ฉะเชิงเทรา – องคมนตรี ส่งหรีดวางหน้าหีบศพ ร่วมไว้อาลัยเหยื่อช้างป่ารายล่าสุด ขณะฝ่ายปกครองรุดดูที่เกิดเหตุและรอยรั่วตามแนวของคูกันช้าง เผยที่ผ่านมาเริ่มบูรณาการในการหาแนวทางป้องกันและเฝ้าระวังช้างออกนอกผืนป่า 5 จังหวัดแล้ว ชี้ช้างตัวก่อเหตุพฤติกรรมเปลี่ยนชอบเดินเข้าชุมชนหมู่บ้าน
วันที่ 19 พ.ค.65 เวลา 13.30 น. นายปรัชญา พิมพาเเป้น นายอำเภอสนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้เป็นผู้แทน พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี และรองประธานมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการนำพวงหรีดไปร่วมวางหน้าหีบศพ ของนางยุพิน งาสีแดง อายุ 53 ปี ที่บ้านเลขที่ 1255 ม.15 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต ชาวบ้านผู้เสียชีวิตจากการถูกช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ทำร้ายจนเสียชีวิตภายในไร่มันสำปะหลัง และสวนยูคาลิปตัส เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.65)
ข่าวน่าสนใจ:
เพื่อแสดงความอาลัยต่อชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จากการถูกช้างออกมาจากผืนป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว) เข้ามาทำร้ายจนเสียชีวิต จากนั้นได้เดินทางต่อไปดูยังในจุดเกิดเหตุ หลังได้มีการพบร่างของผู้เสียชีวิตจากถูกช้างป่าทำร้ายภายในไร่ของตนเองในพื้นที่ ม.19 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะเดินทางเข้าไปดูยังที่บริเวณคูกันช้างและแนวรั้วเสาไฟฟ้าเก่า ที่ถูกนำมาปักไว้ใช้สำหรับทำรั้วแนวกั้น ในการแบ่งแนวเขตป่าและพื้นที่ไร่นาตลอดจนชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน เพื่อหาดูร่องรอยว่าช้างยังคงใช้ช่องโหว่ที่จุดใด ในการเดินทางเข้าออกจากผืนป่า
ขณะเดียวกัน นายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน กล่าวถึงแนวทางในการป้องกันช้างป่าเข้ามาทำร้ายคนในพื้นที่ว่า ที่ผ่านมาได้ร่วมบูรณาการกันกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ฯ และผู้นำท้องถิ่น ในการเฝ้าระวังช้างป่า โดยได้เริ่มโครงการฝึกอบรม อปพร. มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 2-6 พ.ค.65 ที่ผ่านมา เพื่อที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของช้างป่า วิธีการเฝ้าระวัง และแนวทางการปฏิบัติให้ถูกต้องเป็นแนวทางเดียวกัน
โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ค.65 ที่ผ่านมา พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี และรองประธานมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบนโยบายอาสาสมัครและภาคีเครือข่าย “รวมพลังรวมใจนำช้างป่ากลับคืนอ้อมกอดผืนป่าเขาอ่างฤาไน” และปล่อยแถวกำลังอาสาสมัครยังที่หน้า อบต.ท่ากระดาน ส่วนการดำเนินการนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ อปพร. ต.ท่ากระดาน ร่วมกับ จนท.กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หรือที่เรียกว่า “เจ้าหน้าที่อนุรักษ์” มาร่วมกันทำงานเชิงลุก
ด้วยการนำเจ้าหน้าที่และผู้ได้รับการอบรมไปคอยเฝ้าระวังในพื้นที่ป่า และแนวเขตคูกันช้าง รวมถึงการนำเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการด้านยุทธศาสตร์รอง โดยไปเฝ้าระวังตามแนวถนนสายบ้านนายาว-คลองเตย โดยที่ผ่านมาได้มีการเฝ้าระวังกันอย่างเข้มข้นแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแบ่งกำลังทำหน้าที่ให้ทำหน้าที่นำช้างป่าที่หลงเหลืออยู่กลับเข้าป่า โดยที่ผ่านมานั้นพบว่ามีช้างออกจากป่าเข้ามาในชุมชนและไร่สวนของชาวบ้านเป็นจำนวนมาก
ซึ่งล่าสุดในวันเกิดเหตุนั้นพบว่ามีช้างออกจากป่ามามากถึง 66 ตัวแต่ไม่เกิน 80 ตัว ตามข้อมูลเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญด้านช้างป่าในพื้นที่ โดยช้างตัวที่ทำร้าย นางยุพิน จนเสียชีวิตนั้นน่าจะเป็นช้างประจำถิ่นที่ยังไม่ยอมกลับเข้าไปยังภายในเขตคูกั้นช้าง และน่าจะมาพบเจอเข้ากับโขลงช้างป่าขนาดใหญ่ ที่นำโดยสีดอโหนก ซึ่งเป็นกลุ่มที่เดินอยู่ในบริเวณเขตรอยต่อระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี จึงได้ตกใจกลัวโขลงช้างกลุ่มใหญ่นั้น
เนื่องจากพฤติกรรมของช้างตัวที่ก่อเหตุนั้น ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก จากปกติที่มักจะพบเดินอยู่ในป่า แต่ในวันเกิดเหตุนั้นได้เดินเข้าไปในชุมชนที่ใจกลางของหมู่บ้านเลย โดยมีกล้องวงจรปิดได้จับภาพเอาไว้ได้ในช่วงเวลา 06.21 น. จากนั้นไม่นานผู้เสียชีวิตจึงได้เดินทางเข้ามายังภายในไร่ของตน ช่วงเวลาประมาณ 07.00-08.00 น. แต่ทางญาติกว่าจะรู้ว่าถูกช้างทำร้าย เมื่อได้เข้ามาติดตามหาตัวยังภายในไร่นั้นเป็นเวลาช่วงค่ำแล้ว
หลังจากเกิดเหตุการณ์ ในวันนี้ได้ร่วมประชุมเพื่อทำงานเชิงรุกเพิ่มมากขึ้น เช่น การประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิ์ภาพให้มากขึ้น โดยเมื่อพบช้างป่าเดินผ่านเข้ามา จะได้ให้ทาง อบต.ใช้รถเคลื่อนที่เร็วในการแจ้งข่าวสารไปยังประชาชนให้ทราบในทันที และดำเนินการประสานผู้นำชุมชนที่มีระบบเสียงตามสายในทุกหมู่บ้านให้ประกาศเตือนผ่านทางเสียงตามสายเพื่อให้ประชาชนได้ทราบและระมัดระวังช้างป่าที่เข้ามายังในพื้นที่
นับศพไม่ถ้วน จนท.เฝ้าระวังช้าง ถูกช้างเขาอ่างฤาไนทำร้ายดับ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: