ฉะเชิงเทรา – ห่วงทางเชื่อม 3 สายสู่อีสานคนเดินทางทะลักคืนนี้ รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่สั่งเคลียร์อุบัติเหตุรถเสียออกนอกเส้นทางอย่างเร่งด่วนทุกจุด พร้อมกำชับ จนท.ทุกท้องที่เพิ่มกำลังและปรากฏกายอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้เห็นอย่างเด่นชัด เผยถอดปัญหาจากอดีตมาปรับแก้ให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด
วันที่ 30 ธ.ค.64 เวลา 15.30 น. พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุปถึงแผนการรับมือการจราจรในช่วงเทสกาลปีใหม่ทั้งขาไปและกลับ บนเส้นทางเชื่อมต่อ 3 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญไปสู่ยังภาคอีสาน ยังที่ สภ.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
โดยมี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ได้เดินทางมาตรวจเส้นทางการจราจรบนทางหลวง 304 บริเวณเขตพื้นที่ สภ.เขาหินซ้อน ซึ่งมีสภาพเป็นลักษณะคอขวดที่รับการสัญจรของประชาชนเชื่อมจากถนนสาย 331 มาบรรจบกันระหว่างถนนสาย 304 และถนนสาย 331 ก่อนแยกออกไปยังถนนสาย 359 (สระแก้วตัดใหม่) และ มุ่งหน้าไปยัง จ.นครราชสีมา ตามเส้นทางสาย 304 ซึ่งจะมีประชาชนเข้ามาใช้เส้นทางอย่างหนาแน่น ในทุกช่วงเทศกาลที่ผ่านมา
ซึ่งในวันนี้ได้มี พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา, พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี และผู้แทนจาก ภ.จว.สระแก้ว เดินทางมาเข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยแขวงทางหลวง จ.ฉะเชิงเทรา แขวงทางหลวง จ.ปราจีนบุรี ปภ.ฉะเชิงเทรา ปภ.ปราจีนบุรี ขนส่ง จ.ฉะเชิงเทรา ขนส่ง จ.ปราจีนบุรี และหน่วยงานในท้องถิ่น
ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ ได้กำชับในที่ประชุมว่าให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกท้องที่ตามเส้นทางทั้ง 3 จังหวัด เพิ่มกำลังในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางในเวลากลางคืนให้แก่ประชาชนในทุกท้องที่ และปรากฏกายให้เห็นอย่างเด่นชัด โดยใช้เครื่องสะท้อนแสงกระบองไฟในการช่วยเร่งการระบายรถในเส้นทาง และให้เร่งเคลียร์รถเสีย และอุบัติเหตุออกจากเส้นทางให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการจราจร หรือมีรถสะสมของรถในเส้นทาง
อีกทั้งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา กำลังมีการก่อสร้างปรับปรุงถนนขยายเส้นทาง จึงทำให้การสัญจรในเส้นทางถูกบีบให้คับแคบลง และมีหางแถวยาวในแต่ละจุด โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และ สภ.เขาหินซ้อน ซึ่งเป็นทางเชื่อมสำคัญที่ประชาชนเข้ามาใช้เป็นเส้นทางในการเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาไปตามถนนสาย 331 ถนนสาย 304 มุ่งหน้าเขาปักธงชัย และเขาช่องตะโกใน จ.สระแก้ว มุ่งหน้าไปยัง จ.บุรีรัมย์
หลังการประชุม พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ ยังได้กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า จากการประเมินเมื่อครั้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ยังพบว่าจุดที่มีการบีบการจราจรซึ่งมีลักษณะเป็นคอขวดแห้งนี้ยังคงเป็นปัญหา จึงเกิดความห่วงใยและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมปฏิบัติกับทางแขวงการทาง โดยได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และ สภ.ท้องที่ช่วยกันดูแล เพื่อให้การจราจรติดขัดน้อยที่สุด เนื่องจากมีการบีบการจราจรจาก 5 ช่องทางเหลือเพียง 2 ช่องทางการจราจรทั้งขาไปและขากลับ
จึงอยากจะฝากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง โดยต้องมีชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อแก้ไขปัญหา เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียในเส้นทางให้สามารถที่จะแก้ไขให้ออกนอกเส้นทางให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีรถสะสมในเส้นทาง ซึ่งถือเป็นข้อบังคับที่เน้นย้ำไปโดยเฉพาะในเวลากลางคืนนั้นต้องระมัดระวัง เนื่องจากมีแสงสว่างน้อย การแต่งกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีเสื้อสะท้อนแสง กระบองไฟให้ชัดเจน และมีไฟฉายในการทำงานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
โดยจุดที่น่าเป็นกังวลที่สุด คือ ด้านฝั่งขาออกของถนน สาย 331 มุ่งหน้าเข้ามาเชื่อมกับถนนสาย 304 ในเขตพื้นที่ สภ.เขาหินซ้อน เนื่องจากโดยเมื่อช่วงการเดินทางระลอกแรก ในวันที่ 25 ธ.ค.64 ที่ผ่านมานั้น มีรถสะสมในเส้นทางท้ายแถวยาวมากถึง 3 กม. ซึ่งในคืนนี้จึงได้พยายามที่จะเร่งระบายตรงบริเวณจุดรอยต่อแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดติดขัดซ้ำซากบนถนนสาย 304 ให้ผ่านไปได้เร็วขึ้น พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กล่าว
