ฉะเชิงเทรา – แจ้งเอาผิดนักการเมืองดัง ข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” หลังรองนายก อบจ.แปดริ้ว อ้างถูกตบศีรษะระหว่างลงพื้นที่ร่วมงานพิธีฌาปนกิจศพ ท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมาก ระบุหมดยุคทาสผู้มีอิทธิพลทางการเมืองแล้ว ลั่นเขาทำกับใครได้แต่อย่ามาทำกับตนไม่ยอมเด็ดขาด
วันที่ 27 พ.ย.65 เวลา 11.00 น. นายวรรณา รอดพิทักษ์ (สจ.เปี๊ยก) อายุ 69 ปี รองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.นุรัตน์ จันทะคุณ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีเอาผิดทางอาญาในข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” ต่อนักการเมืองดังระดับชาติรายหนึ่ง โดยอ้างว่าเมื่อวานนี้ เวลา 15.00 น. ตนเองได้รับเชิญให้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีการประชุมเพลิงศพผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง
ข่าวน่าสนใจ:
- วันแรก! คึกคัก สมัครนายกอบจ.ภูเก็ต ผู้สมัครมารอก่อนเวลา กองเชียร์แห่ให้กำลังใจอย่างล้นหลาม
- นครพนมคึกคัก! เปิดศึกเลือกตั้ง อบจ. วันแรก “ศุภพานี-ประสงค์” ชิงชัย พร้อมนโยบายพัฒนาท้องถิ่น
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- กองเชียร์นายกก้อยคึก แม้ไม่มีคู่แข่งดีกรีพอทาบบารมีได้ ในสนามชิงนายก อบจ.แปดริ้ว
ที่วัดทุ่งส่อหงษา ตั้งอยู่เลขที่ 11 ม.7 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งในระหว่างที่ตนเองนั่งรอพิธีการทอดผ้าที่บนโซฟาไม้ ซึ่งเป็นที่นั่งสำหรับประธานพิธี ได้มีนักการเมืองชื่อดังระดับชาติรายหนึ่งเดินเข้ามา ผ่านด้านหน้าเก้าอี้ที่ตนนั่งจากอยู่นั้น และได้ใช้มือขวาตบลงมาไปที่ศีรษะตนเองบริเวณเหนือหน้าผากด้านซ้าย (ขมับซ้าย) พร้อมชี้หน้าพูดว่า “ไอ้เหี้..ยเปี๊ยก มึงชอบด่ากูนะ” และชี้หน้าพูดซ้ำ 2-3 ครั้ง และยังพูดว่า “ลับหลัง มึงก็ด่ากู”
ซึ่งตนยังได้ถามกลับไปว่า “ผมไปด่าเมื่อไหร่ ด่าอย่างไร ใครบอก” ซึ่งเขาก็ตอบคำถามตนไม่ได้ โดยตนยังได้ย้อนถามกลับไปว่า “แล้วเมื่อก่อนนั้นเคยด่าโคตรพ่อ โคตรแม่ตนไว้นั้น เพื่ออะไร” แต่เขาถามกลับมาว่า “กูด่ามึงตั้งแต่เมื่อไหร่” ตนจึงบอกว่า “ถ้าท่านจำไม่ได้ก็แล้วไป” แต่ตนจำได้เพราะตนเองอยู่และมีพยาน เพราะเขาพูดเข้ามาทางโทรศัพท์อยู่ในรถ ซึ่งเรื่องนี้มันนานแล้ว เมื่อ 2 ปีมาแล้ว
ซึ่งตนมองว่ามันไม่ถูกต้อง และตอนนี้ทุกอย่างมันไม่มีแล้วมันหมดยุคทาสแล้ว ไม่มีแล้วบุคคลที่มีอิทธิพลที่จะมาครอบงำมาทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ เนื่องจากทุกคนมีสิทธิ์เท่ากัน ไม่มีใครเหนือใคร ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร แต่จะมาแสดงแบบนี้ตนเองว่ามันไม่ถูกต้อง และงานนี้เป็นงานให้เกียรติเจ้าภาพ เราไปงานศพเจ้าภาพเขามีความเสียใจ แต่เราไปให้กำลังใจเขา ซึ่งไม่น่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น
ซึ่งในงานมีคนมากมายกว่า 200 คน ตนเองจึงไม่คาดคิดว่าเขาเข้ามาแล้วจะมาทำแบบนั้น ส่วนสาเหตุที่เขาทำอย่างนั้นเพื่ออะไรนั้นตนไม่ทราบ ต้องไปถามเขาดูเอง โดยตนเองนั้นจะเข้ามาแจ้งความตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่เมื่อออกจากงานมาแล้วได้มีรถประกบมา 2-3 คัน จึงตัดปัญหาว่างั้นขับรถกลับบ้านก่อน เพื่อมาเข้าแจ้งความใหม่ในวันนี้ เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัยเพราะว่าในพื้นที่ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า บางครั้งอาจจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ ยังไงก็ต้องระวังแต่ระวังได้แค่ไหนไม่รู้
ซึ่งเดิมการไปร่วมงานนั้น ตนได้รับการติดต่อจากนายก อบต.ท่ากระดาน ว่าจะให้ตนไปเป็นประธานในพิธีประชุมเพลิง แต่ระหว่างพิธีมีการรอเวลานานมาก ต่อมาจึงทราบว่าจะมีนักการเมืองคนดังระดับชาติรายดังกล่าวมาด้วย ตนจึงบอกว่านั้นก็ให้ตนทอดผ้าก่อนก็ได้แล้วตนจะได้กลับ โดยเราเองนั้นไม่จำเป็นต้องประเป็นประธานก็ได้ แต่ถ้าเขามาก็ให้เขาเป็นประธานไปเราก็จะกลับ
ขณะที่ทางโฆษกในงานพิธีนั้น ยังไม่ให้เราทอดผ้าและรอจนนักการเมืองบ้านใหญ่รายนี้มา โดยที่ตนยังคงนั่งอยู่โดยที่ไม่ได้หันไปมองว่าเขามาตอนไหน แต่พอเดินมาถึงเขาก็เริ่มลงมือตบเลย โดยขณะนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ขอให้เป็นไปตามกฎหมายถ้าผิดก็ขอให้ว่ากันไปตามผิด โดยเรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องการเมือง แต่ไม่น่ามีอิทธิพลแล้วควรจะจบได้แล้ว เรื่องอิทธิพลทางการเมืองเนี่ย มันไม่ควรมีแล้ว
โดยทุกคนต้องเอาความดีมาทำให้ชาวบ้านเขาเห็น ว่าเราทำความดีแล้วเขาเลือกเราดีกว่า ดีกว่าเราเอาอิทธิพลมาครอบงำชาวบ้าน แล้วตอนหลังชาวบ้านเขาคงไม่เอาด้วย เพราะตอนนี้ทุกอย่างชาวบ้านเขาฉลาดพอหมดแล้ว เขาฉลาดเท่าเทียมกันกับพวกเราหมดแล้ว โดยตนเป็น ส.อบจ.มากว่า 30 ปี เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนมา 30 ปี และได้มาดำรงตำแหน่งรอง นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ในขณะนี้ แล้วยังโดนแบบนี้ แล้วประชาชนจะโดนอย่างไร นายวรรณา กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: