ฉะเชิงเทรา – ทุกข์ชาวบ้าน ยังไม่จบสิ้นปัญหาช้างป่าเหยียบคนตายต่อเนื่องแบบรายเดือน บางช่วงมีตายรายสัปดาห์ ล่าสุดทำร้ายคนรับจ้างฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าหูพิการ ที่ไม่ได้ยินเสียงร้องเตือนจากเพื่อนร่วมงาน จนถูกช้างทำร้ายดับคาที่ ด้านญาติร้องระงมวอนหน่วยงานรับผิดชอบเร่งแก้ไขให้ชาวบ้านพ้นทุกข์ ขณะนายอำเภอทำได้เพียงเข้าเกลี้ยกล่อมด้านจิตใจ รับเป็นนโยบายหลักจากทาง ผวจ.แปดริ้ว ที่เตรียมตั้งคณะทำงานแก้ วิกฤตสางปัญหาให้คนกับช้างอยู่ร่วมกันได้
วันที่ 2 ธ.ค.65 เวลา 09.50 น. ร.ต.อ.ซึ่งเฉลี่ย ไตรบุตร รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุช้างป่าทำร้ายคนเสียชีวิต ภายในบริเวณสวนป่ายูคาลิปตัส พื้นที่ ม.7 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม จุด อ.ท่าตะเกียบ หน่วยทหารพรานที่ 1306 และฝ่ายปกครอง
ที่เกิดเหตุเป็นแปลงสวนป่ายูคาฯ เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่เศษ อยู่ลึกห่างออกไปจากถนนสาย อ่างเสือดำ มุ่งหน้าบ้านหนองปรือน้อย แยกออกไปทางขวาตามเส้นทางเดินเท้าในสวนประมาณ 7 กม. พบร่างของนายเนน บุญแต่ง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.7 ต.ท่าตะเกียบ นอนคว่ำหน้าในสภาพเสื้อผ้าขาดวิ่น จมอยู่กับพื้นดิน และมีร่องรอยถูกช้างเหยียบที่กะโหลกศีรษะจนแหลกละเอียด มันสมองกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นไปทั่วบริเวณ ตามลำตัวถูกช้างป่าเหยียบและทำร้ายจนกระดูกหักน่วมไปทั่วทั้งตัว
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพรับจ้างฉีดพ่นยาฆ่าหญ้า ได้เดินทางออกมารับจ้างพร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน โดยในขณะเกิดเหตุทราบว่าเพื่อนที่มาด้วยกันนั้น ได้เห็นช้างป่าก่อนจำนวน 1 ตัว จึงได้ร้องบอกให้ผู้ตายทราบ เพื่อหลบหนี แต่ผู้ตายเป็นคนหูดึงจึงได้ยินเสียงไม่ชัด และร้องถามกลับมาว่ามีช้างมาหรือ และเมื่อผู้ตายหันกลับไปช้างป่าได้เข้ามาในระยะประชิดตัวแล้ว จึงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันได้วิ่งหลบหนีเอาตัวรอดมาได้
หลังเกิดเหตุได้มี นายสุนทร โภคา นายอำเภอท่าตะเกียบ เดินทางมายังในที่เกิดเหตุ พร้อมเข้าปลอบประโลมญาติของผู้เสียชีวิต ที่นั่งร้องให้ระงมอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ พร้อมร้องขอให้ทางราชการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้จบสิ้นไป หลังจากมีชาวบ้านในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะ อ.สนามชัยเขต และ อ.ท่าตะเกียบ ที่อยู่ใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน (ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก)
กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนทำให้ชาวบ้านออกไปประกอบอาชีพทำกินไม่ได้ เนื่องจากมีชาวบ้านถูกช้างป่ามาทำร้ายจนเสียชีวิตมาโดยตลอด อย่างต่อเนื่องในทุกๆ เดือน จนมีบางครั้งมีผู้เสียชีวิตแบบต่อเนื่องกันเป็นรายสัปดาห์มาอย่างยาวนานหลายปี
โดยนายสุนทร ที่เพิ่งเดินทางเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ได้กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา มีความเป็นห่วงใยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยในขณะที่ตนเองได้เข้าไปรายงานตัว ยังได้กำชับฝากถึงในเรื่องนี้มาด้วยเป็นกรณีพิเศษ โดยที่ทาง จ.ฉะเชิงเทรา จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อพิจารณาหาหนทางที่จะให้ประชาชนกับช้างป่านั้นอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข นายสุนทร ระบุ
สำหรับช้างป่าตัวนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นช้างป่าเพศผู้ตัวเต็มวัย มีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 5-6 ตัน และเป็นชุดเฝ้าระวังหลังที่อยู่ทางด้านท้ายของโขลงที่มักจะมีนิสัยค่อนข้างดุร้าย หลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายร่วมกันตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้ว จึงได้ให้อาสาสมัครกู้ภัย เคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตไปให้แพทย์ทำการชันสูตรยังที่ รพ.ท่าตะเกียบ อีกครั้ง จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 น. จึงได้เคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีทางศาสนายังที่วัดอ่างเสือดำต่อไป
