้ทำการเผยแพร่ข้อความในการเตือนประชาชนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมชี้ให้เห็นถึงความผิดและอัตราโทษ ในกรณีมีชายวัย 52 ปี แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยเครื่องแบบของทางราชการ และยังมีการประดับเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ต่างๆ ของทางราชการตำรวจ รวมถึงยังมีการแอบอ้างตัวว่ามีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้กำกับการ
ข่าวน่าสนใจ:
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
- กองเชียร์นายกก้อยคึก แม้ไม่มีคู่แข่งดีกรีพอทาบบารมีได้ ในสนามชิงนายก อบจ.แปดริ้ว
- พบลูกหลาน “ตันเจริญ” โผล่สมัคร ส.อบจ.ใน 2 เขตเลือกตั้ง
- ศึกษาธิการระยอง จับมือเทคนิคระยอง และศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง จัดกิจกรรมโครงการเรียนดี มีความสุขสู่อนาคตที่สดใส
ได้เข้ามาก่อเหตุพยายามหลอกลวงหญิงสาวผ่านทางสื่อโซเชียล เพื่อขอร่วมหลับนอนและถ่ายคลิบวีดีโอไว้แบล็กเมล์ จนถูกทาง จนท.ตำรวจจากกองปราบปรามติดตามมาจับกุมตัวไว้ได้ ในพื้นที่ สภ.วังคู จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 4 พ.ย.64 ที่ผ่านมานั้น ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองบังคับการ ตร. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้นำข้อความและคลิปวีดีโอของ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเผยแพร่ต่อถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น ปรากฏว่าได้มีนายชัยทอง ชาติโสม อายุ 52 ปี แอบอ้างแต่งกายด้วยเครื่องแบบเป็นตำรวจ และมีตำแหน่ง เป็นรองผู้กำกับการ ไปหลอกลวงหญิงสาวผ่านสื่อโซเชียล (เฟซบุ๊ก) เพื่อขอร่วมหลับนอนด้วย
ทั้งยังได้มีการถ่ายคลิปลับเอาไว้ระหว่างร่วมหลับนอน เพื่อนำมาไว้ใช้ข่มขู่ในภายหลัง หากผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก และผู้กระทำผิดไม่ใช่ตำรวจจริง โดยมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบถึงความผิดและอัตราโทษของการแอบอ้างเป็นข้าราชการตำรวจ ดังนี้ 1.ผู้ใดแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 5 ปี ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 108
2.ผู้ใดแต่งกายโดยใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ และการทำการใด ๆ อันทำให้ข้าราชการตำรวจถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ข้าราชการตำรวจ หรือทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าตนเป็นตำรวจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 110
3.ความผิดตามข้อ 1. และ 2. หากได้กระทำในเขตที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือประกาศภาวะฉุกเฉิน หรือเพื่อกระทำความผิดอาญา ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 108 หรือ มาตรา 110 4.ผู้ใดใช้เครื่องหมายราชการ โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 มาตรา 6 ประกอบมาตรา 8 แต่ในส่วนของการแสดงภาพยนตร์ ละคร หรือการแสดงอื่นใด
ที่มีประสงค์จะนำเผยแพร่ต่อสาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์โรงภาพยนต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ ตามที่ผู้แสดงต้องการแต่งเครื่องแบบตำรวจ หรือใช้เครื่องแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจ สามารถกระทำได้ แต่ต้องให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ แจ้งต่อหัวหน้าสถานีตำรวจในท้องที่ที่จะทำการแสดงทราบ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 111 โดยต้องระมัดระวังเนื้อหาที่ต้องไม่ทำให้ข้าราชการตำรวจถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ข้าราชการตำรวจ มิเช่นนั้นอาจถูกดำเนินคดีได้
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นบุคคใดมีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือใช้เครื่องหมายตำรวจ ในการกระทำผิดกฎหมาย หรือหลอกลวงผู้อื่น สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิด ไปยังสายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: