ฉะเชิงเทรา – แขวงทางหลวงฉะเชิงเทรา เร่งระดมช่วยกันขัดล้างถูพื้นผิวการจราจรจุดลื่นไถลบริเวณใกล้สะพานข้ามแยกสตาร์ไลท์ ขณะชาวบ้านไม่เชื่อมั่นเป็นวิธีการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาหรือลดการเกิดอุบัติเหตุลงได้ หากไม่ขัดผิวหน้าของพื้นถนนคอนกรีตให้หยาบมากขึ้น ปูดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเคยเกิดขึ้นแบบซ้ำซากมาแล้วตลอดกว่า 2 ปีก่อน ที่มีผู้ใช้เส้นทางมาประสบอุบัติเหตุลื่นไถลตกถนนพุ่งชนกันในทุกครั้งที่มีฝนตกลงมาในพื้นที่นับพันคัน ที่บริเวณบนถนน 304 ช่วงใกล้ทางแยกเขาวัดสมานฯ
วันที่ 27 ก.ย.65 เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.สุพิชชา จันทร์ศรี อายุ 35 ปี เจ้าของเต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสอง 9มีนาคาร์เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ริมถนน 304 สุวินทวงศ์ ด้านฝั่งขาเข้า เลขที่ 48/1 ม.5 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณใกล้ทางสามแยกสตาร์ไลท์ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุการณ์รถยนต์ที่ขับมาบนท้องถนนเกิดการลื่นไถลตกลงไปยังภายในคูน้ำข้างทาง แบบตามๆ กันต่อเนื่อง 2 วัน รวม 11 คัน โดยมีภาพกล้องวงจรปิดจากภายในร้านสามารถบันทึกภาพไว้ได้ และได้มีการนำไปเผยแพร่เป็นข่าวผ่านทางสื่อมวลชนว่า
ข่าวน่าสนใจ:
ตนได้สร้างเต็นท์ขายรถยนต์มือสองแห่งนี้ขึ้นมาประมาณ 1 ปีเต็มแล้ว ตั้งแต่ในช่วงหน้าฝนที่แล้ว (ก.ค.64) จึงได้เห็นมาตลอดทั้งฤดูฝนที่ผ่านมา ใน 2 ปีว่าเหตุการณ์รถยนต์ลื่นไถลตกถนนลงไปในคูน้ำข้างทางที่บริเวณหน้าเต็นท์ขายรถยนต์แห่งนี้ มักจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เมื่อพื้นถนนเปียกแฉะจึงจะเกิดเหตุการณ์ลื่นตกถนนมาโดยตลอด และมักจะเกิดขึ้นถี่มากจากในเลนด้านขวาสุด โดยตัวรถจะเริ่มบิดลื่นไถลเข้าไปชนกับแท่งแบริเออร์ยางด้านขวาก่อนที่จะลื่นมาตกลงยังในคูน้ำด้านซ้าย
แต่ที่ผ่านมายังไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัส แต่มีความเสียหายทางทรัพย์สินเกิดขึ้นเยอะมาก จึงอยากฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูแลหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้ด้วย เพราะตนเองเชื่อว่าต่อไปอาจจะเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงหรือมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นได้ โดยเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาของวันนี้ได้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่จากแขวงทางหลวง เข้ามาปิดกั้นวางแนวกรวยยางเพื่อทำความสะอาดผิวถนนแล้ว ด้วยการใช้ผงซักฟอกโรยแล้วขัดด้วยแปรงก่อนที่จะฉีดน้ำล้าง ซึ่งต้องรอดูว่าจะได้ผลหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าอาจจะไม่ได้ผล น.ส.สุพิชชา กล่าว
ขณะที่พนักงานในร้านอีกหลายคนยังบอกตรงกันเป็นเสียงเดียวว่า หากไม่มีการขัดพื้นผิวถนนให้หยาบมากขึ้นเหมือนกับที่บริเวณเส้นทางจากสี่แยกกองพลทหารราบที่ 11 ไปยังหน้าปากทางเข้าวัดสมานรัตนาราม และแยกหัวสวน ที่เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อนที่ถนนเพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ๆ นั้น ได้มีผู้ใช้เส้นทางขับรถมาลื่นตกถนนในลักษณะเดียวกันเช่นนี้เป็นจำนวนมาก และมีความรุนแรงว่าตรงบริเวณนี้มาก เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายในหลายเหตุการณ์ และยังเกิดขึ้นบ่อยและถี่มากกว่านี้หลายเท่าตัว
แต่หลังจากได้มีการขัดผิวถนนให้หยาบมากขึ้นแล้ว ที่บริเวณเส้นทาง 304 ช่วงจากแยกกองพลทหารายที่ 11 ไปยังวัดหัวสวนรอยต่อ อ.บางคล้า หรือทางไปวัดสมานฯ อุบัติเหตุจากการลื่นไถลได้ลดน้อยลงไปอย่างมาก แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกันยังที่บริเวณหน้าเต็นท์แห่งนี้แทนจนนับครั้งไม่ถ้วน ตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา โดยบางวันมีรถตกถนนมากถึง 10 คัน บางวันมี 7 คันบ้าง 6 คันบ้างตามลำดับ โดยเมื่อวานก่อนมีรถตกถนนรวม 9 คันในจุดเดียว และในวันก่อนหน้ามีตกถนน 2 คันรวม 2 วัน 11 คัน หลังจากที่มีฝนตกลงมาในช่วงระยะนี้
จึงเกรงว่าต่อไปอาจจะมีรถพุ่งข้ามคูน้ำเลยเข้ามาชนเข้ากับรถที่จอดขายที่หน้าร้านจนได้รับความเสียหายไปด้วย จึงได้ทำการป้องกันไว้ในระดับหนึ่ง ด้วยการขยับแถวของรถยนต์ที่นำมาจอดขาย ให้เรียงกันอยู่ลึกเข้ามาจากแนวถนนให้มากขึ้นเท่าที่จะสามารถทำได้ เนื่องจากรถแต่ละคันนั้นมีราคาหลายแสนบาท หากมีเหตุการณ์รถพุ่งข้ามเลยคูน้ำมาจริงๆ เราจะไม่สามารถการันตีให้แก่ลูกค้าได้ ว่ารถที่เราขายนั้นเป็นรถเกรดเอ โดยหากมีร่องรอยการชนก็จะทำให้รถมีราคาตกลงไปจากเกรดที่จะขายได้ราคา จะทำให้เสียราคาลงไปนับแสนบาทต่อคัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: