ฉะเชิงเทรา – นายก อบจ.แปดริ้วโอด ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมขยายตัวเข้ามาในพื้นที่พร้อมกับปัญหามลพิษและถนนหนทางพังชำรุดเสียหาย แต่การจัดเก็บภาษีทำได้ต่ำสุด หรือบ๊วยกว่าใน 2 จังหวัดอีอีซีมากถึง 6 เท่าตัว วอนผู้ประกอบการช่วยจ่ายภาษีคืนกำไรสู่คนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา บ้าง หลังยังขาดแคลนเงินงบประมาณซ่อมบำรุงและขยายสะพานข้ามคลอง บนถนนถ่ายโอนทางเชื่อมสู่สนามบินสุวรรณภูมิ
วันที่ 19 ก.ย.65 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบดูสภาพสะพานข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ บริเวณทางเชื่อมจากถนนสาย ฉช.ถ1-0002 (อบจ.) หรือ ถนน ฉช.3014 (รพช.เดิม) ที่เชื่อมจากถนนสาย 304 สุวินทวงศ์ (ฉะเชิงเทรา-มีนบุรี) ใน ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มายังถนนทางหลวงชนบทสาย ฉช.3001 ฉะเชิงเทรา-อ่อนนุช และสามารถเชื่อมไปยังถนนสายเทพรัตน (บางนา-ตราด) รวมถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้และเป็นเส้นทางลัดนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
ตามที่นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้ขึ้นพูดชี้แจงต่อชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของสะพานแห่งดังกล่าว และมีถนนสายนี้ตัดผ่านในพื้นที่ โดยเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง 2 จังหวัด ที่สะพานข้ามคลองประเวศบุรีรมย์จะเชื่อมต่อไปยังถนนสาย ฉช.3001 ใน ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ที่มีสภาพคับแคบและทรุดโทรม ภายในงานเปิดตลาด “ชิม ช้อป ใช้ เช็คอินถิ่นเปรง” เมื่อวานนี้ว่า
เงินงบประมาณซึ่งเป็นรายได้จัดเก็บจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในท้องที่ของ จ.ฉะเชิงเทรา นั้นมีน้อยมาก เพียงปีละประมาณ 800 กว่าล้านบาท ทั้งที่เป็นจังหวัดที่มีที่ตั้งติดอยู่กับกรุงเทพและปริมณฑล ต่างจากการจัดเก็บรายได้ของ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง เป็นอย่างมาก ทั้งที่เป็นจังหวัดที่อยู่กลุ่ม 3 จังหวัดในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยที่ จ.ชลบุรี นั้นมีรายได้จากการจัดเก็บมากถึง 5 พันกว่าล้านบาท ส่วน จ.ระยอง มีงบประมาณรายได้จัดเก็บมากถึง 4 พันกว่าล้านบาท
จึงอยากขอความเมตราจากผู้ประกอบการ และโรงงานอุตสาหกรรม ที่ได้เข้ามาตั้งประกอบกิจการอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และมาสร้างความเดือดร้อนนำมลพิษมาให้ เอาสิ่งต่างๆ เข้ามาให้ ถนนหนทางชำรุดทรุดโทรม ขอให้ช่วยเสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 เปอร์เซ็นต์ให้แก่ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ด้วย โดยเงินงบประมาณจะได้ถูกนำมาพัฒนา จ.ฉะเชิงเทรา ให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากหลายบริษัทหลายโรงงานนั้น มีบริษัทแม่หรือสำนักงานใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดอื่น จึงไปจ่ายภาษีให้แก่จังหวัดอื่น แต่มลพิษยังคงอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา
ที่ผ่านมาตนเองเคยพูดและนำเสนอต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในเวลาประชุมงบประมาณ พูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภามาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยประสบความสำเร็จ จึงไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรเพียงแต่จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงได้พยายามไปขอเงินงบประมาณจากส่วนกลางมาบ้าง เพื่อนำมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา
โดยมีปัญหาที่ต้องหนักใจตรงบริเวณสะพานข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ จุดเชื่อมต่อจากถนน รพช.สายเก่า ที่ได้รับการถ่ายโอนมานับตั้งแต่อดีตนายก อบจ.คนก่อน จาก ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ไปยังในเขต ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรมและคับแคบ ทำให้การสัญจรข้ามไปมาไม่สะดวก ทั้งที่เป็นสะพานที่มีผู้ใช้เส้นทางผ่านเป็นจำนวนมาก
โดยหากจะทำการก่อสร้างขยายใหม่นั้น จะต้องใช้เงินงบประมาณมากถึง 80-90 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องหนักใจเป็นอย่างมากที่จะต้องดิ้นรนหาเงินงบประมาณ จากงบกลางมาทำการก่อสร้างให้แก่ประชาชนต่อไป เพื่อที่ประชาชนจะได้สามารถสัญจรผ่านไปมากันได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นายกิตติ กล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า บริเวณสะพานแห่งดังกล่าวนี้ มีลักษณะเป็นสะพานคอนกรีตทรงโค้งสูงแบบช่วงสั้น เพื่อข้ามลำคลองสายใหญ่ (ประเวศบุรีรมย์) โดยมีสภาพของคอสะพานที่แตกร้าวทรุดตัว จนมีร่องรอยการปะแบบซ้ำซากมาแล้วหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง และมีรถบรรทุกหนักขับผ่านเส้นทางอยู่ตลอดทั้งวัน จนทำให้บริเวณคอสะพานทรุดตัวลง ในบางครั้งทำให้พื้นถนนมีความต่างระดับสูงชัน จนรถยนต์ขนาดเล็กหรือรถยนต์ที่มีลักษณะโหลดเตี้ย ไม่สามารถขับผ่านข้ามคอสะพานไปได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: