ฉะเชิงเทรา – ยอมถอยแล้ว ช้างสีดอ 6 ตันขยับย้อนคืนเส้นทางมุ่งสู่ป่า หลังบุกมาประชิดตัวเมืองแปดริ้วเมื่อวันวานในระยะห่างเพียงแค่ 10 กม. พื้นที่ ต.ดอนทราย และกบดานอยู่นานตลอดทั้งวันวาน ก่อนเดินทางกลับไปยังทิศทาง อ.แปลงยาว อีกครั้งในเวลากลางคืน ล่าสุดพบตัวอยู่ที่บ้านไผ่ล้อมใกล้กับแยกเนินไร่ริมถนนสาย 331 จ่อแวะเข้าเยี่ยมชมโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ซิตี้
วันที่ 4 ส.ค.65 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการผลักดันช้างสีดอขนาดใหญ่วัยเกือบ 20 ปีน้ำหนัก 5-6 ตัน ที่เดินท่องเข้ามายังในย่านชุมชนตลาดบางบ่อ อ.แปลงยาว และเดินเลยต่อเนื่องมาจนถึงยังในเขตพื้นที่ ต.ดอนทราย อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นตำบลที่มีแนวเขตประชิดติดกับ ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้ โดยมีระยะทางห่างจากตัวจังหวัด (ศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา) ทางอากาศเพียงไม่ถึง 10 กม. และมีระยะเดินทางด้วยรถยนต์เพียง 11.2 กม.เท่านั้น
โดยช้างสีดอขนาดมหึมาตัวนี้ ได้เข้ามาอยู่ในเขตพื้นที่ ต.ดอนทราย เกือบตลอดทั้งวันตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าของวานนี้ (3 ส.ค.65) ภายในป่าหญ้าและหนองน้ำที่ย่านหลังวัดดอนทราย จากนั้นยังได้เดินไปนอนกบดานพักผ่อนยังที่ทุ่งหญ้าบริเวณด้านหลังร้านค้าวัสดุก่อสร้าง (อุดมค้าวัสดุ) ใกล้กับสี่แยกดอนสีนนท์เกือบตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะเดินย้อนกลับออกไปในทิศทางมุ่งหน้ายังพื้นที่ อ.แปลงยาว อีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ชุดติดตามผลักดันช้างป่า ได้พบเห็นพลายสีดออยู่ภายในสวนป่ายูคาลิปตัส ที่บริเวณบ้านไผ่ล้อมใกล้กลับจุดยูเทิร์นกลับรถแยกเนินไร่ ริมถนนสาย 331 (กบินทร์บุรี-สัตหีบ) พื้นที่ ม.11 ต.แปลงยาว และนอนพักผ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าวตลอดระยะเวลากว่าครึ่งวันที่ผ่านมา ซึ่งจุดที่พบช้างป่าล่าสุดนั้น อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งของกลุ่มโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ซิตี้ และถือเป็นแหล่งย่านชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ใน ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างกลับคืนสู่ป่า ได้มีแผนที่จะพยายามต้อนใช้ช้างป่าสีดอตัวนี้ เดินทางกลับป่าผ่านไปยังในทิศทางของพื้นที่ ต.หนองไม้แก่น อ.แปลงยาว ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นป่าสลับกับทุ่งโล่งและไร่มันสำปะหลัง ป่ายูคาลิปตัส และสวนยางพารา ที่เหมาะต่อการเดินทางของช้างป่ามากกว่าทิศทางอื่น เนื่องจากมีบ้านเรือนของประชาชนตั้งขวางอยู่ตามรายทางน้อยกว่าอย่างประปราย
ขณะที่ นางสุพัตรา โนรีราษฎร์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/1 ม.4 ต.ดอนทราย อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านในชุมชนหน้าวัดดอนทราย กล่าวว่า หลังทราบข่าวจากทาง อบต.ดอนทราย ว่ามีช้างป่าบุกเข้ามาจนถึงในพื้นที่ ชาวบ้านต่างพากันตื่นเต้นเพราะถือเป็นเรื่องแปลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นหรือมีช้างป่าบุกเข้ามาเยือนจนถึงในพื้นที่นี้มาก่อน โดยส่วนตัวนั้นยังรู้สึกเฉยๆ เพราะช้างที่มายังไม่ได้เข้ามาทำอันตรายอะไรต่อชาวบ้าน และยังมาไม่ถึงยังในชุมชนหน้าวัด
แต่หากช้างป่ามาถึงจริงๆ ก็คงจะน่ากลัว เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นช้างป่ามาแบบเป็นตัว เป็นๆ จริงๆ มาก่อนเลย โดยเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ และเคยเห็นมีช้างเลี้ยงที่มีคนพามาเดินอยู่ตามหมู่บ้านเพื่อขายอาหารช้างเท่านั้น ส่วนกรณีที่มีข่าวช้างป่าทำร้ายคนในเขตพื้นที่ อ.สนามชัยเขต และ อ.ท่าตะเกียบ บ่อยครั้งนั้น ยังเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นกับตนเองจึงยังไม่รู้สึกกลัวอะไรมากนักเพราะยังมาไม่ถึงตัว จึงยังไม่รู้
แต่หากมาพบเจอกันจริงๆ ชาวบ้านก็คงต้องหลบหนีเอาตัวรอด แต่ขณะนี้ก็ยังเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ติดตามมาคอยดูแลเอาใจใส่อยู่ ก็ยังเชื่อว่าช้างคงจะมาไม่ถึงยังภายในชุมชนที่อยู่อาศัยของคน แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่มีช้างป่าเข้ามาเดินจนถึงยังที่นี่ เพราะเป็นพื้นที่ห่างไกลมากจากป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน นางสุพัตรา พร้อมชาวบ้านใน ต.ดอนทราย กล่าว
