ฉะเชิงเทรา – ข้ามฝั่งถนนใหญ่ สายเอเชีย AH19 (331) ได้แล้วช้างป่าบุกท่องเมือง ขณะชาวบ้านโอดสีดอ 6 ตันแผงฤทธิ์ฝากผลงานเอาไว้ให้ดูต่างหน้า ด้วยการพังทำลายกำแพงจนถล่มเป็นแนวราบคาบทั้งแถบถึง 2 จุดขณะเดินท่องราตรีเที่ยวชมหมู่บ้านแบบสังคมเมืองย่านใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมเกตุเวย์ซิตี้ใน อ.แปลงยาว พบมีหลักฐานชี้ชัด มัดตัวแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมในการก่อเหตุ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเอาไว้ได้อย่างชัดเจน
วันที่ 4 ส.ค.65 เวลา 22.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่า ซึ่งนำโดยนายเดชา นิลวิเชียร นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วผลักดันช้างและแก้ไขปัญหาช้างป่าที่ 2 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว) สามารถผลักดันช้างป่าเพศผู้สีดอ อายุประมาณเกือบ 20 ปี น้ำหนักประมาณ 6 ตันให้เดินข้ามถนนสาย 331 (AH19) กบินทร์บุรี-สัตหีบ ซึ่งเป็นถนนใหญ่ขนาด 4 ช่องจราจรและมียานพาหนะสัญจรผ่านตลอดเวลาได้แล้ว เมื่อเวลา 18.30 น.
หลังจากได้เดินกลับมาจากในเขตพื้นที่ ต.ดอนทราย อ.บ้านโพธิ์ ใกล้กับตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนมากบดานอยู่ในบริเวณพื้นที่บ้านไผ่ล้อม ใกล้กลับจุดยูเทิร์นกลับรถแยกเนินไร่ ริมถนนสาย 331 (กบินทร์บุรี-สัตหีบ) พื้นที่ ม.11 ต.แปลงยาว และนอนพักผ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าวตลอดทั้งวันที่ผ่านมา โดยที่ยังไม่สามารถที่จะข้ามถนนไปสู่ยังด้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นเส้นทางเดินกลับสู่พื้นที่ อ.สนามชัยเขต และสวนป่าลาดกระทิง จุดที่พบช้างสีดออยู่รวมกับช้างในกลุ่มเดียวกันก่อนหน้า
ซึ่งล่าสุดเมื่อเวลา 21.30 น. ช้างป่าสีดอยังคงแอบซ่อนตัวอยู่ในป่าริมถนนสาย 331 ห่างจากปากทางแยกเข้าวัดเนินไร่ไปประมาณ 200 เมตร พื้นที่ ม.8 ต.แปลงยาว ใกล้กับจุดที่เดินข้ามฝั่งถนนไปเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยยังคงมีเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสังเกตการณ์ดูอยู่ห่างๆ และทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดเส้นทางการสัญจรบนเส้นทางสายเข้าวัดเนินไร่ ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าออกไปยังอีกหลายหมู่บ้านใน ต.แปลงยาว
ขณะที่นางรุ่งนภา บุญเขียน อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.11 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของธุรกิจห้องเช่า ผู้เสียหายจากการที่รั้วกำแพงโดยรอบพื้นที่ถูกช้างป่าพลายสีดอบุกเข้ามาทำลายจนพังเสียหายอย่างย่อยยับแบบราบคาบ มากถึง 6 ช่องกำแพง หรือประมาณ 24 เมตร กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากตนเองได้รับความเดือดร้อนจากช้างป่าที่บุกเข้ามาทำลายทรัพย์สินจนได้รับความเสียหายในครั้งนี้
โดยขณะที่ช้างเดินเข้ามาเมื่อคืน เวลาประมาณ 04.31 น.นั้นได้ยินเสียงสุนัขเห่า แต่ไม่คิดว่าจะเป็นช้างป่าที่เดินเข้ามาในบริเวณบ้าน โดยเดินผ่านเข้ามาทางประดูด้านหน้าผ่านห้องเช่า เนื่องจากบ้านอยู่ติดกับถนนใหญ่ (331) แต่แล้วก็เดินมาพังกำแพงรั้วคอนกรีตเพื่อเดินออกไป จนกำแพงพังถล่มเป็นแนวยาวเสียหายอย่างหนัก หลังจากได้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจกลัวมาก
หลังจากเกิดเหตุแล้ว ในวันนี้ได้มีทางเทศบาลตำบลแปลงยาว และนายอำเภอแปลงยาว รวมถึงนักการเมืองในพื้นที่ได้เดินทางเข้ามาดูความเสียหายแล้ว และได้แต่บอกว่าเดี๋ยวจะดูว่าจะมีโครงการอะไรที่จะสามารถนำมาช่วยเหลือได้บ้างเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ได้มีความหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลืออะไรอย่างเป็นรูปธรรมมากนัก หากจะทำการซ่อมแซมก็น่าจะต้องใช้เงินจำนวนหลายหมื่นบาท เนื่องจากกำแพงเกิดความเสียหายจำนวนหลายช่อง นางรุ่งนภา กล่าว
ขณะเดียวกัน นางรุ่งนภา ยังเปิดเผยอีกว่า นอกจากรั้วกำแพงของตนจะถูกช้างป่าบุกเข้ามาพังทลายแล้ว ยังมีรั้วบ้านของญาติห่างๆ ซึ่งเป็นน้าสาวอีกหลัง คือ นางมุกดา พานิชเจริญดี อายุ 70 ปี เลขที่ 150 ม.11 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ถูกข้างบุกเข้าไปพังกำแพงรั้วด้วยเช่นเดียวกัน โดยช้างได้รื้อพังเหล็กลูกกรงด้านบนแนวกำแพงออก และเดินข้ามผ่านไป จนรั้วได้รับความเสียหายจำนวน 2 ช่อง หรือความยาวประมาณ 8 เมตรด้วย
