ฉะเชิงเทรา – ตำรวจแปดริ้ว รู้ตัวโจ๋มือตามประกบยิงเด็กเทคนิคช่างกลแล้ว คุยจับได้แน่ หลังตามเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดตามรายทางขณะเกิดเหตุได้ วอนระดับจังหวัดยื่นมือช่วยไขปัญหา ครวญขบวนการขั้นตอนด้านกฎหมายเกี่ยวกับเยาวชนเป็นอุปสรรค ทำนักเลงนักเรียนไม่เกรงกลัวกฎหมาย ชี้หลังจับตัวได้ไม่นานกลับมาก่อเหตุซ้ำได้อีก โอดตำรวจทำหน้าที่ได้แค่ส่วนปลายเหตุ
วันที่ 17 พ.ย.65 เวลา 10.20 น. พ.ต.อ.พิทูรย์ พัฒนชัย ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้กล่าวตอบข้อซักถามต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีนักศึกษาต่างสถาบันขับรถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันบนถนนมหาจักรพรรดิ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จนทำให้มีนักศึกษาซึ่งเป็นเยาวชนชาย อายุ 17 ปี ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่เหนือหัวเข่าขวา เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. (16 พ.ย.65) ที่บริเวณด้านหน้าวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า
คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน โดยขณะนี้พอทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งยังเป็นเยาวชนแต่ขอยังไม่เปิดเผยเกี่ยวกับชื่อสถาบัน โดยปืนที่นำมาใช้ก่อเหตุนั้นพบว่าเป็นปืนแบบไทยประดิษฐ์ (อีโบ๊ะ) ที่บรรจุกระสุนปืนลูกซองได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเก็บรวบรวมหลักฐานโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดตามรายทางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 3 คนที่ขับรถ จยย.นั่งซ้อนท้ายกันมา
สำหรับอาการของนักศึกษาสาขาช่างกลปี 2 ที่ถูกยิงที่บริเวณหัวเข่านั้นไม่หนักมาก โดยโดนกระสุนลูกปลายเท่านั้น ส่วนปัญหาระหว่างเด็กทั้งสองกลุ่มนี้มีนานแล้ว แต่ได้ซาหายลงไปบ้างในช่วงระหว่างที่โรคโควิด 19 ระบาด จนมาถึงช่วงระหว่างเปิดทำการเรียนนั้น ยังได้มีการหารือกันมาโดยตลอดระหว่างสถานศึกษา จึงอยากจะให้ถึงมือผู้ว่าราชการจังหวัด และทางคณะกรรมการแก้ไขปัญหานักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบัน โดยได้รายงานต่อทางผู้บังคับบัญชาไปแล้ว
โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชนนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกี่ยวกับการดำเนินการอะไรต่างๆ อีกทั้งผลของคำพิพากษานั้น ยังเป็นการเข้าสู่ขบวนการของทางเด็กเยาวชนทั้งหมด จึงกลับกลายทำให้เด็กเยาวชนบางกลุ่ม ที่มีทั้งที่เรียนและไม่เรียนหนังสือมีแนวคิดผิดๆ ที่ทำให้หน่วยงานรัฐแม้แต่ทางสถาบันการศึกษาเองนั้น ก็ยังปวดหัวกันไปทั้งหมด แต่ได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างดีที่สุดแล้ว
แต่งานของตำรวจนั้น มันเป็นในส่วนของช่วงหลังจากเกิดเหตุแล้ว หรือเป็นเรื่องปลายเหตุ โดยมีการหารือกันทั้งทางป้องกันจังหวัด ทางอำเภอ สถานศึกษา สนง.คุมประพฤติ และส่วนที่เกี่ยวข้อง และขอยืนยันว่าทาง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จะดำเนินการให้ได้อย่างแน่นอนไม่ว่าใครก่อเหตุอะไรมา ทางตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จะสามารถจับได้แบบคลีนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งหมด แม้ในขณะนี้จะทราบตัวแล้ว แต่ขั้นตอนการจับนั้นไม่ได้จับซึ่งหน้า จึงต้องมีขบวนการที่จะต้องไปขอหมายจับ และทำตามขั้นตอนกฎหมายเกี่ยวข้องกับเยาวชนด้วย ซึ่งการก่อเหตุประเภทนี้ ถือเป็นภัยต่อสังคม
สำหรับกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ทั่วภายในตัวเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นสมาร์ทซิตี้นั้น ถือว่าสามารถช่วยการทำงานของตำรวจได้เป็นอย่างมากเกือบ 100 เปอรน์เซ็นในทุกคดี ล้วนแต่ได้ภาพมาจากกล้องวงจรปิดและนำมาแกะรอยขยายผลติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้งสิ้น จึงอยากประชาสัมพันธ์ประชาชนช่วยกันติดกล้องวงจรปิดกันไว้ให้มากๆ และหันมาในมุมสาธารณะช่วยการทำงานต่อเจ้าหน้าที่อีกสัก 1 มุมด้วย จะยิ่งดีมาก เนื่องจากกำลังตำรวจมีน้อยแต่จะช่วยให้สามารถจับกุมคนร้ายหรือผู้ก่อเหตุได้ พ.ต.อ.พิทูรย์ กล่าว
