ฉะเชิงเทรา – ไม่ใช่หนอน แต่ชอบฉกหนังสือ หนุ่มใหญ่วัยดึกตระเวนเดินสายก่อเหตุตามร้านค้าดังภายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ จนเกือบทั่วทั้งประเทศสุดท้ายถูกตามรวบตัวมาได้แล้ว สารภาพทำมาแล้วจนนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนนำไปขายต่อในราคาต่ำกว่าครึ่ง โดยเฉพาะหนังสือแบบเรียน หนังสือพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และนวนิยาย พบมีหมายจับอื้อจากท้องที่ต่างๆ กระจายไปในหลายภูมิภาคของประเทศตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี
วันที่ 10 พ.ค.65 เวลา 15.15 น. พ.ต.อ.พิทูรย์ พัฒนชัย ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน ได้นำตัว นายขันติ แจ่มเพ็ง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ม.3 ต.ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหา “ลักทรัพย์ผู้อื่น” ตามหมายจับศาล จ.ฉะเชิงเทรา ที่ จ.85/2565 ลงวันที่ 21 ม.ค.2565 มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยังที่บริเวณด้านหน้า สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
โดย พ.ต.อ.พิทูรย์ ได้แถลงผลการจับกุมว่า จากการที่ พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก. ไต้สั่งการให้ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา สนธิกำลัง กับทางฝ่ายสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา นำโดย พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แก้วหมื่นไวย์ ผกก.สืบสวน นำกำลังติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์จากร้านค้าหนังสือ “บีทูเอส” ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสันฉะเชิงเทรา
หลังจากได้รับแจ้งจากทางร้านจำหน่ายหนังสือดังกล่าวว่า ถูกคนร้ายเข้ามาลักหนังสือ “อาณาจักรเครื่องรางของขลัง” ซึ่งมีมูลค่าเป็นเงินจำนวน 3,000 บาทหายไปจากร้าน เมื่อวันที่ 10 พ.ย.64 เวลา 10.00 น. หลังการสืบสวนเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายจนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ ผู้ต้องหารายนี้ จึงได้ประสานงานไปยังฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จนสามารถเข้าทำการจับกุมตัวได้ในที่สุด จากภายในห้างฯ เซนทรัลเชียงใหม่ ขณะกำลังจะเข้าไปก่อเหตุโจรกรรมหนังสือจากร้านบีทูเอส ภายในห้างดังกล่าวอีกครั้ง
หลังถูกจับกุมตัวได้ นายขันติ ได้ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาในชั้นของการจับกุมตัว และจากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับจากศาลในหลายท้องที่ จากสถานีตำรวจต่างๆ ที่ได้ยื่นขออนุมัติหมายจับไว้ในคดีลักษณะเดียวกันอีกจำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย สน.หัวหมาก สน.โชคชัย เขต กทม. สภ.เมืองพัทยา สภ.หัวหิน สภ.บางบัวทอง สภ.เมืองปราจีนบุรี สภ.เมืองฉะเชิงเทรา สภ.เมืองนครราชสีมา นับตั้งแต่เมื่อปี 2555 -2565
และมีคดีหนีการประกันตัวระหว่างรอคำสั่งศาลอีก 1 แห่ง ในท้องที่ สน.สามเสน กทม. มีคดีที่ยังไม่ได้ขออนุมัติหมายจับอีก 1 แห่ง ที่ สภ.เมืองมหาสารคาม และเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุมาแล้วจนนับครั้งไม่ถ้วน หลังจากได้ให้การต่อทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า เคยก่อเหตุมาหลายครั้งแล้วจนจำไม่ได้ และมักจะเดินสายก่อเหตุลักทรัพย์จากภายในร้านหนังสือดังกล่าวมาเป็นเวลานานหลายปี และเชื่อว่าอาจจะมีอีกหลายแห่งที่ยังไม่ทราบตัวคนร้าย ที่อาจเป็นผู้ก่อเหตุรายเดียวกันนี้
จากคำรับสารภาพผู้ต้องหายังได้ระบุว่า หนังสือที่มักจะก่อเหตุ หรือ นิยมเข้าไปโจรกรรมบ่อยครั้งมากที่สุด คือ หนังสือแบบเรียนต่างๆ ของนักเรียน เพื่อนำไปขายต่อให้แก่นักเรียนในราคาที่ถูกกว่า และต่อมาในระยะหลัง หนังสือแบบเรียนไม่ได้รับความนิยมใช้แล้ว เนื่องจากมีการใช้ระบบอินเตอร์เน็ตและระบบออนไลน์แทน จึงได้หันมาโจรกรรมหนังสือที่เกี่ยวกับพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และนวนิยาย ซึ่งเป็นหนังสือที่ขายดี และได้รับความนิยม ทั้งยังขายได้ในราคาแพงกว่าหนังสือเรียนด้วย
โดยจะนำไปขายเป็นหนังสือเก่าในราคาที่ต่ำกว่าราคาจริงหน้าปกเป็นอย่างมาก เช่น หนังสือเครื่องรางของขลังที่โจรกรรมไปจาก ร้านบีทูเอส ในห้างฯ จ.ฉะเชิงเทรา มีราคาหน้าปกวางจำหน่ายอยู่ที่ 3,000 บาท ได้นำไปจำหน่ายต่อให้แก่ผู้ซื้อในราคา 500 บาท เท่านั้น หลังจากการแถลงข่าว ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ผู้อื่น” เพื่อนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: