ฉะเชิงเทรา – รถพ่วง พุ่งประสานงากระบะ รับอรุณหนุ่มบริษัทเครื่องดื่มชื่อดังติดภายในสาหัส เบื้องต้นเชื่อขับรถเร็วจนหลุดจากโค้งก่อนพุ่งชน ด้านพนักงานสอบสวนยังไม่ฟันธงใครประมาท หลังพบร่องรอยจากการพุ่งชนอยู่ทางด้านฝั่งช่องทางเดินรถบรรทุก แต่ตัวรถกลับเหวี่ยงออกมาจอดประสานงาอัดติดกันอยู่ในเลนด้านฝั่งของรถยนต์กระบะ
วันที่ 22 พ.ย.61 เวลา 05.30 น. พ.ต.ท.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง รอง ผกก.สอบสวน สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนประสานงากับรถพ่วงบรรทุกดิน 22 ล้อ บนถนนทางหลวงชนบทสาย 3304 เส้นทาง แปลงยาว-แหลมประดู่-บ้านโพธิ์ พื้นที่ ม.2 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ภายในซากรถจำนวน 1 ราย จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่ลึกเข้ามาจากบริเวณทางสามแยกเชื่อมถนนสาย 331 ฉะเชิงเทรา-สัตหีบ ประมาณ 2 กม. บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 105 ม.2 ต.วังเย็น พบรถยนต์ทั้งสองคันพุ่งชนประสานงากันอย่างเต็มแรงจนตัวรถยนต์กระบะแบบแคป ยี่ห้ออีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน ฒฌ-5107 กรุงเทพฯ ด้านฝั่งทางซ้ายยุบเข้าไปอยู่ที่ใต้ท้องด้านหน้าของรถยนต์บรรทุกพ่วง หมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-8488 นนทบุรี หมายเลขทะเบียนหางพ่วง 83-1776 ฉะเชิงเทรา ถึงเกือบครึ่งคัน
ที่บริเวณด้านขวาของตัวรถยนต์กระบะพบผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในบนเบาะที่นั่งคนขับ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายปัณณพัฒน์ กัลยาณวณิชย์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/27 ม.8 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งแขวนบัตรประจำตัวเป็นพนักงานของบริษัทผลิตเครื่องดื่มชื่อดังยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง กำลังได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม และกู้ภัยฯ สว่างเหตุ ใช้เครื่องมือตัดถ่างเพื่อนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากซากรถ
ก่อนที่รถของทีมหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน รพ.แปลงยาว จะเดินทางเข้ามารับตัวนำส่งไปยัง รพ.แปลงยาว ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วง คือ นายสมบัติ ทองดี อายุ 43 ปี ชาว ต.ลาดขวาง อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
พ.ต.ท.เสน่ห์ กล่าวว่า หลังตรวจที่เกิดเหตุพบร่องรอยของการพุ่งชนอยู่บนเลนด้านซ้ายฝั่งมาจากทางแปลงยาวมุ่งหน้า อ.บ้านโพธิ์ ซึ่งเป็นเส้นทางด้านฝั่งของรถบรรทุกพ่วงที่กำลังขับมาโดยมีรอยเบรกครูดอยู่บนพื้นถนน แต่หลังจากการพุ่งชนแล้วตัวรถทั้งสองคันได้เหวี่ยงออกไปตกอยู่ที่บริเวณริมถนนทางเลนด้านขวา ซึ่งเป็นช่องทางที่ฝ่ายของรถกระบะขับสวนมา จึงยังต้องรอทำการสอบสวนผู้ขับขี่ทั้งสองฝ่ายก่อนว่าใครขับรถมาอย่างไร
ซึ่งทางฝ่ายของคนขับรถบรรทุกพ่วงอ้างว่า ทางฝ่ายของรถยนต์กระบะนั้นแหกโค้งเข้ามาในช่องทางของตน ซึ่งเป็นทางโค้งอยู่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุไปประมาณ 50 เมตร โดยตนเองได้พยายามที่จะหักหลบแล้วแต่ไม่พ้น สำหรับสาเหตุนั้นน่าจะเกิดจากความประมาทและขับรถเร็ว จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนกันขึ้น พ.ต.ท.เสน่ห์ กล่าว
