ฉะเชิงเทรา – ชาวบ้านสนใจ แห่ดูพื้นสีรักรอการปิดทองบนองค์หลวงพ่อโสธร ที่เพิ่งทำการบูรณะรอบใหม่อีกครั้ง หลังจากมีร่องรอยแตกร้าวบนเนื้อสีอะคริลิคที่องค์พระ ทั้งที่เพิ่งทำการบูรณะผ่านมาได้เพียง 15 ปีก่อนเปิดพระอุโบสถ์หลังใหม่ เมื่อปี พ.ศ.2549 ขณะที่ในครั้งนี้ได้มีการปิดป้ายแสดงถึงขั้นตอนในการบูรณะองค์หลวงพ่อพร้อมพระหมู่บริวารทั้ง 18 พระองค์อย่างชัดเจน ทำให้พุทธศาสนิกชนได้มีส่วนร่วมรับรู้คลายข้อสงสัยในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
วันที่ 4 พ.ย.65 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกือบตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาภายในพระอุโบสถหลังใหม่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาท่องเที่ยวทำบุญกันอย่างคึกคักมากขึ้น หลังจากซบเซามาอย่างยาวนานจากสถานการณ์โควิด 19 ระบาด ทั้งที่เป็นวันทำงานปกติที่ไม่ใช่วันหยุด เสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ เนื่องจากผู้คนต่างให้ความสนใจที่จะมาชื่นชมดูรูปลักษณ์ใหม่ขององค์หลวงพ่อโสธรอีกครั้ง
ที่ได้มีการลงรักจนกลายเป็นองค์สีดำ รวมทั้งพระหมู่บริวาร 17 พระองค์จาก 18 พระองค์ เพื่อรอการปิดทองทับไว้ที่ผิวด้านนอกอีกชั้น หลังจากที่สีดำจากยางรักแห้งลงในระยะเวลาประมาณ 20-30 วันหลังจากนี้ เมื่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่ภายในพระอุโบสถ ทราบว่าทางสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ได้ทำการเปิดม่านตาข่ายสีดำ (สแลน) ที่ได้ทำการล้อมไว้ระหว่างทำการลอกสีอะคริลิคเดิม ที่ได้นำมาพอกไว้เมื่อกว่า 16 ปีก่อนออก
หลังจากที่ได้ทำความสะอาดและเสริมความแข็งแรงขององค์พระ มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ค.65 ไปจนถึงวันที่ 11 พ.ย.65 (รวม 180 วัน) ด้วยงบประมาณ 1,300,000 บาท เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 ต.ค.65 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดเผยรูปโฉมขององค์หลวงพ่อโสธร ที่ทำการเคลือบผิวลงรักจนเป็นสีดำทั้งองค์ จนแล้วเสร็จ ให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปได้ชื่นชม และมาพบเห็นได้ในช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 27 ต.ค.65
หลังจากนักท่องเที่ยวและผู้มาแสวงบุญได้มาพบเห็นถึงความแปลกใหม่ขององค์หลวงพ่อโสธร ที่มีสีดำเป็นครั้งแรก จึงได้มีการถ่ายภาพและส่งต่อกันไปทั่ว จนเป็นที่ฮือฮาทำให้ผู้คนต่างพากันเดินทางมาดูองค์หลวงพ่อให้เห็นด้วยตาตนเองถึงยังที่วัด จึงทำให้เกิดความคึกคักมากขึ้นของนักท่องเที่ยว ขณะที่ทางกรมศิลปากรและผู้มีส่วนร่วมในการบูรณะ ได้มีการทำแผ่นป้ายบ่งชี้ แสดงถึงขั้นตอนในการบูรณะองค์หลวงพ่อโสธรพร้อมพระหมู่บริวารทั้ง 17 พระองค์ให้เห็นไว้ในขั้นตอนต่างๆ จนเป็นที่พอเข้าใจต่อนักท่องเที่ยวในแต่ละขั้นตอน
ซึ่งถือเป็นการทำให้พุทธศาสนิกชน ที่เคารพศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อโสธรได้มามีส่วนร่วมในการรับรู้ถึงขั้นตอนความเปลี่ยนแปลงไปขององค์หลวงพ่อ และยังเป็นการคลายความสงสัยเคลือบแคลงใจไปต่างๆ นาๆ ตามที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งก่อน ที่ยังไม่เคยมีการชี้แจงให้แก่คนในสังคมและผู้เลื่อมใสต่อองค์หลวงพ่อได้รับทราบถึงรูปโฉมความเปลี่ยนแปลงไปขององค์หลวงพ่อในครั้งนั้นมาก่อนเลย ทั้งที่เปิดใช้งานพระอุโบสถหลังใหม่มาเป็นเวลานานถึงกว่า 16 ปีที่เต็มแล้ว (30 ส.ค.2549) ก่อนที่จะพบรอยร้าวของสีที่พอกไว้เมื่อเดือน ม.ค.65
สำหรับรูปโฉมขององค์หลวงพ่อโสธรที่เพิ่งถูกบูรณะ ทำความสะอาดและเสริมความแข็งแรงใหม่ล่าสุดในครั้งนี้ มีความคล้ายคลึงกันกับภาพถ่ายในสมัยอดีตค่อนข้างมาก ผิดไปจากการบูรณะเมื่อครั้งก่อน ที่หลวงพ่อมีรูปโฉมที่ผิดเพี้ยนไปจากองค์ดั้งเดิมค่อนข้างมาก จึงทำให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อโสธรเกิดความไม่สบายใจมาตลอด 15 ปีหลังเปิดพระอุโบสถ จนมาเห็นองค์หลวงพ่อในปีที่ 16 ที่มีความคล้ายคลึงกันกับองค์ดั้งเดิมมากที่สุดอีกครั้ง
