ฉะเชิงเทรา – ส่งตัวเซียนพระฝากขังแล้ววันนี้ ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด” ขณะเจ้าตัวยังปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาด้วยท่าทีเรียบเฉย หลังนำตัวส่งศาลพนักงานสอบสวนไม่ค้านญาติหากจะยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ระบุขอให้เป็นดุลยพินิจของศาลในการพิจารณา ด้าน ผบก.เชื่อจับไม่ผิดตัว
วันที่ 3 ธ.ค.64 เวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ผกก. สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ในวันนี้ พ.ต.ท.เดชฤทธิ์ ศรีคชา สารวัตรสอบสวนในคดีกรณีมีคนร้ายบุกเข้ามาก่อเหตุงัดกุฏิพระสงฆ์ภายในวัดสนามช้าง ตั้งอยู่เลขที่ 73 ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนโจรกรรมทรัพย์สินไปเป็นเงินสดจำนวนกว่า 1 ล้านบาทพร้อมพระเครื่องพระบูชามูลค่าสูง จากภายในกุฏิของพระชัยรัตน์ ธมฺมรตโน อายุ 45 ปี พรรษา 24 รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดสนามช้าง
ข่าวน่าสนใจ:
- ถนนคนเดิน Stone Street บ้านไร่แห่งใหม่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูเศรษฐกิจ
- เครื่องบินตกครบ 3 เดือนกับความกระจ่างที่ยังไม่ปรากฏ คนพื้นที่ยังหวาดหวั่นคาใจ
- พะเยา ฮือฮา! สาวหล่อผอ.รร.ยกขันหมากเงินล้านจาก จ.ลำพูนขอครูสาวดอกคำใต้ คู่แรก จ.พะเยา
- ตำรวจสมุทรปราการ ขานรับนโยบาย ผบ.ตร.บูรณาการกำลังทุกภาคส่วน กวดขันจับกุมแก๊งวัยรุ่นต่างด้าว
เมื่อวันที่ 19 ก.ย.64 ขณะพระสงฆ์ออกรับกิจนิมนต์ไปฉันเพลยังภายนอกวัดนั้นว่า ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายสุวัชร สังขะปรีชา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/5/1 ม.1 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เซียนพระผู้ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ฉะเชิงเทรา เลขที่ จ.404/2564 ลงวันที่ 2 ธ.ค.64 ไปส่งฝากขังยังที่ศาล จ.ฉะเชิงเทรา แล้ว เมื่อเวลา 10.30 น. หลังจากที่ได้นำตัวมาสอบปากคำตามคำให้การเพิ่มเติมของผู้ต้องหาในช่วงเช้า
โดยพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด” ขณะที่ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาด้วยท่าทีเรียบเฉย ส่วนจะมีการทำกันเป็นขบวนการตามที่พยานพบเห็นว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุมีรถ จักรยานยนต์เข้ามาจอดอยู่ตรงบริเวณหน้าโบสถ์จำนวนหลายคันนั้น
ขณะนี้ยังอยู่ระกว่างการดำเนินการที่จะตรวจสอบเพิ่มเติมอยู่ โดยได้มีการสอบพยานที่พบเห็นเอาไว้ทั้งหมดแล้ว ว่ารถจักรยานยนต์ที่เข้ามาจอดในขณะนั้นมีลักษณะใดบ้าง จึงจะได้ทำการตรวจสอบไปตามคำให้การของพยานที่พบเห็น ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ว่ามีคนร้ายมาร่วมกันก่อเหตุจำนวนกี่คน โดยเจ้าหน้าที่กำลังพยายามที่จะสอบเพิ่มอยู่ในขณะนี้ โดยที่ผู้ต้องหายังคงนิ่งเฉยและไม่ได้ให้การว่าใครมาเกี่ยวข้องบ้าง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเชื่อมั่นว่าการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ ไม่ผิดตัวแล้วใช่หรือไม่ พ.ต.อ.พรชัย ตอบว่า ในขณะนี้เราทำไปตามกระบวนการโดยขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่เรารวบรวมมาได้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง แล้วจึงได้นำเสนอต่อศาล โดยที่ศาลท่านเป็นผู้พิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่เราได้นำเสนอไปนั้นว่ามีน้ำหนักเพียงพอที่จะออกหมายจับได้หรือไม่ ซึ่งศาลได้มีการพิจารณาแล้วและเห็นว่ามีน้ำหนักเพียงพอจึงได้อนุมัติออกหมายจับให้
เมื่อถูกถามอีกว่าเกี่ยวกับพยานหลักฐานในสิ่งที่คนร้ายโจรกรรมไปนั้น เรายังไม่ได้มาเลยใช่หรือไม่ พ.ต.อ.พรชัย ตอบว่าในขณะนี้เรายังไม่ได้มา โดยเฉพาะเงินสดนั้นเรายังไม่แน่ใจว่ายังคงอยู่หรือไม่ ส่วนพระเครื่องนั้นกำลังอยู่ระหว่างความพยายามที่จะตรวจสอบอยู่ ซึ่งน่าจะยังคงวนเวียนอยู่ในกลุ่มของคนเล่นพระเหล่านี้ แต่ขณะนี้ยังนิ่งอยู่โดยยังไม่พบว่ากลุ่มไหนมีพระเครื่องพระบูชาของกลางตามลักษณะของพระที่หายไป
โดยระหว่างการควบคุมตัวนำไปส่งฝากขัง ผู้ต้องหายังมีท่าทีนิ่งเฉยตามปกติ ซึ่งในขณะอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวน ได้มีการสอบปากคำอย่างต่อเนื่องโดยตลอด จึงยังไม่มีญาติเข้ามายื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวแต่อย่างใด แต่ได้แนะนำให้ทางญาติไปยื่นขอประกันตัวยังที่ศาล หากประสงค์ที่จะยื่นขอประกันตัว เพื่อให้ทางศาลเป็นผู้พิจารณาว่าจะปล่อยตัวชั่วคราวได้หรือไม่ โดยที่ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด พ.ต.อ.พรชัย กล่าว
พร้อมเปิดเผยอีกว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปรายงานให้ทาง พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้ทราบว่าเมื่อวานนี้ทาง สภ.บางคล้า ได้ทำอะไรไปบ้างหลังการเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้ รวมทั้งการนำตัวส่งฝากขังในวันนี้ และมีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกเมื่อช่วงเช้า โดยทาง ผบก.ได้สั่งการให้ดำเนินการไปตามระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พ.ต.อ.พรชัย กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.นันทวุฒิ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคล้า นำโดย พ.ต.อ.พรชัย กิตติชญาน์ธร ซึ่งได้ลงไปตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุด้วยตนเอง โดยมีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งลายนิ้วมือแฝงรวมถึงดีเอ็นเอเอาไว้แล้ว และได้ใช้ระยะเวลาที่จะทำคดีให้ละเอียดที่สุดในการพิสูจน์ทราบเพื่อทำให้กระบวนการยุติธรรมโปร่งใสและตรงไปตรงมาที่สุด
ในเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ จึงได้พยายามที่จะนำพยานหลักฐานอื่นที่จะพิสูจน์ความผิด ทั้งการเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ การตรวจดีเอ็นเอ และตำหนิรูปพรรณ ตลอดจนพยานบุคคลที่พอจะพบเห็นว่าคนร้ายได้เข้ามาอยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่อย่างไร จึงเชื่อว่าพยานหลักฐานมีเพียงพอจนทำให้ศาลออกหมายจับให้ได้ พล.ต.ต.นันทวุฒิ กล่าว
-ขยับไม่หยุด ชาวเสม็ดใต้แจกแผ่นปลิวล่าคนร้ายฉกเงินล้านวัดสนามช้าง
–เร่งปิดประกาศ ตั้งรางวัลนำจับ 2 หมื่น ล่าโจรบาปฉกเงินล้านวัดสนามช้าง
–ขอหมายจับเซียนพระแปดริ้วแล้ว ก่อนคุมตัวค้นบ้าน 3 จุด คดีฉกเงินล้านวัด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: