ฉะเชิงเทรา – เตรียมขอกำลังเสริม จากสืบสวนภูธร จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยออกแรงแกะรอยควานหาตัวคนร้ายฉกเงินล้านจากกุฏิพระสงฆ์วัดสนามช้าง พร้อมพระเครื่องพระพุทธรูปบูชามูลค่าสูง สิ่งของสะสมหายากในวงการเซียนพระ ที่ถูกแก๊งค์ตีนแมวเข้ามาโจรกรรมยกเค้าหายไปจนเกือบหมดเกลี้ยงทั้งกุฏิ หลังคดีไม่คืบมานานกว่า 2 เดือนเต็ม
วันที่ 26 พ.ย.64 พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผกก. สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงทรา กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดี กรณีมีชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ออกมารวมตัวเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาชี้แจงถึงความคืบหน้าในทางคดี หลังจากมีคนร้ายบุกเข้ามางัดกุฏิพระชัยรัตน์ ธมฺมรตโน อายุ 45 ปี พรรษา 24 รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดสนามช้าง และโจรกรรมทรัพย์สินไปเป็นเงิน 1 ล้านบาท พร้อมพระเครื่องพระบูชาเก่าแก่หายากมูลค่าสูง ขณะรับกิจนิมนต์ออกไปฉันเพลนอกวัด เมื่อวันที่ 19 ก.ย.64 ว่า
หลังจากผลตรวจดีเอ็นเอ ที่ตรวจพบบนวัตถุพยานไม่ตรงกันกับของผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้ แนวทางการสืบสวน เพื่อหาตัวคนร้ายนั้นยังคงต้องสืบค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ได้มีการไล่เก็บภาพมาจากกล้องวงจรปิดตามรายทางควบคู่กันไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งทาง สภ.บางคล้า ได้พยายามที่จะทำคดีนี้ให้เร็วที่สุดโดยเจ้าหน้าที่ได้มีการลงมาในพื้นกันทุกวัน
อีกทั้งขณะนี้ได้เตรียมที่จะประสานขอกำลังไปยังทางสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ให้ลงพื้นที่เข้ามาช่วยแกะรอยหาตัวคนร้ายอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อให้คดีคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็วขึ้น ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ชาวบ้านเชื่อถือว่าจะได้ตัวคนร้ายมาหรือไม่นั้น ได้พยายามที่จะทำอยู่ เพื่อให้ได้ตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด หลังจากที่ผ่านมาได้ไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายไป แต่ภาพได้ไปสิ้นสุดลงยังในพื้นที่ สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา
ซึ่งจุดดังกล่าวนั้นเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ที่บ้านอ่าวช้างไล่ พื้นที่ ม.5 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ให้ทางสืบสวน สภ.แปลงยาว ได้ช่วยออกมาติดตามตรวจสอบเพื่อหารถที่มีลักษณะเดียวกันกับรถคันที่คนร้ายใช้ขับเข้ามาก่อเหตุในวัดแล้ว แต่ยังไม่มีคันใดตรงกันกับรถของคนร้าย
เมื่อถามว่ามีคนภายในบริเวณวัด ที่รู้เบาะแสความเคลื่อนไหวภายในเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ผกก.บางคล้า ตอบว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชี้ชัดเชื่อมโยงมาถึงในประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ และยังไม่มีข้อมูลที่จะเชื่อมโยงมาถึง แต่หากเราได้ตัวคนร้ายมาแล้วก็จะทำการสอบสวนหาตัวคนที่เกี่ยวข้องต่อไป ขณะนี้จากการสอบปากคำรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัด ยังมีคนร้ายเพียงแค่คนเดียว
และจากการที่ได้ไล่กล้องวงจรปิดไป ได้เห็นภาพรถของคนร้ายหมดแล้ว แต่เป็นรถที่ไม่ได้มีการติดแผ่นป้ายทะเบียนจึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ส่วนพยานแวดล้อมภายในวัดนั้น ขณะเกิดเหตุไม่มีคนเห็น แต่ได้มีคนสนิทของทางรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดเข้ามาเห็น หลังจากที่คนร้ายได้ก่อเหตุไปแล้ว โดยพบว่ากุฏิถูกงัด และถูกขโมยทรัพย์สินหายไปจึงได้แจ้งให้ทราบเท่านั้นเอง ส่วนรายละเอียดในขณะเกิดเหตุนั้นไม่มีใครพบเห็น พ.ต.อ.พรชัย กล่าว
–เงินนับล้านหายจากวัดนาน 2 เดือนคดีไม่คืบ ชาวบ้านรวมกลุ่มตั้งทวงถามจนท.
