ฉะเชิงเทรา – ชาวบ้านสะเทือน โกดังต่างชาติเร่งตอกเสาเข็มถี่ยิบ 387 ต้น ทำตึกข้างเคียงสะเทือนพื้นทรุดผนังแตกร้าวทั่วทั้งชุมชนปากทางเข้าวัดทดแปดริ้ว วอนหน่วยงานรับผิดชอบเร่งเข้าตรวจสอบหาทางแก้ไขคลายความทุกข์ช่วยเหลือประชาชน เผยกระทบทั้งอาคารที่อยู่อาศัยแตกชำรุดยังไม่พอ ยังลามถึงความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันด้วย หลังร้อง อปท.ในพื้นที่แล้วหลายครั้ง อ้างไม่มีอำนาจสั่งผู้ประกอบการให้หยุดกระทำการได้ เกรงนายทุนจะเสียหาย
วันที่ 23 มิ.ย.65 เวลา 14.30 น. ชาวบ้านบริเวณชุมชนหน้าปากทางเข้าวัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ ริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ได้ร้องขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแลและสั่งการให้ทางบริษัทแห่งหนึ่งสัญชาติไต้หวัน หยุดดำเนินการตอกเสาเข็ม เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงผ่านทางสื่อมวลชนว่า
ข่าวน่าสนใจ:
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 เป็นต้นมาได้มีบริษัทเอกชนรายนี้ เข้ามาทำการปรับพื้นที่และตอกเสาเข็มก่อสร้างโกดังเก็บสินค้าบนแปลงที่ดินประมาณ 1 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันกับด้านหลังอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นจำนวน 18 คูหาของชาวบ้าน เนื่องจากหลังบริษัทดังกล่าวได้เข้ามาดำเนินการตอกเสาเข็มเพื่อเตรียมการก่อสร้างโกดังเก็บสินค้ามากว่าครึ่งเดือน ได้ทำให้อาคารพาณิชย์ที่ตั้งอยู่เรียบแนวถนนสาย 304 แตกร้าวไปทั่วเกือบทุกคูหา
โดยนายสันต์ ศรีเจริญ อายุ 69 ปี เจ้าของอาคารพาณิชย์ขนาด 1.5 คูหา เลขที่ 90/9 ม.5 ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า หลังบริษัทของนักลงทุนชาวไต้หวันได้เข้ามาทำการตอกเสาเข็มเพื่อทำการก่อสร้างอาคารลักษณะโดมสูงเพื่อใช้เป็นคลังเก็บสินค้าเมื่อประมาณกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านซึ่งมีตึกอาคารพาณิชย์ขนาด 3 ชั้น ซึ่งเป็นแปลงที่ดินติดกันอยู่ที่ด้านหลังจนทำให้ตัวอาคารแตกร้าว ทั้งผนังตึก เสาชานชายคา และกันสาดรวมถึงพื้นของตึกมีแยกไปทั่วทั้งอาคาร 18 คูหา
เนื่องจากเป็นการตอกเสาเข็มลึกมากถึง 24 เมตรจนต้องใช้เสาเข็มขนาด 12 เมตรตอกซ้อนกันถึง 2 ต้นต่อ 1 จุดรวม 387 จุด จึงส่งผลทำให้แรงสั่นสะเทือนจากการตอกเสาเข็มลึกถึง 2 ชั้นนั้นไปกระทบถึงตัวอาคารพาณิชย์ที่อยู่ใกล้เคียงดังกล่าว ทั้งที่ยังเป็นอาคารใหม่ที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จมาได้เพียง 5 ปีเท่านั้น แต่หลังจากชาวบ้านแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบ พร้อมกับทาง อบต.คลองนา ทางผู้ประกอบการกลับบอกว่าจะมาซ่อมแซมให้ด้วยวิธีการยาแนวรอยแตกร้าวให้
ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจหากจะมาทำในลักษณะลูบหน้าปะจมูกให้ เนื่องจากตัวอาคารเมื่อมีรอยร้าวแล้ว มูลค่าก็จะลดลงเสียหายจากเดิมที่ชาวบ้านซื้อมาในราคา 4-5 ล้านบาทเมื่อ 5 ปีก่อนราคาก็จะตกลง โดยที่ชาวบ้านไม่ได้ห้ามหรือคัดค้านไม่ให้เขาทำการก่อสร้าง แต่อยากให้เขาเลือกใช้เสาเข็มแบบเจาะที่ชาวบ้านจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า แต่ทาง อบต.คลองนา บอกว่า เขาขออนุญาตก่อสร้างมาอย่างถูกต้องตามแบบจะไปบังคับเขาให้หยุดไม่ได้ นายสันต์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.กัญจนานันท์ สื่อสวัสดิ์วณิชย์ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์เลขที่ 90/3-4 และของผู้เป็นมารดาเลขที่ 90/1-2 รวม 4 คูหา ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.5 ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า หลังบริษัทต่างชาติรายนี้เข้ามาตอกเสาเข็ม อาคารพาณิชย์ของตนและของมารดารวมทั้งของเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ต่างได้รับผลกระทบมีรอยแตกร้าวไปทั่วทั้งอาคาร ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการสั่นสะเทือนของการเร่งตอกเสาเข็มที่กำลังจะก่อสร้างอาคารโรงงานลักษณะเป็นโกดังโดมเก็บพลาสติกที่ด้านหลังตึก
หลังจากเริ่มเกิดรอยร้าวขึ้นจึงได้ไปแจ้งยังที่ อบต.คลองนา และได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.65 แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ให้ ต่อมาในวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมาทาง อบต.ได้เข้ามาดูอีกครั้งและก็ยังไม่ดำเนินการอะไรให้อีก โดยระบุว่ายังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ จนมาในวันนี้ทางนายก อบต. พร้อมคณะก็มาอีก ก็ยังบอกว่ากำลังตรวจสอบเหมือนเดิมโดยที่ไม่ได้มีการดำเนินเรื่อง หรือมีความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งอย่างใดในการที่จะระงับการตอกเสาเข็มให้แก่ชาวบ้านที่ได้ร้องเรียนไป
รวมทั้งยังไม่มีการเจรจาที่จะหาทางเยียวยาหรือชดเชยอะไรให้ ที่ผ่านมาได้เคยเข้าไปติดต่อแจ้งให้แก่ผู้ที่มาทำการตอกเสาเข็มให้ทราบแล้ว ว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบเมื่อประมาณวันที่ 15 มิ.ย.65 แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ หลังจากนัดให้เขามาดูรอยร้าวแล้ว แต่เขากลับไม่มาตามนัดทั้งที่รับปากไว้ ชาวบ้านจึงได้เข้าไปร้องเรียนยังที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้มีทาง อบต.เข้ามาดู พร้อมกับทางฝ่ายผู้ตอกเสาเข็ม เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา น.ส.กัญจนานันท์ กล่าว
ด้าน น.ส.สุวรรณ คงโฉลง อายุ 58 ปี อยู่อาคารพาณิชย์เลขที่ 90/7 ม.5 ต.คลองนา กล่าวว่า นอกจากตัวตึกจะแตกร้าวแล้ว ตนยังได้รับผลกระทบหนักมากกว่ารายอื่นๆ อีกหลายด้าน เนื่องจากตนเองทำงานในเวลากลางคืนที่จะต้องเตรียมของออกไปขายในตลาดเช้ามืดที่ อ.บางปะกง ตั้งแต่เที่ยงคืน เมื่อขายของจนถึงเช้าและกว่าจะเก็บของแล้วเสร็จ จะเริ่มกลับมาพักผ่อนในเวลาเที่ยงวัน แต่เขามาก่อสร้างตอกเสาเข็มเสียงดังสนั่นจนหลับนอนไม่ได้เลยตั้งแต่ต้นเดือน จึงได้รับผลกระทบอย่างสาหัสมาก
โดยการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบต่อชุมชนนี้ ไม่เคยมีการมาสอบถามถึงความเห็น หรือแจ้งให้แก่ประชาชนในพื้นที่ทราบมาก่อนเลย ทั้งที่เป็นโซนพื้นที่สีเขียวเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน เคยไปแจ้งถึงความเดือดร้อนต่อทาง อบต.คลองนา 2-3 ครั้งแล้ว แต่ทาง อบต.ได้แต่บอกว่าต้องทำตามขั้นตอน และยังบอกว่าทาง อบต.สั่งระงับการก่อสร้างไม่ได้ เพราะเกรงว่าทางบริษัทที่จะเข้ามาก่อสร้างเสียหาย
แต่ทำไมไม่ถามประชาชนบ้างว่า ประชาชนเสียหายหรือไม่ แล้วจะมี อบต.เอาไว้เพื่ออะไรหากประชาชนพึ่งไม่ได้ทั้งที่ อบต.นั้น กินภาษีจากประชาชน จึงทำให้ประชาชนรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจ น.ส.สุวรรณ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: