X
คนงานเก่ามองไม่ได้ประโยชน์

แรงงานเก่าสุดช้ำ ชี้ขยับค่าแรงเป็นการซ้ำเติมวิกฤต ทำค่าครองชีพพุ่งสูง

ฉะเชิงเทรา – แรงงานเก่าสุดช้ำ ชี้รัฐประกาศขยับค่าแรงงาน เป็นการซ้ำเติมวิกฤตจากค่าครองชีพที่พุ่งสูงอยู่ก่อนหน้าแล้ว ทั้งยังทำให้สินค้าเริ่มขยับปรับราคาขึ้นใหม่ตามมาอีกระลอก โอดเดือดร้อนกันถ้วนหน้าทั้งหนี้สินท่วมจากรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในช่วงภาวะวิกฤตโรคระบาดมาก่อนหน้าแล้ว ยังมาถูกซ้ำเติมด้วยการประกาศขึ้นค่าแรงงานจนทำให้ราคาสินค้าและรายจ่ายรอบด้านในชีวิตประจำวัน พุ่งขึ้นสูงแบบซ้ำซากต่อเนื่องกัน

วันที่ 29 ส.ค.65 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานในนิคมอุตสาหกรรมดังย่าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ว่าหลังจากรัฐบาลประกาศปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้ผู้ใช้แรงงานเก่า หรือผู้ที่เคยทำงานอยู่ก่อนหน้ามาแล้วหลายปี และคนงานที่ทำงานอยู่ในโรงงานที่ไม่มีสหภาพแรงงานนั้น เริ่มได้รับผลกระทบจากราคาค่าสินค้าและค่าครองชีพที่เริ่มขยับปรับตัวสูงขึ้นตามมาในทันที หลังจากการประกาศปรับขึ้นค่าแรงงานดังกล่าวของรัฐบาล

นิคมดังย่านบางปะกง

โดย น.ส.สายฝน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม ย่านซอย 8 ภายในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า พวกตนไม่ได้รับประโยชน์จากการประกาศขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำที่กำลังจะปรับขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากพวกตนนั้นทำงานกันมานานหลายปีแล้ว และไม่ได้ใช้ฐานค่าแรงงาน จากค่าจ้างงานขั้นต่ำที่กำลังประกาศปรับขึ้นและเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค.65 นี้

โอดรัฐ ขึ้นค่าแรงไม่เป็นธรรม

แต่กลับต้องมาได้รับผลกระทบจากการประกาศปรับขึ้นค่าแรงในครั้งนี้ไปด้วย จากค่าของชีพโดยเฉพาะราคาสินค้า ค่าบริการต่างๆ ที่พากันขยับขึ้นตามมาในทันทีหลังจากการประกาศปรับขึ้นค่าแรงงานเมื่อวันที่ 26 ส.ค.65 ที่ผ่านมา โดยผู้ใช้แรงงานจะต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่สูงขึ้นอีกระลอกในทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ราคาค่าสินค้าและค่าครองชีพนั้น ได้มีการปรับขึ้นกันมาหลายครั้งแล้วในช่วงภาวะวิกฤตน้ำมันแพง น.ส.สายฝน กล่าว

โรงงานส่วนใหญ่ ไม่ปรับขึ้นตามประกาศ

ขณะที่ น.ส.น้ำค้าง (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 30 ปี ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานย่านเดียวกัน กล่าวว่า การประกาศปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำนั้น อยากให้รัฐบาลหรือกระทรวงแรงงานเข้ามาดูแลอย่างจริงจังหรือทำให้ผู้ใช้แรงงานนั้นได้รับประโยชน์กันอย่างทั่วถึงมากกว่านี้ ซึ่งในการประกาศปรับค่าแรงงานขั้นต่ำตลอดช่วงที่ผ่านมานั้น มีแรงงานผู้ได้รับประโยชน์แค่เพียงเฉพาะกลุ่ม หรือแค่บางอาชีพเท่านั้น แต่โรงงานที่ไม่มีสหภาพแรงงานคอยดูแลนั้นคนงานจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย

เช่นเดียวกันกับบริษัทที่ตนทำงานอยู่ รวมถึงในอีกหลายโรงงานที่ไม่มีสหภาพแรงงาน จึงไม่ได้รับการปรับค่าจ้างแรงงานอย่างทั่วถึงด้วยเช่นกัน เนื่องจากโรงงานลักษณะนี้การจะปรับขึ้นค่าแรงงานให้แก่คนงานนั้น จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บริหารในแต่ละแห่งเท่านั้น เนื่องจากพวกตนทำงานกันมานานหลายปีจึงได้ค่าจ้างแรงงานที่เลยมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำที่ประกาศปรับขึ้นไปแล้ว แต่เมื่อมีการประกาศขยับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ จึงทำให้คนงานที่เข้ามาใหม่นั้นมีรายได้ใกล้เคียงกันกับคนงานเก่าที่ยังไม่ได้รับการปรับขึ้นแต่อย่างใด น.ส.น้ำค้าง กล่าว

ได้เฉพาะกลุ่มผู้เข้างานใหม่ ส่วน น.ส.ราตรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานย่านซอย 7 ภายในนิคมฯ แห่งเดียวกัน กล่าวว่า ในการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำในครั้งนี้ ทำให้ผู้ใช้แรงงานเก่าได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะคนงานใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามานั้นจะได้รับค่าแรงที่ใกล้เคียงกันกับคนที่ทำงานกันมานานหลายปีแล้ว จึงเกิดความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมขึ้นมาบ้าง แต่ผลจากการประกาศปรับขึ้นค่าแรงงานนั้นได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนงานต้องลำบากมากขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่ขยับสูงขึ้นในทันที

จึงอยากให้การปรับขึ้นค่าแรงงานนั้น สามารถทำได้พร้อมกันทั้งระบบ หรือเมื่อปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำแล้ว คนที่เคยทำงานอยู่ก่อนหน้ามาหลายปีต้องได้รับการปรับขึ้นค่าแรงงานตามไปด้วย โดยให้คิดเป็นอัตราส่วน เปอร์เซ็นต์หรือขั้นบันไดตามอายุงาน เนื่องจากคนงานที่ทำงานกันมานานแล้วล้วนมีประสบการณ์มากกว่า มีความชำนาญในงานมากกว่า จึงได้ปริมาณงานที่มากกว่าผู้เที่เพิ่งเข้ามาทำใหม่ จึงควรได้รับค่าแรงงานที่สูงกว่าเด็กใหม่หรือผู้ที่เพิ่งเรียนจบเข้ามาใหม่

ขึ้นค่าแรง คนงานเก่าโอด

และอยากฝากให้ทางรัฐบาลช่วยดูแลในเรื่องของค่าใช้จ่ายของประชาชน ที่ปัจจุบันนี้มันสูงเกินไปมากแล้ว เช่น ค่าอาหารในแต่ละมื้อ ค่าห้องพัก ค่าน้ำ และค่าครองชีพด้านอื่นๆ ที่ล้วนพากันปรับขึ้นไปหมดแล้ว จนทำให้ค่าแรงงานของคนงานเก่าที่ไม่ได้ปรับขึ้นและได้รับอยู่ในอัตราเดิมไม่เพียงพอ จะให้ประหยัดอีกอย่างไรก็ไม่ไหวแล้ว เพราะที่ผ่านมาจากภาวะวิกฤตน้ำมันแพงจนทำให้ของขึ้นราคา

คนงานเก่าคอตก ค่าครองชีพท่วม

รวมถึงการเกิดโรคระบาด (โควิด 19) จนทำให้โรงงานปรับลดโอทีลงมานานหลายปีนั้น พวกตนต่างเดือดร้อนกันมามากพออยู่แล้ว ทั้งที่ได้พยายามที่จะประหยัดกันมามากแล้ว แต่รายได้ก็ยังไม่เพียงพอต่อรายจ่าย และหากปล่อยให้ค่าครองชีพขยับพุ่งสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ มากกว่านี้ ผู้ใช้แรงงานคงจะต้องไปหากู้ยืมเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ก็จะยิ่งทำให้เกิดมีภาระทับถมกันเข้ามามากยิ่งขึ้นไปอีก น.ส.ราตรี กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน