ฉะเชิงเทรา – องคมนตรี เป็นประธานประชุมเพลิงเหยื่อช้างป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่บุกเข้ามาทำร้ายจนเสียชีวิตถึงยังในบ้านพักกลางชุมชนตลาดชำป่างาม ขณะชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันหวาดผวาหนัก วอนหน่วยงานรัฐเอาใจใส่หันมาดูแลความปลอดภัยในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมผลักดันช้างป่าไม่ให้เดินบุกเข้ามาจนถึงยังในชุมชนเมืองและตามหมู่บ้านที่มีผู้คนอาศัยอยู่ หวั่นเกิดเหตุร้ายซ้ำซากอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
วันที่ 16 ต.ค.65 เวลา 15.00 น. พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี และรองประธานกรรมการในคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์ช้างป่ารอยต่อ 5 จังหวัดในภาคตะวันออก ได้เดินทางมายังที่วัดชำป่างาม เพื่อเป็นประธานในพิธีประชุมเพลิง นายไพทูล ทุ่งสินธุ์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกช้างป่าบุกเข้ามาทำร้ายจนเสียชีวิตถึงยังภายในบ้านพักเมื่อวันที่ 13 ต.ค.65 ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- จังหวัดสกลนคร พัฒนาศักยภาพบุคลากร ภาคีเครือข่าย เฝ้าระวัง ดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด
- “คูโบต้า พลังใจสู้ภัยหนาว” ร่วมกับ“กองทัพบก” จัดคาราวานเสื้อกันหนาว เดินหน้ามอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน
- สจ.ธรรมชาติ ไม่มาศาลฉะเชิงทรา ส่งสองทนายคู่หูยื่นฟ้องอัจฉริยะแทน
- ค่ายรถยนต์ ผุดบูธเพิ่มช่องทางปั๊มยอดช่วงปลายปี หลังตลาดยังซบยาวต่อเนื่อง
ท่ามกลางเหล่าข้าราชการผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง นำโดยนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา นายปรัชญา พิมพาแป้น นายอำเภอสนามชัยเขต และประชาชนจำนวนมากถึงกว่า 400 คน ที่ต่างพากันออกมาร่วมแสดงความไว้อาลัยในพิธีฌาปนกิจศพ พร้อมร่วมส่งดวงวิญญาณให้ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนในชุมชน และถือเป็นเหยื่อรายแรกของชุมชนตลาดชำป่างามแห่งนี้
ขณะที่ นางวิลัย ศรีเงียง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของผู้เสียชีวิตที่มีศักดิ์เป็นอา กล่าวว่า ที่ผ่านมานั้นเคยมีช้างป่าเข้ามาเดินวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านบ่อยครั้งแล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สลดนี้ขึ้น โดยตนเองเคยเห็นช้างป่าพากันมาเดินในหมู่บ้านเป็นโขลงจำนวนมากถึง 7 ตัวอีกด้วย ขณะที่ในช่วงเวลากลางคืนนั้นสภาพแวดล้อมของพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในความมืดจนมองอะไรไม่เห็น
จึงทำให้ชาวบ้านทั้งชุมชนส่วนใหญ่ต่างพากันหวาดผวาและกลัวว่าช้างจะเข้ามาก่อเหตุทำร้ายผู้คนจนเสียชีวิตอีก เนื่องจากในช่วงเวลาที่ชาวบ้านออกไปทำไร่ ทำสวน และกรีดยางกันนั้น จะต้องกลับเข้าบ้านกันจนดึกดื่น หรือกลับกันในเวลากลางคืน จึงอยากให้มีหน่วยงานของทางราชการเข้ามาดูแลความปลอดภัยของประชาชน และดูแลช้างป่าอย่างจริงจังให้มากกว่านี้ เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีช้างป่าเข้ามายังในชุมชนบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งเดิมนั้นเคยคิดว่าเราอยู่ในบ้านของเราแล้ว ก็น่าจะปลอดภัยจากช้างป่า แต่ขณะนี้กลับไม่ใช่ ไม่ปลอดภัยแล้ว เนื่องจากมีคนในชุมชนที่นั่งอยู่ในบ้านพักของตนเอง ยังถูกช้างป่าบุกเข้ามาทำร้ายจนเสียชีวิตได้ จึงต่างพากันหวาดกลัวกันไปทั่วจนหมดทั้งหมู่บ้านแล้ว โดยเฉพาะการเดินทางในเวลากลางคืนนั้น ทำให้มีความรู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยเลย ทั้งที่ชาวบ้านจะต้องออกไปทำมาหากินเพื่อเลี้ยงชีพ อีกทั้งช้างยังทำพืชไร่ของประชาชนเสียหายอีกด้วย นางวิลัย กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: