ฉะเชิงเทรา – วิน จยย.เลือด หลังใช้แผนการตลาดใหม่รับจองคิวจากผู้เรียกใช้บริการผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ ทำเพื่อนร่วมวินระหองไม่พอใจเข้าต่อว่า อ้างถูกตัดหน้าเป็นชนวนแค้นเหนี่ยวไก .38 เจาะศีรษะอาการสาหัส หลังก่อเหตุเดินเข้ามอบตัวถึงยังในโรงพัก ขณะผู้ร่วมอาชีพแฉอดีตคู่กรณีนั้นเคยช่วยเหลือกันมาก่อน ทั้งยังขอยืมเสื้อวินใส่แต่สุดท้ายกลายเป็นศัตรู
วันที่ 9 ก.ย.65 เวลา 06.30 น. ร.ต.ท.ณรงศักดิ์ ลิ้นทอง รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงกันจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดที่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองดอน ภายในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ซ.8 พื้นที่ ม.5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงแจ้งทางวิทยุให้เจ้าหน้าตำรวจสายตรวจ ซึ่งนำโดย ร.ต.อ.ปองภพ กุดหอม รอง สวป. พร้อมกำลัง จนท.สายตรวจประจำตำบลพิมพา เดินทางเข้าไปตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฯ กำลังให้การช่วยเหลือเบื้องต้นต่อนายสุรเชษฐ์ อ่อนคำ อายุ 53 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 72 ม.2 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นคนขับรถ จยย.รับจ้าง วินพิมพา เบอร์ 66 ที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เจาะทะลุหมวกกันน็อกเข้าที่ขมับด้านซ้าย และยังถูกยิงเข้าที่หน้าท้องอีก 1 นัด นอนหายใจรวยรินรอรถพยาบาลฉุกเฉินจาก รพ.บางปะกง อยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายไพศาล ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 50 ปีเศษ ชาว จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมวินเดียวกัน หมายเลขวิน เบอร์ 46 ได้ขับรถรับผู้โดยสารผ่านมาพบคู่กรณีที่รับผู้โดยสารมาด้วยเช่นกันทั้งสองฝ่ายที่บริเวณเชิงสะพาน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเรียกให้นายสุรเชษฐ์ หยุดรถก่อน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับเลยไปอีกประมาณ 15 เมตร เพื่อจอดแอบข้างทาง และบอกให้ผู้โดยสารรอก่อน
จากนั้นได้เดินตรงกลับมาและใช้อาวุธปืนยิงใส่นายสุรเชษฐ์ ในทันที ซึ่งหลังก่อเหตุแล้วได้ขับรถหลบหนีไป ซึ่งล่าสุด ร.ต.ท.ณรงศักดิ์ พงส.ได้ระบุว่า นายไพศาล ได้เดินทางเข้าไปมอบตัวด้วยตนเองแล้วยังที่ สภ.บางปะกง หลังจากก่อเหตุในทันที พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 กระบอก ซึ่งรายละเอียดยังอยู่ระหว่างรอการสอบสวน ร.ต.ท.ณรงศักดิ์ ระบุ
จากการสอบถาม นายบัญชา ศัตรูพินาศ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/17 ม.1 ต.พิมพา อ.บางปะกง เพื่อนร่วมวินเดียวกัน เล่าว่า ปกตินายไพศาล ผู้ก่อเหตุนั้นจะมีนิสัยนักเลงแต่ไม่ค่อยยุ่งกับใคร โดยมักเป็นคนเก็บตัว แต่ได้ถูกนายสุรเชษฐ์ ต่อว่าเกี่ยวกับเรื่องที่นายไพศาล ไปรับคนเรียกใช้บริการตัดหน้า เนื่องจากผู้ใช้บริการได้โทรศัพท์เรียกให้นายไพศาล ให้ไปรับโดยตรง
หลังจากผู้ก่อเหตุได้ใช้วิธีการแจกจ่ายเบอร์โทรศัพท์ให้แก่ลูกค้าไปจนทั่วทั้งพื้นที่ จนถูกนายสุรเชษฐ์ ต่อว่าบ่อยครั้งว่าเป็นการเอารัดเอาเปรียบเพื่อนร่วมวินคนอื่น ทั้งที่ทั้งสองคนนั้นเคยสนิทสนมกันมาก่อน แต่มาระยะหลังประมาณ 6-7 ปี ที่ผ่านมาได้ห่างเหินกันออกไป และมักจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาโดยตลอด นายบัญชา กล่าว
ขณะที่ นายสุเทพ ขอสงวนนามสกุล อดีตเพื่อนร่วมวินอีกราย เล่าว่า เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาบวชเป็นพระยังที่วัดสุนีย์ศรัทธาธรรม ใน ต.พิมพา ก่อนที่จะสึก และกลับมาบวชใหม่ยังที่วัดพิมพาเหนือ ซึ่งระหว่างที่กำลังบวชอยู่นั้น เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้วนายสุรเชษฐ์ ได้ไปขอยืมเสื้อวินของนายไพศาล มาขับรับจ้าง ต่อมาเมื่อนายไพศาลสึกออกมาจากพระ จึงได้มาขอคืน นายสุรเชษฐ์ จึงได้ไปซื้อเสื้อตัวใหม่มาขับอยู่ในวินเดียวกัน
แต่ผู้บาดเจ็บมักจะมีท่าทีไม่พอใจหากมีใครรับคนได้ก่อน บ่อยครั้ง และมักจะแสดงตนเป็นคนคอยจัดการภายในวิน และเมื่อมีผู้ใช้บริการเรียกใช้นายไพศาลโดยตรง ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ จึงเกิดเหตุขึ้น นายสุเทพ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: