X
มีการพัฒนาในพื้นที่

เผยอีอีซีโตเกิน 1 เปอร์เซ็นต์ท่ามกลางสถานการณ์โควิด 19 ระบาด

ฉะเชิงเทรา – เผยอีอีซีโตเกิน กว่า 1 เปอร์เซ็นต์ท่ามกลางสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ระบาด ไม่หวั่นแม้โอมิครอนจะเข้ามาซ้ำเติมสถานการณ์อย่างต่อเนื่องอีกระลอก คาดในปีหน้าเติบโตพุ่งสูงขึ้นมากกว่าเดิมอีกเกินกว่าร้อยละ 3 และจะโตต่อเนื่องเกินกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปได้อีกในปีถัดๆ ไป ชี้ได้ผ่านจุดที่ต่ำสุดมาแล้วเมื่อไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

วันที่ 23 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้กล่าวเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษ (EEC) และการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในภาพรวมของพื้นที่ 3 จังหวัด (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) ระหว่างการบรรยายในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กัน ระหว่างบริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ลงนามร่วมกัน

และยังเป็นผู้พัฒนาบริหารจัดการพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม TFD ใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กับบริษัทอินดัสเตรียลวอเตอร์ รีซอร์สแมนเนจเม้นท์ จำกัด (IWRM) ผู้ผลิตน้ำเพื่ออุตสาหกรรม และระบบประปาในภาคตะวันออก ว่า ตลอดทั้งปี 2564 ที่ผ่านมา เขตพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี นั้น มีการเติบโตทางเศรษฐกิจได้เกินกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ระบาด

ตั้งอยู่ต้นซอยอีอีซี

แม้จะมีเชื้อสายพันธุ์ “โอมิครอน” เริ่มเข้ามาซ้ำเติมสถานการณ์อย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่คาดว่าในปีหน้าจะเติบโตพุ่งสูงขึ้นอีกเกินกว่าร้อยละ 3-5 และจะโตต่อเนื่องเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปในปีถัดๆ ไป ซึ่งสถานการณ์ได้ผ่านจุดที่ต่ำสุดมาแล้ว เมื่อไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จึงตอบได้ว่าขณะนี้อีอีซีเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนประเทศอยู่ ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี (TFD) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อีอีซี และได้มีการลงนามความร่วมมือเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านทรัพยากรน้ำให้แก่ภาคอุตสาหกรรมในวันนี้นั้น

เลขาอีอีซี

ได้เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนให้อีอีซีขยับเดินหน้าต่อไปได้อีก ทั้งยังมีพื้นที่เหลืออีกเป็นจำนวนมากนับพันไร่ แต่อยากแนะนำให้รีบทำ Smart Industry park ให้เร็วขึ้น ซึ่งหากจะรอไปอีกจนถึง 5 ปีนั้นจะล่าช้าเกินไป โดยแผนที่วางไว้ในระยะ 5 ปีนั้น รถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยกว่าครึ่งหนึ่งจาก 2 ล้านคันต่อปีจะเปลี่ยนเป็นรถยนต์ EV และจะมีการผลิตด้วยระบบออโตเมชันมากขึ้น รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ตามมาด้วย จึงอยากจะขอให้ใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพ

ขณะนี้จึงไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องของการเติบโตและการพัฒนาพื้นที่อีอีซี เนื่องจากโครงการต่างๆ ในพื้นที่ยังเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ว่าจะมีโรคโควิด 19 ระบาดหรือไม่ก็ตาม โดยเฉพาะท่าเรือทั้ง 4 แห่งโครงการสนามบินและรถไฟความเร็วสูงนั้น ล้วนจบหมดแล้ว ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาในเขตพื้นที่อีอีซีได้มีการลงทุนไปแล้วถึงกว่า 1.6 ล้านล้านบาท

การเติบโตในพื้นที่อีอีซี

และยังจะมีการทยอยลงทุนในอนาคตต่อเนื่องอีกประมาณปีละ 5 แสนล้านบาท โดยคาดว่าในระยะอีก 3 ปีไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า เราจะหาการลงทุนเข้ามาได้อีกประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 5 แสนล้านบาทต่อปี

มีพื้นที่เหลือนับพันไร่

ส่วนนโยบายในเรื่องของแหล่งน้ำในภาคอุตสาหกรรมนั้น ทาง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายโดยให้จัดตั้งคณะกรรมการน้ำและทำแผนน้ำให้กับอีอีซี โดยนโยบายของคณะกรรมการน้ำได้ระบุไว้ว่า “ให้เอกชนเข้ามาช่วยจัดหาน้ำให้แก่นิคมอุตสาหกรรม เป็นนโยบายหลัก” จึงต้องขอขอบคุณ “IWRM” ที่เข้ามาช่วยทำ อีกทั้งยังดีใจด้วยเนื่องจากเป็นบริษัทของคนไทยที่เข้ามาทำเอง เนื่องจากเคยพบเห็นในต่างประเทศนั้น ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นบริษัทของต่างชาติที่เข้ามาทำ

เส้นทางการคมนาคมสะดวก

ขณะเดียวกันโครงการรถไฟความเร็วสูงและท่าเรือในพื้นที่อีอีซีนั้น ยังล้วนแต่เป็นบริษัทของคนไทยทำทั้งหมด จึงเล็งเห็นว่าการลงทุนพัฒนาในเรื่องของน้ำในนิคมอุตสาหกรรมนั้นถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ส่วนความน่าสนใจและข้อดีของนิคมอุตสาหกรรม TFD นั้น คือ เป็นนิคมฯ แห่งแรกที่อยู่ต้นซอย เมื่อขับรถออกจาก กทม. เข้ามายังในเขต จ.ฉะเชิงเทรา (อีอีซี) แล้วจะถึงก่อนแห่งอื่น จึงถือว่ามีความสะดวกสบายมาก ดร.คณิศ กล่าว

มาจาก กทม.ถึงก่อนใคร

กนอ. หนุน TFD ทำ MOU เสริมมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำ รับพื้นที่อุตสาหกรรมแปลงใหม่กว่า 3 พันไร่

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน