X
ดูที่เกิดเหตุ

หาช่องฟ้องหน่วยงานรัฐ จี้ไม่จริงใจสางปัญหาช้างป่าขยี้ชาวบ้านดับ

ฉะเชิงเทรา – หาช่องฟ้องหน่วยงานรัฐ ชี้ขาดสำนึกความจริงใจในการแก้ไขปัญหาช้างป่าทำร้ายชาวบ้านจนนับครั้งไม่ถ้วน ไขก๊อกเป็นภัยแสนสาหัสต่อ ปชช.ในพื้นที่ มองเป็นเรื่องป้องกันได้ หากทุกหน่วยทำหน้าที่ใช้ความรู้ความสามารถเข้าดำเนินการ พ้อสลดใจต่อการทำงานของบุคลากรในภาครัฐ วอนหยุดวลีสวยหรู “ช้างกับคนอยู่ร่วมกันได้” ขอให้เลิกพูดแล้วหันหน้ามาช่วยรักษาชีวิตคน

วันที่ 13 ต.ค.65 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ช้างป่าเพศผู้ตัวขนาดมหึมา บุกเข้ามาไล่ทำร้ายผู้คน ในขณะกำลังรอตักบาตรพระสงฆ์ช่วงรุ่งเช้า ภายในชุมชนตลาดชำป่างาม พื้นที่ ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จนชาวบ้านต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอดกันกระเจิง และทำให้มีชายวัย 72 ปี เป็นผู้เคราะห์ร้ายถูกช้างป่าใช้งาเสยจนเสียชีวิต 1 ราย ขณะกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

นายทรัพย์ทวี กุลสารี

ล่าสุดหลังจาก นายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน ได้เดินทางเข้ามาดูเหตุการณ์ และร่องรอยของช้างป่า ภายในบริเวณที่เกิดเหตุด้วยตนเองเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา จากนั้นได้ทำการปรึกษาหารือกับทางญาติของผู้เสียชีวิต เกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินการขั้นต่อไปของชาวบ้านและชุมชน หลังจากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนนับจำนวนผู้เสียชีวิตไม่ถ้วน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้น

นายทรัพย์ทวี กล่าวว่า รู้สึกสลดใจต่อวิธีการทำงานของหน่วยงานที่กำกับดูแลรับผิดชอบ โดยหากมีความจริงใจ มีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาที่เป็นความทุกข์ของประชาชนอย่างแสนสาหัส ทั้งที่ภัยจากช้างป่านั้นเป็นเรื่องที่สามารถป้องกันได้ หากทุกคนทำหน้าที่ นำความรู้ความสามารถของตนเองมาดำเนินการ และส่วนราชการควรเลิกพูดแต่คำว่า “ช้างกับคนอยู่ร่วมกันได้” เพราะช้างกับคนมันอยู่ร่วมกันไม่ได้หรอก

ช้างมันต้องอยู่ในป่า คนก็อยู่ในที่ของคน แม้ช้างจะเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองแต่จะต้องอยู่แต่ในป่าเท่านั้นหรือหากนำมาเป็นช้างเลี้ยงก็ว่ากันไป แต่ช้างป่าเข้ามาเดินอยู่ในชุมชนร่วมกับคนนั้นมันเป็นไปไม่ได้ ต้องหาทางแก้ไขปัญหา โดยขอให้ทุกหน่วยงานผู้นำองค์กรของรัฐนั้น ขอให้มีจิตสำนึกในการช่วยกันรักษาชีวิตของประชาชนไว้ด้วย “ทุกคนทุกชีวิต หนึ่งคนหนึ่งชีวิต ล้วนมีค่าเท่ากันหมด ไม่ว่าจะคนระดับใดก็แล้วแต่ เราไม่อยากให้มีการสูญเสีย”

รอยช้างบุก

ส่วนในการป้องกันของทาง อบต.ท่ากระดาน และชาวบ้านนั้น เราทำกันเต็มที่แล้ว โดยเราได้จัดชุดเฝ้าระวังมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดโครงการนำช้างป่ากลับคืนสู่อ้อมกอดป่า แต่เมื่อเราสามารถเอาเขากลับไปได้แล้ว แต่ในส่วนของหน่วยงานที่ทำต่อจากเรานั้น “ไม่ป้องกัน” โดยเมื่อส่งช้างข้ามคูกันช้างกลับไปได้แล้ว ไม่เกิน 2-3 วัน ช้างป่าได้เดินกลับมาอีกแล้ว ทั้งที่เราเฝ้าจนไม่รู้จะเฝ้าอย่างไร และไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว

ซึ่งความจริงแล้ว ควรเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน แต่ที่เป็นอยู่นั้นเป็นเสมือนกับว่าต่างคนต่างธุระไม่ใช่ และตนนั้นไม่อยากจะบอกว่ามีแต่เพียงหน่วยงานของ อบต.ท่ากระดาน เท่านั้น ที่ทำอยู่แต่เพียงหน่วยงานเดียว โดยได้แต่บอกต่อประชาชนอยู่ตลอดเวลา ว่าเราไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่เราทำเพื่อคนในตำบลท่ากระดาน ทำเพื่อให้ทุกคนปลอดภัย

วันนี้เสียใจจนบอกไม่ถูก โดยที่ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นโยมอุปถัมภ์ต่อวัดชำป่างาม ที่คอยช่วยเหลือดูแลชาวบ้านจัดการงานบุญ เวลามีงานพิธีกรรมทางศาสนา ทั้งงานสวด งานตาย ผู้เสียชีวิตรายนี้จะเป็นคนคอยจัดการงานพิธีและคอยต้อนรับผู้คน และนำพาชาวบ้านทำพิธี ทำกิจกรรมต่างๆ ในวัด จึงคิดว่าจะต้องกระตุกต่อมสามัญสำนึกของคนที่รับผิดชอบ ให้มีสามัญสำนึกมากยิ่งกว่านี้ นายทรัพย์ทวี พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

อย่ามาอยู่ร่วมกันเลย

และกล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุสลดหดหู่ขึ้นในชุมชนใหญ่ของตำบล ขณะนี้ยังต้องหาวิธีการให้กำลังใจต่อพี่น้องประชาชน และเรากำลังคิดว่าจะต้องทำอะไรสักเรื่อง ในเบื้องต้นสิ่งที่น่าตำหนิที่สุด คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ปล่อยให้คนถูกช้างป่าทำร้าย แบบศพแล้วศพเล่า โดยเฉพาะที่ชุมชนแห่งนี้ชาวบ้านมาอยู่กันนานเป็นร้อยๆ ปีแล้ว จนกลายเป็นตลาดชำป่างาม มีสิ่งปลูกสร้างแข็งแรงถาวร

จึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเหตุร้ายแบบนี้เกิดขึ้นกับหมู่บ้าน กับชุมชนของเรา และถือเป็นชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมตั้งแต่เมื่อยุคสมัยรัชกาลที่ 5 นับจากเมื่อครั้งที่มีพระเกจิชื่อดัง “หลวงพ่อคง” มาอยู่ที่วัดชำป่างามแห่งนี้ ยังไม่เคยมีปรากฎการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นมาก่อน จึงเสียใจและจะทำอะไรในอีกหลายๆ เรื่อง ที่จะต้องแก้ไขปัญหา เบื้องต้นจึงได้ปรึกษากับทางญาติของผู้เสียชีวิตแล้ว ว่าจะดำเนินการในเรื่องทางกฎหมายต่อไป

โดยจะฟ้องร้องต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งความอาญา และในทางแพ่ง โดยจะมีการเรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เพราะเป็นความสูญเสียอย่างที่หาที่สุดไม่ได้ ขณะที่ผ่านๆ มา นั้น เมื่อประชาชนเกิดการสูญเสียชีวิตจากช้างป่าไปนั้น มักจะถูกกล่าวหาอยู่ตลอดเวลา ว่าเราเข้าไปบุกรุกพื้นที่ของช้าง แต่วันนี้ถือเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ช้างได้เดินเข้ามาในพื้นที่ของเรา

ช้างบุกบ่อย ชี้ไม่จริงใจแก้ปัญหา

เดินเข้ามาถึงในชุมชนที่เป็นตลาดย่านการค้า ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของตำบล และถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ปลอดภัยที่สุดจากช้างป่า เพราะมีสภาพเป็นชุมชนเมืองที่มีห้างฯ ร้านค้าสะดวกซื้อจำนวนมาก จนไม่มีใครคิดว่าจะมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นในชุมชนแห่งนี้ หลังจากนี้ต่อไป จะต้องนำไปปรับว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านได้อยู่กันอย่างปลอดภัย และในส่วนของการช่วยเหลือชาวบ้านในระยะสั้นนั้น จะกลับไปดูว่าอะไรที่จะสามารถช่วยเหลือได้บ้างตามระเบียบ เพื่อให้การช่วยเหลือต่อทางผู้สูญเสียไปก่อน

ส่วนการสร้างจิตสำนึกให้แก่ทางส่วนราชการที่รับผิดชอบนั้น ได้หารือกันว่า จะให้ทางญาติผู้เสียชีวิตนั้น ไปแจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องของช้างป่า และคงจะต้องฟ้องร้องต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่างต่อไปด้วย นายทรัพย์ทวี กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน