ฉะเชิงเทรา – น้ำท่วมทุ่ง หลังฝนตกถล่มหนักในพื้นที่แปดริ้วต่อเนื่องมานานถึงเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ ทำชาวบ้านดีใจเชื่อในปีนี้ไม่มีภัยแล้ง ขณะชาวนาเร่งลงมือไถดะพลิกผืนดินกลบตอซังและวัชพืช เพื่อเตรียมดินไว้รอการลงมือหว่านไถแปรตามฤดูกาลในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
วันที่ 19 ก.พ.65 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงระยะเวลาเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักทั้งที่เป็นช่วงกลางฤดูแล้ง ได้ทำให้มีน้ำท่วมขังในท้องทุ่งนา และเอ่อขึ้นสูงภายในลำคลองเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมือง อ.บางปะกง และ อ.บ้านโพธิ์ ที่ลำคลองเกือบทุกสายมีน้ำมากเกินกว่าระดับครึ่งหนึ่งของความลึกในลำคลอง
ขณะที่ชาวนาในพื้นที่ ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และ ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ต่างพากันเร่งไถดะ เพื่อปรับสภาพหน้าดินและกลบตอซังรวมทั้งวัชพืช เพื่อเป็นการเตรียมดินครั้งแรกของฤดูกาลทำนาข้าวนาปี โดยนายประหวัด ศรีพิบูลย์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.5 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เกษตรกรชาวนา ซึ่งทำนาปีละ 2 ครั้ง กล่าวว่า ในปีนี้ฝนตกมาเร็วและตกในพื้นที่ ต.บางเตย ต่อเนื่อง 2 วันที่ผ่านมา
จึงทำให้ดินชุ่ม ก่อนที่จะออกมาลงมือไถดะปรับสภาพหน้าดินเพื่อกลบวัชพืชและตอซัง เพื่อเตรียมการเพาะปลูก เอาไว้ลงมือทำนาตามฤดูกาลข้าวนาปีต่อไป ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะสามารถเริ่มลงมือทำนาได้เร็วขึ้นมากกว่าในปีก่อนๆ หรือสามารถลงมือทำนาได้ตรงตามฤดูกาลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เหมือนกับเมื่อสมัยอดีตได้ต่อไป
โดยตนทำนาข้าวได้ปีละ 2 ครั้ง คือ ข้าวนาปีที่จะลงมือไถหว่านได้ในช่วงเดือน เม.ย. และข้าวนาปรังที่เพิ่งเก็บเกี่ยวผลผลิตไปเมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค.64 ที่ผ่านมาบนเนื้อที่ดิน 13 ไร่ โดยในปีนี้ได้ข้าวมาเพียง 10 ตัน จากปกติหากนาข้าวอุดมสมบูรณ์ดีจะได้มากถึงกว่า 12-13 ตัน อีกทั้งราคาข้าวเมื่อช่วงปลายปียังถูกโดยขายได้เพียงตันละ 6 พันกว่าบาท จึงทำให้แทบไม่เหลือผลกำไรเลย เนื่องจากค่าปุ๋ยใส่นาข้าวแพงถึงกระสอบละ 1,200 บาท และยังได้เงินมาไม่พอใช้หนี้สินอีกด้วย นายประหวัด กล่าว
ขณะที่ นายสมชาย ประสมบุญ อายุ 63 ปี ชาวนาอีกราย ซึ่งกำลังลงมือไถดะอยู่ในพื้นที่ ม.5 ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ กล่าวว่า ตนทำนาอยู่บนพื้นที่จำนวน 27 ไร่ ขณะนี้กำลังออกมาไถดะเพื่อกลบตอซังเตรียมดินไว้ ยังไม่ได้มีการหว่านข้าวหรือลงมือเพาะปลูกทำนาแต่อย่างใด โดยจะเริ่มลงมือในช่วงเดือน เม.ย.65 หรืออีกประมาณกว่า 1 เดือนครึ่ง โดยการไถดะกลบซังข้าวและวัชพืชไว้ก่อนนั้น เป็นการประหยัดต้นทุนในการทำนา
เนื่องจากไม่ต้องเสียเงินไปซื้อยาฆ่าหญ้า ที่ขณะนี้มีราคาแพงมาก เพราะตนไม่มีเงิน และยังเป็นการเพิ่มอินทรีในดินตามธรรมชาติจากวัชพืชด้วย อีกทั้งยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของตนเองอีกด้วย จึงได้เลือกใช้วิธีการเตรียมดินด้วยวิธ๊การไถกลบตอซังเอาไว้ก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่าใช้ยาฆ่าหญ้า เพราะใช้ต้นทุนต่ำกว่า นายสมชาย กล่าว
