ฉะเชิงเทรา – สวยเกินคำบรรยาย เงาสะท้อนผิวน้ำบางปะกงสุกสว่างเรืองรองเป็นสีเงินในค่ำคืนวันลอยกระทง ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก ที่ต่างพากันออกมาเดินท่องเที่ยวและลอยกระทงลงในสายน้ำ ทั้งที่ทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ไม่ได้มีการจัดงานวันลอยกระทง เหตุจากหวั่นเกรงกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ แพร่เชื้อโควิด 19 แต่ได้จัดให้มีการออกร้านค้ากระทงและอาหาร เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในบริเวณสวนมรุพงษ์แทน
วันที่ 20 พ.ย.64 เวลาส 00.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในค่ำคืนของวันลอยกระทง ที่บริเวณสวนมรุพงษ์ริมฝั่งลำน้ำบางปะกง ภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ตั้งแต่ช่วงระหว่างหัวค่ำของวันที่ 19 พ.ย.64 จนถึงเวลาเที่ยงคืนของวันเพ็ญเดือนสิบสอง 20 พ.ย.64 ว่า ในปีนี้ทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ไม่ได้มีการจัดงานวันลอยกระทงเหมือนอย่างเช่นในทุกๆ ปีที่ผ่านมา หลังจากเกิดการระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา อย่างรุนแรงตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
แต่กลับมีประชาชนต่างพากันเดินทางเข้ามาลอยกระทง ภายในบริเวณสวนมรุพงษ์อย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะในช่วงระหว่างเวลา 20.30 น. ไปจนถึงเวลา 23.00 น. นั้น ถือเป็นช่วงที่มีผู้คนเข้ามาลอยกระทงอย่างหนาแน่นมากที่สุด ขณะที่ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้มีการประกาศชี้แจงถึงการไม่ได้จัดงานลอยกระทงในปีนี้อยู่เป็นระยะ โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากยังคงมีการระบาดของโรคโควิด 19 อยู่ในพื้นที่
ทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จึงได้งดการจัดงานลอยกระทงในปีนี้ เพราะหวั่นเกรงว่าจะกลายเป็นคลัสเตอร์วันลอยกระทง แต่ได้มีการจัดให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามาจองบูทออกร้านเพื่อค้าอาหารและกระทง ภายในบริเวณสวนมรุพงษ์แทน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ โดยมีการประกาศชี้แจงต่อประชาชนที่พากันเดินทางเข้ามาลอยกระทงอยู่เป็นระยะ ต่อเนื่องหลายครั้ง
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จะไม่ได้มีการจัดงานลอยกระทงขึ้น แต่ก็ยังคงมีการละเล่นของชุมชนภายในบริเวณสวนมรุพงษ์ เช่น การละเล่นรำวง ที่บริเวณลานโลมา และการประดับไฟแสงสีตามกิ่งไม้จนสว่างเรืองรองไปทั่วทั้งบริเวณ ขณะที่บนสะพานเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ได้มีการประดับไฟราวส่องสว่างตามแนวขอบสะพานเพียงเล็กน้อย
แต่ที่พื้นท้องน้ำในบริเวณใต้สะพานและโดยรอบ กลับมีแสงสะท้อนลงมาจากดวงจันทร์วันเพ็ญ ซึ่งมีเมฆหลัวบดบังแสงให้เจือจางลงบางส่วน ประกอบกับมีแสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าประดับภายในบริเวณโดยรอบได้สะท้อนลงมาตัดกัน จึงทำให้มองเห็นเป็นปรากฏการท้องน้ำสีขาวเงิน และสะท้อนขึ้นมาสู่เหนือผิวน้ำจนดูสวยงาม โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง
โดยความสวยงามที่ปรากฏ ได้กลายเป็นฉากหลังให้แก่ผู้คนที่กำลังเข้ามาเดินท่องเที่ยวชมความสวยงามของสายน้ำ และรับกลิ่นอายของบรรยากาศริมน้ำบางปะกงในคืนเดือนเพ็ญ ประกอบกับความวุ่นวายของผู้คนที่กำลังเอิบอิ่มต่อแสงไฟ และล้วนต่างพากันใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเซลฟี่ให้แก่กัน บ้างก็ยังสาละวนอยู่กับการจุดธูปและเทียนในกระทงให้ติดสว่าง ก่อนยกขึ้นอธิษฐานเหนือศีรษะ บ้างก็ต่างพากันเดินทอดน่องเที่ยวรับลมและชมบรรยากาศของริมฝั่งลำน้ำ
สำหรับผู้ที่มาลอยกระทงส่วนใหญ่นั้น ต่างพากันหย่อนลอยกระทงด้วยความยากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำบางปะกงได้ลดระดับต่ำลง ตามระดับน้ำทะเลในช่วงเวลาหลังจาก 21.00 น.เป็นต้นไปจนถึงยามใกล้รุ่งสาง ก่อนที่กระแสน้ำจะหวนกลับมาหนุนดันขึ้นสูงอีกครั้งในช่วงเช้า จึงทำให้หลายคนไม่สามารถที่จะหย่อนลอยกระทงลงไปในน้ำได้ โดยบางรายต้องใช้วิธีการโยนกระทงลงน้ำแทน
ขณะที่ท่าน้ำบางจุดนั้น ได้มีผู้ที่มารอคอยเก็บเหรียญออกจากกระทง ได้ช่วยหยิบกระทงจากผู้ที่มาลอย ไปหย่อนลงบนผิวน้ำนอกชานตลิ่งให้ จากนั้นในช่วงหลังจากเวลา 23.30 น.ประชาชนจึงเริ่มทยอยเดินทางกลับ และยังคงมีผู้ที่เพิ่งเดินทางมาลอยกระทงลงสู่ลำน้ำบางปะกงอย่างประปรายเบาบางลง หลังจากเวลาผ่าน 00.00 น.ไปแล้ว
–ลอยวนในอ่าง พ่อเมืองแปดริ้วควง 2 นางแบบผ้าไทยลอยกระทงแรกเป็นปฐมฤกษ์
