X
ตรวจที่เกิดเหตุ

พูดไม่เข้าหู ทำอดีตนายก อบต.เลือดร้อน เหนี่ยวไกใส่พวกก๊วนเดียวกันเจ็บ

ฉะเชิงเทรา – พูดไม่เข้าหู ทำอดีตนายก อบต.เลือดร้อน เหนี่ยวไกใส่พรรคพวกเดียวกัน ที่เคยอยู่ร่วมก๊วนการเมืองกันมายาวนานนับแต่ในอดีตจนเลือดอาบร่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะมือลั่นไกปืนได้รับบาดเจ็บด้วยที่ศีรษะมีบาดแผลรอยกระสุนถากทำชาวบ้านตื่นตกใจ ระบุชุมชนอยู่อย่างสงบสุขมานานกว่า 70 ปีไม่เคยมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เก็บหลักฐานรอการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ลานจอดรถหน้าสุสาน

วันที่ 10 มิ.ย.65 เวลา 09.15 น. พ.ต.ท.ประเสริฐ เดชสุภา สารวัตรเวรสอบสวน สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณลานจอดรถริมถนนด้านหน้าสุสานบ้านเกาะไร่ ซึ่งอยู่ห่างจากด้านหลัง อบต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ ไปเพียงประมาณ 80 เมตร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม ผกก. สภ.แสนภูดาษ และกำลังฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บถูกช่วยเหลือนำส่งไปยัง รพ.พุทธโสธร และ รพ.เกษมราษฎร์ฉะเชิงเทรา แล้ว จำนวน 2 ราย ทราบชื่อต่อมารายแรก คือ นายสมหวัง ยิ้มวิลัย อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/4 ม.5 ต.เกาะไร่ มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณเหนือหน้าอกซ้าย 1 นัด และมีรอยกระสุนถากที่หัวไหล่ขวาอีก 1 นัด และนายสมเดช หร่ายมะณี อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.4 ต. เกาะไร่ ถูกกระสุนปืนถากที่ศีรษะเหนือคิ้วด้านขวา 1 แผล

ยิงหน้าสุสานอิสลาม

สอบถาม นางซาลาม็อก (สงวนนามสกุล) อายุ 78 ปี ชาวบ้านในบริเวณที่เกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 4 นัด ที่บริเวณด้านหน้าสุสานเกาะไร่ แต่ไม่ได้ออกมาดู แต่เมื่อเดินมายังที่ร้านค้าหน้าสุสาน จึงพบว่ามีเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้น โดยที่ผู้ที่ถูกยิงนั้นเคยเป็นอดีตสมาชิก อบต.เกาะไร่ เมื่อสมัยที่ผ่านมา แต่มาในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนั้นไม่ได้ลงสมัคร จึงได้มาช่วยฝ่ายภรรยาขายของอยู่ที่แผงค้าน้ำด้านหน้าสุสานแห่งนี้

ส่วนอีกรายเป็นอดีตนายก อบต.เกาะไร่ เมื่อสมัยก่อนหน้า และยังได้มาเป็นรองนายก อบต.เกาะไร่ ในสมัยปัจจุบันอีกด้วย แต่ไม่ทราบสาเหตุกว่าเกิดอะไรขึ้นจนถึงขั้นต้องใช้อาวุธปินยิงกัน จึงทำให้ตนเองและชาวบ้านตกใจมาก เนื่องจากชุมชนแห่งนี้อยู่ร่วมกันมาด้วยความสงบสุขมาโดยตลอดกว่า 70 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ตนเกิดมาในหมู่บ้านแห่งนี้ ยังไม่เคยมีเรื่องร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นมาก่อนเลย นางซาลาม็อก กล่าว

ลงมายิงขณะนั่งในรถ

ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ ยะโกบี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.4 ต.เกาะไร่ ซึ่งเป็นกำนันตำบลเกาะไร่กล่าวว่า ปกติทั้งสองคนนี้เป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมาก เคยไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และยังเป็นทีมผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสนามการเมืองท้องถิ่นทีมเดียวกันมาก่อนอีกด้วย จึงไม่ทราบว่ามีอะไรที่เป็นสาเหตุจนถึงขั้นต้องใช้อาวุธปืนยิงกันเองในครั้งนี้ด้วย

แต่ทราบจากชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ว่า ทั้งคู่ขับรถยนต์กระบะแบบ 4 ประตูคนละคัน มาจอดคู่กัน โดยที่ทางฝ่ายของ นายสมหวัง กำลังจะขับรถออกไปทำธุระ ส่วนนายสมเดช ได้ขับรถเข้ามาจอดที่ด้านข้าง จากนั้นได้เดินลงมาจากรถ และเดินไปหานายสมหวัง ที่นั่งอยู่บนรถด้านฝั่งคนขับ จากนั้นไม่ทราบว่าได้มีการพูดคุยอะไรกัน แต่ใช้เวลาไม่นาน ก่อนที่นายสมเดช จะใช้อาวุธปืนขนาด .38 ที่นำติดตัวมายิ่งใส่นายสมหวัง ที่ยังนั่งอยู่ภายในรถจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว นายสุรเชษฐ์ กล่าว

สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์

ด้าน พ.ต.อ.จิรวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า มูลเหตุการใช้อาวุธปืนยิงกันในครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว หลังจากที่มีการเลือกตั้งนายกฯ แสะสมาชิกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่ผ่านมา จึงกลายมาเป็นปัญหาคาใจระหว่างกัน แต่ยังไม่ได้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อนที่จะเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยังกันในครั้งนี้ ซึ่งต้องรอการสอบสวนหาสาเหตุต่อไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์

ขณะเดียวกันได้เตรียมที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับนายสมเดช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หลังจากทราบว่าแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว โดยในที่เกิดเหตุนั้นได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืน ที่อดีตนายกฯ ใช้ในการก่อเหตุ คือ อาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 นัด รวมถึงปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 4 ปลอก ที่ยังคาอยู่ในลูกโม่ พร้อมกันนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ฉะเชิงเทรา มาทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไว้แล้ว พ.ต.อ.จิรวัฒน์ กล่าว

ยิงกันหลัง อบต.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน