ฉะเชิงเทรา – ไม่สิ้นคนดีในสังคม ลอตเตอรี่ 78 ใบปลิวหาย หนุ่มใหญ่พร้อมภรรยาเก็บส่งคืนเจ้าของพร้อมเงินสด 3.7 หมื่นบาท เผย “รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้เป็นเจ้าของ หากเป็นของเราเองทำหล่นหายก็คงเดือดร้อนและรู้สึกเสียดาย” ขณะ จนท.ต่างพากันชื่นชม ด้านฝ่ายเจ้าของหลังเดินทางเข้ามารับคืนสุดดีใจ ก่อนมอบสลากชุด 5 ใบไว้ให้เป็นการตอบแทนในความมีน้ำใจ ที่พลเมืองดีเก็บมาส่งคืน
วันที่ 1 ก.พ.65 เวลา 11.30 น. พ.ต.ต.ประเสริฐ เดชสุภา สารวัตรเวรสอบสวน สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรประจำตู้ควบคุมสัญญาณไฟสามแยกหัวเนิน ถนน 314 ว่า ได้มีพลเมืองดี คือ นายนพพร กุสุมายุทธ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.2 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เก็บกระเป๋าสะพายได้ 1 ใบ ภายในมีลอตเตอรี่จำนวนมากถึง 78 ใบ และยังมีเงินสดอีกจำนวนมากถึง 37,825 บาท
ทั้งยังมีเอกสารส่วนตัว เช่น ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อ พาสปอร์ต สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ระบุชื่อ นายชัยกร สุวรรณสน อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204 ม.7 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ให้ผู้ที่เก็บทรัพย์สินได้ นำมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ยังที่ สภ.แสนภูดาษ เพื่อติดตามหาเจ้าของต่อไป
จากการสอบถาม นายนพพร เล่าว่า ตนเองมีอาชีพเป็นพนักงานขับรถบัสรับส่งพนักงานตามโรงงานอุตสาหกรรม ของบริษัทเดินรถแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากเมื่อช่วงเช้ามืดได้ไปขับรถรับส่งพนักงานเข้าโรงงานเสร็จแล้ว จึงได้กลับมายังบ้านพักในหมู่บ้านการเคหะลาดขวาง และได้นำรถจักรยานยนต์ไปต่อทะเบียน ยังที่สำนักงานขนส่ง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกับภรรยา คือ นางปาลิกา กุสุมายุทธ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/92 ม.3 ต.ลาดขวาง อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
หลังต่อทะเบียนรถเสร็จแล้ว ขณะกำลังขับรถเดินทางมุ่งหน้ากลับมายังที่บ้านพักในหมู่บ้านการเคหะฯ ช่วงระหว่างทางเลยจากทางสามแยกนาคูมาประมาณ 1 กม. ก่อนถึงหน้าปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ ได้พบเห็นกระเป๋าสะพายใบสีน้ำตาลตกอยู่ที่ข้างถนน ซึ่งดูจากสภาพของกระเป๋าแล้วยังมีสภาพดีอยู่ จึงคาดว่าไม่น่าจะเป็นของที่ถูกนำมาทิ้ง จากนั้นจึงได้กลับรถเพื่อวนกลับมาดู โดยทางฝ่ายของภรรยาได้ลงจากรถไปเก็บขึ้นมา
ก่อนที่จะนำมาเปิดดูยังภายในปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ จนพบว่ามีลอตเตอรี่พร้อมด้วยเงินสดเป็นจำนวนมากแต่ไม่ทราบจำนวน เนื่องจากไม่กล้าที่จะเปิดรื้อค้นทรัพย์สินของผู้อื่นโดยลำพัง จากนั้นจึงได้ตัดสินใจนำกระเป๋าใบดังกล่าวมาแจ้งต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังที่ป้อมตำรวจจราจรบริเวณทางสามแยกหัวเนิน และนำมาลงบันทึกประจำวันดังกล่าว โดยที่ นายนพพร ระบุว่า “รู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อผู้ที่เป็นเจ้าของ หากเป็นของเราเองทำหล่นหาย ก็คงเดือดร้อนมากและรู้สึกเสียดาย” จึงอยากนำส่งคืนเจ้าของ นายนพพร กล่าว
โดยเฉพาะหากเป็นผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล และเขาขายหมดไม่ทันเวลาก็คงต้องเดือดร้อนมาก และอาจต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามาลงทุนอีกก็ยิ่งต้องเดือดร้อนกันไปใหญ่ และมันก็ไม่ใช่ของเรา เราก็มีอาชีพของเรา ถามว่าส่วนตัวมีเงินไหมก็ต้องบอกว่ามีไม่พอใช้อยู่เหมือนกันจากสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ก็คิดว่าไม่ควรที่จะไปเบียดเบียนคนอื่นเขา เพราะของๆใคร ใครก็รัก จึงต้องเห็นใจต่อผู้เป็นเจ้าของกระเป๋าเขามากกว่า
ขณะที่ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม ผกก. สภ.แสนภูดาษ กล่าวว่า ภายในกระเป๋า มีลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 1 ก.พ.65 จำนวนทั้งสิ้น 78 ใบ เป็นแบบรวมชุด 5 ใบ 13 ชุด แบบรวม 2 ใบ 10 ใบ และใบเดี่ยว 3 ใบ มีธนบัตรชนิด 1 พันบาทจำนวน 23 ฉบับรวมเป็นเงิน 23,000 บาท ชนิด 500 บาทจำนวน 10 ฉบับเป็นเงิน 5,000 บาท ชนิด 100 บาทจำนวน 80 ฉบับเป็นเงิน 8,000 บาท ชนิด 50 บาทจำนวน 11 ฉบับเป็นเงิน 550 บาท ชนิด 20 บาทจำนวน 65 ฉบับเป็นเงิน 1,260 บาท และเศษเงินเหรียญอีกจำนวน 15 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 37,825 บาท
พร้อมได้กล่าวชื่นชมต่อผู้เป็นพลเมืองดีและภรรยาว่า ขอบคุณที่เป็นตัวแทนของคนทำความดี ที่ไม่อยากได้ทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง และขอบคุณที่ตั้งใจในการทำความดี ที่ปัจจุบันในสังคมนั้นกำลังหายาก ที่จะมองเห็นถึงความเดือดร้อนของผู้อื่นหรือเจ้าของทรัพย์สิน พ.ต.อ.จิรวัฒน์ กล่าว
จากนั้นในเวลา 12.30 น. ได้มี นายชัยกร สุวรรณสน อายุ 52 ปี ปัจจุบันพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 70/255 ม.3 ต.ลาดขวาง ผู้เป็นเจ้าของกระเป๋าได้เดินทางมารับคืนต่อหน้า พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม ผกก. สภ.แสนภูดาษ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนายร่วมเป็นสักขีพยาน ด้วยความดีใจ พร้อมเปิดเผยว่าหากไม่มีพลเมืองดีเก็บกระเป๋ามาส่งคืน ต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
เนื่องจากลอตเตอรี่ทั้งหมดนี้ได้ไปรับต่อจากผู้เป็นพี่สาวมาขายหารายได้เลี้ยงครอบครัว โดยที่ตนไม่ได้มีเงินลงทุนรับมาเอง เมื่อขายได้จะต้องนำเงินไปคืนให้แก่ทางพี่สาว เหลือเพียงส่วนแบ่งบางส่วนเพื่อนำมาเลี้ยงครอบครัวเท่านั้น ซึ่งตนกำลังมีบุตรสาวฝาแฝดที่ยังตัวเล็กๆ และกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.4 ที่ต้องเลี้ยงดูอยู่จำนวน 2 คน จึงขอขอบคุณในความดีและมีน้ำใจของผู้ที่เก็บได้ พร้อมกับได้มอบสลากแบบชุด 5 ใบไว้ให้แก่ 2 สามีภรรยาเป็นการตอบแทนความดีเพียงเล็กๆ น้อยๆ
