ฉะเชิงเทรา – คำต่อคำ ลุงตู่หวานไม่หยุด หยอดทิ้งท้ายนะจ๊ะไว้เป็นระยะ อยากมาบอกอะไรให้คนแปดริ้วรับรู้ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมรอบด้านในพื้นที่ ชูแนวทางการเดินหน้าพัฒนาประเทศ พร้อมวาดนโยบายสานต่อการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมีความสุข ด้วยหลักเท่าเทียมและความเป็นธรรม ก่อนชื่นชมคนพื้นที่ ที่มีทั้งรอยยิ้มและความสะอาดให้ดู
วันที่ 10 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางมาเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ภายในบริเวณสำนักงาน อบจ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งช่วงระหว่างพิธี นายกรัฐมนตรีได้กล่าวพูดคุยก่อนพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางประชาชน ที่เดินทางมารอคอยต้อนรับจำนวนหลายพันคน เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (16.00 น.) ว่า สวัสดีชาวแปดริ้วที่รักทุกคน
ข่าวน่าสนใจ:
ผมเคยมาที่นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ใจนั้นมาตลอดอยู่แล้วเพราะเคยรับราชการอยู่ในจังหวัดใกล้ๆ กัน และฉะเชิงเทรายังอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบในช่วงของการเป็นทหารเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ครั้งแรกมาปลูกป่าแควระบมสียัด อ.ท่าตะเกียบ ฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม ครั้งที่ 2 มาดูความคืบหน้าการรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ที่ทำให้ขณะนี้โครงการหลายโครงการเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
วันนี้มีโอกาสมาพบกับชาวแปดริ้วอีกเป็นครั้งที่ 3 และมาสักการะหลวงพ่อโสธร อยากจะบอกซ้ำอีกครั้งว่าดีใจ ถึงแม้อากาศจะร้อนอบอ้าวอย่างไรก็ตามแต่ก็มีความสุข ที่ได้มาเห็นรอยยิ้มของ ปชช.ชาวแปดริ้ว และได้ฟังผู้ว่าราชการจังหวัด รายงานการพัฒนาด้านต่างๆ ได้มากน้อยเพียงใด จะเห็นได้ว่ารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ตามที่เคยบอกไว้แล้วว่า ตนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ มีคนต้องดูแลประมาณ 70 ล้านคน ฉะนั้นจะดูแลทุกคนให้มีความสุขให้ได้
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นพยายามดูแลทุกคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย หลายอย่างที่ทำมา ได้ตั้งหลักเอาไว้ 2 ประการ คือ 1.ความเท่าเทียมของโอกาสที่ทุกคนสามารถจะใช้สาธารณูปโภคพื้นฐานตามที่ทุกคนต้องการเป็นทางเลือก ทั้งถนนเพิ่มขึ้น ทางรถไฟเพิ่ม รถไฟทางคู่เพิ่มขึ้น รถไฟความเร็วสูงตามแต่สภาพ เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มรายได้ ลดภาระ ลดเวลา ให้ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมในการใช้สิ่งเหล่านี้
นอกจากนี้ยังมีอีกความเท่าเทียมอย่างหนึ่งที่ทุกคนอาจจะลืมไป คือ ความเท่าเทียมของกฎหมาย ที่เป็นกฎหมายเดียวกัน ที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม ขอฝากความร่วมมือไว้ด้วย บ้านเมืองจะได้ไม่เกิดปัญหาทั้งในวันนี้และอนาคตต่อไป เพราะกฎหมายเป็นสิ่งที่จะทำให้ประเทศชาติหรือทุกคนนั้น ต่างไม่มีผลกระทบซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันได้อย่างเรียบร้อยปลอดภัยมีความสุข
2.ความเป็นธรรม สำหรับผู้มีรายได้น้อย ต้องได้รับการดูแลพอสมควร จะเห็นได้ว่ารัฐบาลทำทั้ง 2 อย่าง ในการที่จะพัฒนาทางกายภาพของโครงสร้างพื้นฐาน และเรื่องสุขภาพ วันนี้เรื่องสุขภาพเราถือว่ายอดเยี่ยมในอาเซียน เราพร้อมที่จะเป็นฮับในเรื่องการรักษาพยาบาล ที่เราทำมาหลายปีแล้ว จนได้รับคำชื่นชม วันหน้าเราจะเป็นเมดิคัลฮับให้ได้ในอาเซียน วันนี้คนกำลังมาบ้านเราแน่นทุกวันหลังโควิด 19 น้อยลง ทำให้คนมาเต็มโรงพยาบาล แต่ก่อนคนเต็มโรงพยาบาลจากโรคโควิด 19 วันนี้โควิดหายไปแล้ว คนก็เข้ามารักษาพยาบาลกันมากขึ้น
สำหรับเรื่องการดูแลผู้มีรายได้น้อย เป็นเรื่องที่จะต้องดูแลเขาไม่ใช่แต่เฉพาะช่วยเหลือเขาอย่างเดียว ต้องดูแลให้ความรู้พัฒนาขีดความสามารถให้ เพื่อให้มีรายได้สูงขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตทั้งตัวเขาและครอบครัว เพราะทุกวันนี้โลกเจริญเร็ว เทคโนโลยีต่างๆ ก็เจริญเร็ว ฉะนั้นสิ่งของอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็มีมากขึ้น ทำให้ทุกคนอยากจะมีอยากจะใช้ จึงอยากให้ทุกคนนั้นมีเงินที่พอเพียงเพื่อใช้จ่ายในสิ่งที่เหมาะสม
สิ่งเหล่านี้จึงต้องทำต่อไป ไม่ว่าตนเองจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ต้องทำต่อไป ทุกรัฐบาลต้องทำแบบนี้ ไม่งั้นมันแก้ไม่ได้เพราะปัญหาคนเราเยอะ ประเทศเรามีพื้นที่ 5 แสนตาราง กม. มีคน 70 ล้านคน บางประเทศเล็กกว่าเรามีพื้นที่เท่าเกาะหนี่งของเราแต่มีคน 4 ล้าน บางประเทศมีที่ดินเพียง 0. นิดหน่อยของเรา แต่รายได้จีดีพีเขาสูง เขาทำได้อย่างไร เพราะมันต่างกัน ทรัพยากรของเขากับของเรามันต่างกัน แต่บ้านเราโชคดีในเรื่องของการเกษตร มีปัญหาเรื่องน้ำก็แก้ไขเรื่องน้ำ ฉะนั้นเราจะเป็นศูนย์กลางของการผลิตอาหาร
เราต้องคิดกันต่อว่าจะทำอย่างไรให้การผลิตสินค้าเราเพียงพอและมีคุณภาพ มีการรับรอง มีการมอบมาตรฐาน สินค้าจีไอพี เอพี อย่างไรก็แล้วแต่ ต้องพัฒนาไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้ ไม่อย่างนั้นวันหน้าเราจะถูกมาตรการต่างๆ ในการกีดกันคุณภาพพวกนี้เพราะทำได้มาก การปรับปรุงคุณภาพต้องให้ความสนใจความใส่ใจเพราะคู่แข่งเราเยอะ ไม่ว่าจะส่งไปขายประเทศไหนก็ตาม เพราะเริ่มมีคู่แข่งเข้ามาแล้ว ฉะนั้นเราต้องรักษาความได้เปรียบตรงนี้ไว้ให้ได้
ในส่วนของอุตสาหกรรม เราตั้งใจจะเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ของประเทศ ของอาเซียน และของโลกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการลงทุนเข้ามาแล้ว และสามารถผลิตรถได้ปีละเกือบ 1 ล้านคัน แล้วราคารถจะถูกลง ทั้งยังจะแก้ไขปัญหา PM 2.5 ให้เราได้ด้วย และจะขยายในเรื่องแบตเตอรี่ อะไรต่างๆ ให้ครบวงจรในประเทศ
โดยที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีศักยภาพมาก ทั้งมะม่วง ไก่เนื้อไก่ไข่ ข้าว ปลากะพงขาว สุกร ยางพารา มันสำปะหลัง และสินค้าเกษตรที่ขึ้นทะเบียนบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จีไอ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบางคล้า มะพร้าวน้ำหอมบางคล้า ไก่เขาหินซ้อน และอีกหลายๆ อย่าง เราสามารถที่จะมุ่งเน้นทำโครงการเหล่านี้ให้ไปสู่จุดหมายด้านการท่องเที่ยวในเชิงเกษตรด้วย อันนี้คือสิ่งที่อยากจะฝากไว้ ในเมื่อเรามีศักยภาพแล้วต้องหาศักยภาพนี้ให้เจอ และจะขยายอย่างไรให้เพิ่มรายได้ให้มากยิ่งขึ้น
การท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักเมืองรอง การท่องเที่ยวแต่ละสาขาที่ต้องทำต่อ ในการจะเชื่อมโยงสิ่งเหล่านี้ รัฐบาลจะเสริมตรงนี้ให้ จะเห็นว่าเรามีโครงการต่างๆ ที่ออกมามากมายในช่วงนี้ เมื่อหลายๆ อย่างดีขึ้น งบประมาณดีขึ้น โควิดเบาลง ก็คาดว่ารัฐบาลน่าจะดูแลส่งเสริมให้มากยิ่งขึ้นได้ เพื่อจะเพิ่มพูนรายได้ในระดับพื้นที่ให้ได้ โดย จ.ฉะเชิงเทรา ถือเป็นจังหวัดที่อยู่ต้นตาราง ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวปี 2563 ก่อนโควิด 19 นั้นสี่แสนกว่าบาทต่อคน เป็นอันดับที่ 9 ของประเทศ
แต่อย่างไรก็ตามในจำนวนนี้มีผู้มีรายน้อยอยู่ด้วยจึงเป็นเพียงค่าเฉลี่ย เราต้องดูแลว่าจะทำอย่างไรต่อไป ในวันนี้ศูนย์ทดสอบยานยนต์ยางล้อ เป็นศูนย์แห่งแรกในภูมิภาค โดยเรามีศูนย์ทดสอบแบบนี้เราจะได้ไม่ต้องส่งไปทดสอบที่ต่างประเทศ เพราะค่าใช้จ่ายแพงกว่ามาก เราต้องการจะส่งเสริมการประกอบรถยนต์ชิ้นส่วนรถยนต์ และเราเป็นประเทศที่ผลิตยาง มีต้นทุนทางการผลิตอยู่แล้ว คือ ยางพาราในประเทศเราเยอะแยะมาก ถ้าเราทำครบวงจรได้ เราก็จะมีรายได้จากตรงนี้ ไม่เสียเวลาไม่เสียราคาที่แพงขึ้นมากกว่าที่จะทำเอง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามที่จะทำอย่างเต็มที่
สำหรับปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องขอชมเชยผู้ว่าฯ (นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี) และนายกฯ อปท.ทุกคน หลังจากที่นั่งรถมาร่วมกับ รมว.มหาดไทย ได้ชื่นชมว่าที่นี่สะอาด โดยเมื่อตนไปไหนมักจะดูอยู่เรื่อย แสดงถึงความเอาใจใส่ รวมถึงขอบคุณประชาชนด้วย ที่ตลอดเส้นทางไม่พบเห็นขยะเท่าไหร่ จะบอกว่าไม่มีเลยก็คงไม่ใช่เพราะคนเยอะ ทำอย่างไรจะขจัดตั้งแต่ต้นทางให้ได้มากที่สุด ตั้งแต่ในบ้านไม่ทิ้งส่งเดช หากปลิวไปหน้าบ้านคนอื่นการท่องเที่ยวก็เสีย
เรื่องสิ่งแวดล้อมกากอุตสาหกรรม ขยะมูลฝอยเพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้จะต้องไปสู่การทำพลังงานหมุนเวียนจากขยะและวัชพืช ตรงนี้รัฐบาลกำลังจะขับเคลื่อนในส่วนของพลังงาน ในส่วนของ PM 2.5 นั้นทราบว่าอันตราย แต่มีที่มาหลายด้าน โดยรถยนต์ยานพาหนะก็ต้องอยู่ในกรอบมาตรฐานความสะอาดความปลอดภัย และคุณภาพของเครื่องยนต์ อีกส่วนหนึ่งกำลังเดินหน้าไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้นถึงร้อยละ 30 ในปี ค.ศ. 2030 เพื่อช่วยลดตรงนี้ (Co2) ไปได้ในระดับหนึ่ง
สรุปเป้าหมาย คือ เมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว น่าลงทุน พัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ อีอีซี ในกิจกรรม 7 ชนิด ทั้งการบริการสาธารณะ การใช้รถไฟฟ้า การใช้ออนไลน์ การใช้ดิจิตอล สายไฟฟ้าลงดิน อะไรต่างๆ เหล่านี้ จึงเรียกเป็นเมืองอัจฉริยะ ในวันข้างหน้าเราจะมีความสุขมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าเราต้องหารายได้ของตัวเราให้มากขึ้นด้วย จากการฝึกอาชีพ หางาน สร้างงานที่มีรายได้สูงขึ้น สำหรับค่าแรงที่ต้องดูแลการพัฒนาแรงงานฝีมือ และมีการพัฒนาแรงงานส่งไปยังต่างประเทศด้วย
ที่ผ่านมาถือเป็นความโชคดี ที่ได้ประชุมเอเปค และได้มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบียทำให้หลายอย่างดีขึ้นมาก และการลงทุนจะมาอีกมหาศาล ทั้งในช่วงปีนี้และปีหน้า รวมไปถึงประเทศต่างๆ ในยุโรปและอาเซียน เขามีแผนจะมาลงทุนกับเราอยู่แล้ว และไม่ใช่เป็นการคุยโอ้อวดอะไรทั้งสิ้น จึงอยากแจ้งให้ทราบว่า โอกาสกำลังมาที่เรา เราต้องรักษาประเทศของเราให้มีเสถียรภาพ ไม่มีความขัดแย้งอะไร ทั้งสิ้น เราจึงจะเจริญอย่างยั่งยืน
เราอยู่กันด้วยพหุสังคม พหุวัฒนธรรม นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ที่เราจะต้องรักษาไว้ ยึดมั่นในชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ให้ได้ แล้วเราจะได้มีความสุขเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ตามที่กล่าวไว้คือ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน นี่คือเป้าหมายในอนาคต นี่คือวิสัยทัศน์ของผม ฉะนั้นจะเดินหน้าไปถึงตรงนั้นต้องผ่านเส้นทางยากลำบากบ้าง วันนี้พาคุยกันไปพอสมควร และพอจะเดินหน้าไปได้เร็วขึ้น พลเอกประยุทธ์ กล่า
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: