ฉะเชิงเทรา – คนบางปะกง ยังใช้ชีวิตร่วมชุมชนเดียวกันกับฝูงลิงแสม ที่เข้ามาอาศัยอยู่ตามป่าชายเลนมาอย่างยาวนานภายในหมู่บ้านร่วมกับคนตามปกติ ไม่หวั่นโรคฝีดาษลิงที่จ่อเตรียมทะลุผ่านเข้าประเทศจากทางสนามบิน ขณะสภาพพื้นที่เป็นถิ่นฐานเก่าดั้งเดิมของฝูงลิงหลายแห่ง ที่กำลังถูกมนุษย์เบียดเบียนสร้างโรงงาน ที่อยู่อาศัย และนากุ้ง อย่างหนัก จนแทบไม่เหลือพื้นที่ให้ลิงได้อยู่อาศัยอีกต่อไป
วันที่ 31 พ.ค.65 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบริเวณที่มีฝูงลิงแสมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และยังมีหลากหลายฝูง ทั้งด้านฝั่งตะวันตกของลำน้ำ และฝั่งตะวันออกติดกับพื้นที่ ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี ด้วยนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฝูงลิงในหมู่บ้าน ที่เข้ามาอาศัยอยู่ตามป่าแสม และยังมีการแยกแบ่งกันอยู่เป็นฝูง ท่ามกลางกระแสของการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานร
ข่าวน่าสนใจ:
ที่กำลังเริ่มมีความวิตกกังวลกันไปทั่วโลก โดยล่าสุดพบมีผู้ป่วยแล้วเป็นจำนวนมากถึง 494 รายใน 32 ประเทศ ทั้งยังมีการรายงานข่าวผ่านสื่อเกี่ยวกับเรื่องของผู้ติดเชื้อฝีดาษวานร ที่เดินทางผ่านมาต่อเครื่องบินยังภายในประเทศไทย เพื่อมุ่งหน้าไปยังออสเตรเลียด้วยนั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ได้มีความวิตกวังวน หรือมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางด้านความเป็นอยู่แต่อย่างใด
เช่น ที่บริเวณเส้นทางการสัญจรบนถนนภายในชุมชนตำบลท่าข้าม พื้นที่ ม.1 ม.2 และ ม.3 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่มักจะมีฝูงลิงแสมลงมานั่งเล่น เพื่อผึ่งแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า และในเวลาเย็น รวมทั้งยังมารอคอยอาหารจากผู้คน ที่สัญจรผ่านเข้ามาตามท้องถนนนั้น ยังคงมีชาวบ้านขับรถผ่านเฉียดฝูงลิงที่ห้อยโหน และนั่งรออยู่ตามรายทางตามปกติ และยังขับรถผ่านจุดที่ลิงนั่งอยู่ในระยะใกล้เพียงแค่ 1-2 เมตรเท่านั้น
สอบถามจาก นางคำพอง เหลืองงาม อายุ 47 ปี ชาว ต.ตาลสุม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ซึ่งมาทำงานเป็นสาวโรงงานอยู่ในพื้นที่ มาอย่างยาวนานถึงกว่า 20 ปีแล้ว กล่าวว่า ตนเองนั้นพักอาศัยอยู่ภายในห้องเช่าในพื้นที่ ม.3 ต.ท่าข้าม แต่ต้องขับรถผ่านตรงบริเวณถนนที่มีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากถึงประมาณ 200 ตัว ในพื้นที่หมู่ที่ 2 อยู่เป็นประจำ โดยที่ไม่ได้รู้สึกวิตกวังวลหรือกลัวอะไรกับโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในต่างประเทศมากนัก และมีเพื่อนร่วมงานได้มีการพูดถึงอยู่บ้างเท่านั้น
และยังไม่พบว่าลิงในบริเวณนี้ จะมีอาการเจ็บป่วยหรือมีความผิดปกติแต่อย่างใด โดยยังเห็นว่ามีความแข็งแรงสมบูรณ์ดีทุกตัว แต่จะเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้าง เช่น ถูกรถทับตายไปบางส่วนเท่านั้น ขณะเดียวกันลิงแสมที่นี่ยังเป็นลิงที่ไม่ดุร้าย ไม่ทำร้ายคน และไม่ลักขโมยหรือซุกซนมากนัก เพียงแต่จะมานั่งรอคอยอาหาร ที่ในบางครั้งจะมีคนใจดีนำผลไม้ที่เหลือขายมาเทกองไว้ให้กินบ้างเท่านั้น นางคำพอง กล่าว
ขณะที่ นายปรีชา สุวรรณ์ อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.1 ต.ท่าข้าม กล่าวว่า จากกระแสข่าวโรคฝีดาษลิงที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ยังไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไร เพราะยังคิดว่าการระบาดยังอยู่ไกลตัวอยู่มากนัก และชาวบ้านไม่ได้เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับลิงแสมโดยตรง เพียงแต่จะขับรถผ่านไป ผ่านมาเท่านั้น แต่ก็ยังมีลิงที่แยกฝูงมาอยู่อาศัยใกล้ๆ กับคน เช่น บริเวณป่าแสมแถวหลังบ้านของตนประมาณ 5-6 ตัว แต่ยังไม่พบว่ามีอาการป่วย
สำหรับพื้นที่ในบริเวณนี้เดิมนั้น มีลิงแสมมาอาศัยอยู่ตามธรรมชาติในป่าชายเลนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยลิงเหล่านี้จะจับปูแสม ปูเปี้ยวกินเป็นอาหารในช่วงเวลาขณะน้ำลงตามป่าชายเลน ซึ่งเดิมนั้นเคยมีเป็นจำนวนมากทางด้านฝั่งพื้นที่ ม.14 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จากทางแถบย่านโรงเหล็ก ไปจนถึงบ้านแสมขาวใน ต.สองคลอง อ.บางปะกง และในแถบย่าน ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน
แต่มาถึงขณะนี้ฝูงลิงได้ลดจำนวนน้อยลงไปมากแล้ว เนื่องจากมีการก่อตั้งโรงงาน และบ้านเรือนอยู่อาศัย รวมถึงการถางป่าทำนากุ้งในพื้นที่ตามแนวป่าชายเลนด้วย จึงทำให้ลิงไม่มีที่อยู่ และไม่ทราบว่าลิงที่เคยอยู่อาศัยทางฝั่งย่านโรงเหล็ก และมีอยู่เป็นจำนวนมากนั้น ได้ย้ายไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว และยังมีจำนวนมากเหมือนเดิมหรือไม่ เนื่องจากตนเองไม่ได้ข้ามฝั่งแม่น้ำบางปะกงไปยังย่านนั้นนานแล้ว นายปรีชา กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: