ฉะเชิงเทรา – ไม่มีใครทำไมไฟลุก เพลิงปริศนาพึ่บติดลุกไหม้ในอู่ซ่อมสีรถยนต์ขณะไม่มีใครอยู่ภายในเผาวอด 3 คันรวด ทำชาวบ้านรอบข้างตกใจเหตุจากมีเสียงปะทุดังคล้ายการระเบิดถี่ยิบ ด้านเจ้าของอยู่เผยรถคันต้นเพลิงเพิ่งลากเข้ามาจอดรอซ่อมได้เพียงแค่ 3 วัน โดยที่ยังไม่มีใครเข้าไปทำอะไร แต่กลับกลายเป็นต้นตอแห่งความเสียหายสู่รถยนต์คันอื่นที่จอดอยู่ข้างเคียง
วันที่ 3 ก.ค.65 เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางบุญลือ บ่าสมบูรณ์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/2 ม.3 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงปริศนาลุกไหม้รถยนต์ภายในอยู่ซ่อมรถของนายเอกศักดิ์ นิยมพานิช อายุ 62 ปี หรืออู่ช่างหนุ่ม ตั้งอยู่เลขที่ 110 ม.3 ต.เกาะขนุน ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของตน โดยที่ตนนั้นเป็นพี่สาวของภรรยาช่างหนุ่ม
ข่าวน่าสนใจ:
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
- รับสมัคร นายกอบจ.-ส.อบจ.ตรัง วันแรกคึกคัก! บ้านใหญ่ตระกูลโล่ฯ-ส.ส.ตรังทุกพรรค-กองเชียร์นับพัน แห่ให้กำลังใจ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” สู้ศึกอีกสมัย…
- ระทึก ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องโฟมใส่อาหารหวิดวอดหมดหลัง
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
โดยครั้งแรกได้ยินเสียงดังที่บริเวณหน้าบ้านเข้าใจว่ามีรถขับตกถนน เนื่องจากบริเวณหน้าบ้านอยู่ใกล้กับทางโค้ง แต่เมื่อออกมาดูกลับพบว่ากำลังมีควันไฟลุกไหม้เกิดขึ้นภายในอู่ซ่อมรถของน้องเขย แต่ประตูรั้วด้านหน้าถูกล็อกเอาไว้ เนื่องจากในขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในอู่ ตนจึงได้ไปร้องขอให้เพื่อนบ้านที่เป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฯ ให้เข้ามาช่วยกันติดตามรถน้ำมาดับเพลิง และหลังจากมีรถน้ำจาก อปท.ในพื้นที่ จำนวน 2 คันมาทำการควบคุม เพลิงจึงสงบลงในที่สุด
โดยในระหว่างเกิดเหตุนั้น ตนได้ยินเสียงปะทุดังคล้ายระเบิดอยู่เป็นระยะ และต่อเนื่องจนเพลิงสงบลงเสียงประทุจึงได้เงียบลงตามไปด้วย แต่เสียงดังกล่าวทำให้หลายคนที่อยู่ในบริเวณข้างเคียงต่างพากันตกใจไปตามๆ กัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ระหว่างเกิดเหตุไม่ได้มีใครไปทำอะไรอยู่ภายในอู่ซ่อมรถ เนื่องจากประตูรั้วถูกล็อกเอาไว้ จนกระทั่งมีอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจังได้ทำการตัดกุญแจเปิดประตูรั้วออก จากนั้นจึงเข้าไปยังภายในได้ นางบุญลือ กล่าว
ขณะที่ นายเอกศักดิ์ กล่าวว่า ต้นเพลิงที่พบเกิดจากรถยนต์ตู้ ยี่ห้อฮุนได (H1) หมายเลขทะเบียน 1ขห-4547 กทม. ที่เพิ่งถูกลากเข้ามาจอดไว้ที่อู่ จากในเขตพื้นที่ อ.บางคล้า เพื่อที่จะนำมาซ่อมและทำสีช่วงบริเวณด้านหน้ารถใหม่ เนื่องจากรถคันนี้ได้ไปพุ่งชนกับท้ายรถยนต์บรรทุกเหล็กมา และเพิ่งลากเข้ามาได้เพียง 3 วันเท่านั้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยที่ยังไม่ได้มีใครไปทำอะไรกับตัวรถเลยเพราะติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และยังไม่ได้ถอดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ออกด้วย
หลังเกิดเพลิงลุกไหม้แล้วได้ทำให้มีรถยนต์ที่จอดรอซ่อมอยู่ภายในอู่ได้รับความเสียหายรวมจำนวน 3 คัน โดยมีรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนถูกเปลวเพลิงได้รับความเสียหายที่ด้านข้างขวาและด้านท้ายรถ 1 คัน และยังมีรถยนต์กระบะ 4 ประตู เลขทะเบียน กต-7367 ฉะเชิงเทรา ที่จอดรออะไหล่อยู่ที่ด้านหลังอีก 1 คัน โดยเปลวเพลิงได้ทำความเสียหายให้แก่ตัวเครื่องยนต์ และตัวรถจากความร้อนที่ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ หลอมละลาย ได้รับความเสียหาย
โดยตนประกอบอาชีพเปิดอู่ซ่อมสีรถยนต์มานานถึงกว่า 30 ปีแล้ว จนมีบุตรชายเข้ามาเป็นผู้รับช่วงทำต่อแล้ว ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นมาก่อน นายเอกศักดิ์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: